เพราะถูกทีวีหลายประเทศซื้อไปออนแอร์ในประเทศของตนเอง อย่างเช่นประเทศจีน ซึ่งก่อนหน้านี้สัก 5-6 ปี ชาวจีนส่วนมากมักจะดูละครญี่ปุ่น-เกาหลีเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันกระแสดังกล่าวกลับซาลงอย่างเห็นได้ชัด และละครไทยนี่แหละเป็นตัวดึงผู้ชมแดนมังกรได้เป็นอย่างดี
ดาราเดลี่ ได้สอบถามไปยังคนไทยที่อยู่ในประเทศจีนเกี่ยวกับข่าวดีที่ละครไทยที่ไปดังในแดนมังกร ว่าทุกวันนี้คนจีนสามารถดูละครไทยได้ใน "ช่องซีซีทีวี"(CCTV) ของประเทศจีน และตามอินเตอร์เน็ต เท่านั้น
ส่วนเหตุผลที่ประชาชนจีนส่วนใหญ่ชื่นชอบละครไทย ก็อาจจะเป็นเพราะการอยู่อาศัยของคนจีนและคนไทยคล้ายๆ กัน อีกสิ่งหนึ่งที่มีอิทธิพล ที่สุดก็คงจะเป็นเหล่าบรรดานักแสดงของไทยที่ส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่ง นี่อาจจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของละครไทยก็เป็นได้
ทางด้านฝ่ายประชาสัมพันธ์ของค่ายเอ็กแซ็กท์ ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่าทางเอ็กแซ้กท์ได้มีการนําละครไปฉายที่ประเทศจีนตั้งแต่ปี 2008 แล้ว อาทิ รอยอดีตแห่งรัก, หงส์เหนือมังกร ฯลฯ ล่าสุดที่โด่งดังมากนั่นคือละครเรื่อง "สงครามนางฟ้า" เพราะละครเรื่องนี้เองจึงทําให้พระเอกของเรื่องอย่าง "ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์" เป็นขวัญใจ อาหมวย ไปโดยปริยาย
ทั้งนี้จากการเช็กกระแสของผู้ชมในจีน พบว่านักแสดงที่เป็นที่นิยมอันดับ 1 คือ "ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี" เขาดังในชุดเครื่องแบบทหารในเรื่อง "เลือดขัตติยา" ทําเอาสาวๆ หลงกันเลยทีเดียว ส่วนรองลงมาเป็นพระเอกปากแดง "อั้ม-อธิชาติ" อาจจะเป็นเพราะมีรูปร่างที่น่าหลงใหลชวนฝัน
ทางผู้จัดละครไทยนั้นก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ละครของค่ายตนเองถูกนำไปไปฉายในตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกํา โดยคาดว่าจากบรรดาค่ายละครไทยทั้งหมด น่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศเฉียดๆ 100 ล้านบาทเลยทีเดียว
ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของวงการละครไทยที่มีต่างชาติมาซื้อไปฉาย ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับแนวละครของบ้านเรา ที่ต้องสรรหาอะไรแปลกใหม่ มาเสนอให้กับผู้ชม มิฉะนั้นกระแสละครไทยในประเทศจีนที่เราได้สร้างมาทั้งหมด คงจะหมดไปเพราะความซ้ำซากอย่างน่าเสียดาย ♦
