ทิชากร หรือ กะทิ (ราศี บาเล็นซิเอก้า) เป็นนักเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งมีนามปากกาว่า “ฮัมมิ่งเบิร์ด”นิยายของ ทิชากรได้รับความนิยมในหมู่นักอ่านเพราะมีบทโรมานซ์หวือหวาเอาใจตลาดแต่ความจริงเธอยังเวอร์จิ้น และเริ่มจะหมดมุกเลิฟซีนที่จะเขียนเธอเป็นสาวโบฮีเมียนขนานแท้แถมยังชอบทำอะไรโก๊ะๆโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ และสิ่งที่น้อยคนรู้ก็คือเธอเป็นลูกสาวของหมอไกรฤทธิ์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) อดีตหมอไสยจอมขมังเวทย์ที่ผันตัวมาเป็นแพทย์แผนโบราณเพราะกลัวบาป
ทิชากรกำลังจะเขียนนิยายโรมานซ์ซึ่งเกิดในไร่องุ่น ซาร่า (บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ) บอกอสาวประเภทสองของเธอจึงเสนอให้หญิงสาวไปใช้ชีวิตในไร่องุ่นสายลม ซึ่งเป็นไร่องุ่นของรุ่นน้อง ซาร่าเพื่อหาข้อมูล หารู้ไม่ว่าไกรฤทธิ์หวงลูกสาวคนเดียวที่จะต้องจากบ้านไปไกลโดยลำพังเขาจึงแอบส่ง รัก (สุพิชชา มงคลจิตตานนท์) ยม (ทัศน์พล วิวิธวรรธ์) ให้ไปตามดูแลเธอ
ในวันที่ ทิชากรไปถึงไร่องุ่นสายลม เธอประหลาดใจเมื่อเห็นท้องฟ้าเหนือไร่องุ่นเต็มไปด้วยเมฆดำทะมึนปกคลุม เธอรู้โดย สัญชาตญาณของลูกอดีตจอมขมังเวทย์ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่รวมทั้ง รัก-ยมในกระเป๋าก็ออกมายื่นยันว่ามีสิ่งผิดปกติ
สิ่งที่ ทิชากรเห็นไม่ใช่ความหล่อบาดใจของเขาที่ผู้หญิงทุกคนเป็นต้องหลงใหล แต่เป็นใบหน้าหมองคล้ำเหมือนถูกของและเงาของ นางโหงพราย (จุฬา ศรีคำมา) ที่เกาะอยู่บนหลังเขาต่างหาก ทิชากรจึงเดินเทิ่งๆไปบอกผู้ชายคนนั้น แต่กับถูกเขาตอกหน้ากลับมาอย่างไม่เชื่อถือทำให้เธอโกรธมาก หนุ่มหล่อปากร้ายคนนั้นก็คือ วายุภัค หรือ ลม (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) หนึ่งในสี่ฝาแฝดตระกูลอดิศวรซึ่งได้รับหมอบหมายให้ดูแลไร่องุ่นของครอบครัวนั่นเอง
วายุภัคมีนิสัยไม่ต่างจากลมเพลมพัด รักง่ายหน่ายเร็ว ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ และมีอารมณ์ศิลปินสูง ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาบาดใจราวกับเทพบุตรเดินดินและนิสัยรื่นรมย์ช่างยิ้ม วายุภัคจึงมีสาวมากหน้าหลายตาพลัดเปลี่ยนไปมาอยู่ตลอด เมื่อต่างคนต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร วายุภัคกับ ทิชากรจึง ปฎิเสธที่จะเกี่ยวข้องกัน แต่ซาร่าห้ามไว้และเตือนให้เธอเห็นแก่หน้าที่ พร้อมกับลำเลิกบุญคุณกับวายุภัคที่เธอเคยกีดกันสาวๆของเขาสมัยที่ชายหนุ่มไปเรียนปริญญาโทด้านการองุ่นและทำไวท์ ที่ ฝรั่งเศส ชายหนุ่มจึง ปฎิเสธไม่ได้ สองคนจึงต้องอยู่ในไร่องุ่นอย่างเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อไป
วายุภัคมีอาการเปลี่ยนไปจากเดิม มักได้ยินภาษาแปลกๆ เห็นเงาวูบวาบ ปวดศรีษะและท้องทรมานอย่างไม่รู้สาเหตุ ทิชากรรู้จากท่านเจ้าที่ว่านางโหงพราย ถูกหมอไสยคนหนึ่งเสกมาเพราะมีความแค้นกับวายุภัคแต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ทิชากรจึงพยายามบอกกับวายุภัค เขายิ่งคิดว่าเธอบ้า
ทิชากรกับวายุภัคทะเลาะกันหลายครั้ง ทิชากรโกรธจัดจึงประกาศกร้าวว่าเธอจะทำให้เขาเห็นว่าเขาผิดให้ได้และต้องคลานมาขอโทษเธอ
การต่อสู้ห้ำหั่นกันระเบิดขึ้นไปทั้งไร่ เมื่อ ทิชากรบุกสาดน้ำมนต์ใส่วายุภัคไปทุกที่ด้วยวิธีการต๊องๆตามประสาเธอ เพื่อให้อาการของคนถูกของแสดงออกมาแต่วายุภัคก็ไวสมชื่อลม เขาสามารถรอดพ้นจากการจู่โจมของ ทิชากรได้ทุกที สาวๆของวายุภัคหายไปเกือบหมดแต่
วายุภัคไม่เดือดร้อนกับการที่ผู้หญิงของเขาหายหน้าไปทีเดี่ยวเกือบหมด ที่สำคัญ วายุภัคแอบประทับใจทิชากรอย่างไม่รู้ตัวเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาไม่เคยนึกเบื่อ
หมอไสยดำ (สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์) ส่งคุณไสยครอบงำจิตใจของวายุภัคจนใช้ชีวิตไม่ต่างจากผีดิบโดยทั้งให้นางโหงพรายถึงสามตนควบคุมเขาไว้ ทิชากรจึงบุกเข้าไปช่วยเขาโดยมี รัก-ยม และเจ้าหน้าอีกแรงหนึ่ง เมื่อวายุภัคฟื้น เขาโกรธจัดเพราะเสียหน้าที่หญิงสาวบุกเข้ามาถึงในบ้านและกล่อมทุกคนในครอบครัวเขาจนเชื่อว่าเขาถูกคุณไสยจริง พวกเขาจึงมีปากเสียงกันรุนแรงวายุภัคเผลอลวนลามจูบทิชากรไปโดยไม่รู้ตัวทำให้เธอโกรธมากและประกาศว่าจะไม่ช่วยวายุภัคอีกแล้ว
วันนั้นเองวายุภัคถูกคุณไสยและผีตายโหงทำร้ายปวดท้องเกือบตาย เขาจึงเริ่มเชื่อเธอในที่สุด เมื่อไปถึงโรงพยาบาลก็พบวัตถุประหลาดที่อยู่ในท้องของวายุภัค ทิชากรเลยจำเป็นต้องช่วยเขาเพราะไม่อยากให้เขาตายจึงเอาน้ำมนต์ให้ดื่มแล้วอาเจียนออกมาโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด
วายุภัคพบความจริงว่าเขาหลงรัก ทิชากรเข้าแล้ว วายุภัคยอมให้ ทิชากรช่วยอย่างเต็มใจ เขาหัดสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำบุญทำทานแผ่เมตตา แม้จะไม่หายขาดเพราะหมอไสยดำยังไม่ยอมรามือแต่อาการของวายุภัคก็ดีขึ้นพร้อมๆกับความสัมพันธ์ของเขากับ ทิชากรที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว
ความสัมพันธ์ที่ดีก็สะดุดลงเมื่อ พัชนี (สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตต์) บุตรสาวกำนันทอง (สมเล็ก ศักดิกุล) ซึ่งหลงรักวายุภัคมาตั้งนาน มาหา ทิชากรและบอกเธอว่าวายุภัคมีลูกมีเมียแล้ว ทิชากรจึงทะเละกับชายหนุ่มรุนแรง วายุภัคน้อยใจที่หญิงสาวไม่เชื่อ ความสัมพันธ์ของทั้งสองยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าเมื่อ ซองแตล (อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท) คู่รักเก่าของวายุภัคและที่ปรึกษาของไร่เดินทางมาจากฝรั่งเศสเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพไวน์ ความสวยสง่าและมีรสนิยมเดียวกันของลมกับซองแตลตอกย้ำให้ ทิชากรเห็นความแตกต่างระหว่างเธอกับชายหนุ่มมากขึ้นทุกที ทิชากรรู้สึกแปลกแยกทุกครั้งที่ซองแตลพูดเรื่องในอดีตของเธอกับวายุภัค ในเทศกาลเก็บเกี่ยวองุ่นประจำปีของไร่ วายุภัคอธิบายให้นักเขียนสาวได้รับรู้ถึงความรักและจริงใจที่เขามีต่อเธอและถือโอกาสปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด
ทิชากรพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนสั่งหมอไสยให้ทำร้ายวายุภัค จึงขอความช่วยเหลือจาก อัจจิมา (อุรัสยา เสปอร์บันด์) ภรรยาของ อัคนี (ณเดช คูกิมิยะ)และ เฌอเอม (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) คนรักของ ปฐพี (ปริญ สุภารัตน์) สามสาวจึงบุกบ้านปิ่นมุกรวมทั้งตระเวนทั่วจังหวัดเพื่อหาหมอไสยดำ หมอไสยดำรู้ว่า ทิชากรตามหาเขา เขายังรู้อีกว่างานของเขาถูกขัดขวางจากเธอเขาจึงเบนเข็มมาจัดการทิชากรก่อน หญิงสาวโดนทำคุณไสย
ทิชากรฝันร้ายและอาการไม่ดี นเวลาเดียวกันไกลฤทธิ์โทรศัพท์มาบอกว่าเธอกับวายุภัคมีเคราะห์หนักห้ามออกไปไหนเด็ดขาด เธอจึงรีบไปตามวายุภัคแต่ถูก ปฎิเสธและเข้าข้างซองแตลตำหนิ ทิชากรว่าเหมือนเด็กไม่มีเหตุผล ทิชากรโกรธและน้อยใจมากเธอจึงไปสวดมนต์นั่งสมาธิคนเดียวเพื่อช่วยวายุภัค
วันนั้นหญิงสาวได้รับจดหมายลับให้ไปยังสถานที่แห่งหนึ่งถ้าต้องการช่วยวายุภัคเธอจึงรีบไปเพียงลำพังด้วยความเป็นห่วงชายหนุ่มแต่พบหมอไสยดำที่รอคอยทำร้ายเธอให้กลายเป็นนางโหงพรายรับใช้
วายุภัครู้ข่าวว่า ทิชากรหายตัวไปจากปฐพีและอัคนี อัจจิมากับเฌอเอมเล่าความจริงว่า ทิชากรทำอะไรมากมายเพื่อวายุภัคบ้าง เขาจึงสำนึกผิดและออกตามหา ทิชากรที่บ้านกำนันทองพร้อมพี่น้องของเขาและเจ้าชายภูวเนศ (อธิชาติ ชุมมานนท์) และองครักษ์ที่มาเมืองไทยพอดีกำนันทองรับสารภาพว่าสะกดรอยตาม ทิชากรจิงแต่ไม่ได้ทำร้าย และบอกตำแหน่งสุดท้ายที่คนของเขาเห็นหญิงสาวทั้งหมดจึงรีบตามไปทันที รัก-ยม บอกชายหนุ่มว่า ทิชากรอยู่ในป่าช้าพวกเขาช่วยเธอออกมาได้โดยมีนางโหงพรายสามตนช่วยอีกแรงเนื่องจาก ทิชากรและวายุภัคแผ่เมตตาให้พวกมันมาตลอด
ทิชากรอาการหนักไม่ฟื้นเสียที ไกรฤทธิ์กับภรรยาก็มาถึงโรงพยาบาลอย่างไม่มีใครคาดฝันและต่อว่าวายุภัคที่ไม่ยอมเชื่อลูกสาวเขาและกีดกันตามประสาคนห่วงลูก
หมอไสยดำใช้อำนาจทำร้าย ทิชากรกับวายุภัคอีก แต่ไกรฤทธิ์ไม่ยอมอยู่เฉยจึงใช้อาคมสู้กับหมอไสยดำ จึงช่วย ทิชากรและวายุภัคไว้ได้ ส่วนหมอไสยดำก็ถูกนางโหงพรายทั้งสามฆ่าตายด้วยความแค้น
ทิชากรฟื้นคืนสติแต่เธอไม่ยกโทษให้วายุภัคเพราะไม่กล้าเชื่อใจเขาอีต่อไป ปฐพี อัคนี และ ทิพย์ธารา (คิมเบอร์รี่ แอนด์ โวลเทมัส) คู่แฝดของวายุภัคจึงช่วยกันวางแผนง้องอนจนหญิงสาวยอมใจอ่อนและเปิดเผย ความลับ ที่วายุภัคหมกมุ่นกับการทำไวน์จนละเลย ทิชากรก็เพราะต้องการทำไวน์ที่เหมาะสมกับผู้หญิงสวยเก๋ ห้าวหาญมุ่งมั่นและไม่น่าเบื่ออย่าง ทิชากร รามทั้งส่งไวน์รุ่น “ทิชากร” นี้ เข้าประกวดรางวัลระดับโลก เพื่อเป็นของขวัญแต่งงานให้กับเจ้าสาวของเขา วายุภัคขอโทษ ทิชากรและคืนดีกันในที่สุด
วายุภัคสัญญากับทิชากรว่าเขาจะไม่เจ้าชู้อีก เพราะเห็นโทษของความเจ้าชู้ที่ทำให้เข้ากับคนที่เขารักเกือบตายมาแล้ว วายุภัคแต่งงานกับ ทิชากรหลังทำไวน์ที่เหมาะสมกับหญิงสาวได้สำเร็จโดยกวาดรางวัลมากมายสมความตั้งใจ แต่เขาก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาไวน์ใหม่ๆและสะสมถ้วยรางวัลให้เต็มห้องขณะที่ทิชากรเองก็มีฉากรักไว้เขียนนิยายโรมานซ์ของเธอโดยไม่ติดขัดอีกเลย
รายชื่อนักแสดง “วายุภัคมนตรา”
สันติสุข พรหมศิริ แสดงเป็น มนตรี
จินตหรา สุขพัฒน์ แสดงเป็น สุพรรษา
ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แสดงเป็น วายุภัค, ลม
ราศรี บาเล็นซิเอก้า แสดงเป็น ทิชากร, กะทิ
ปริญ สุภารัตน์ แสดงเป็น ปฐพี
ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง แสดงเป็น เฌอเอม
ณเดช คูกิมิยะ แสดงเป็น อัคนี
อุรัสยา เสปอร์บันด์ แสดงเป็น อัจจิมา
คิมเบอร์รี่ แอนด์โวลเทมัส แสดงเป็น ทิพย์ธารา
อธิชาติ ชุมนานนท์ แสดงเป็น เจ้าชายภูวเนศ
สุพิชชา มงคลจิตตานนท์ แสดงเป็น รัก
ทัศน์พล วิวิธวรรธ์ (ปีเตอร์แพน) แสดงเป็น ยม
จุฬา ศรีคำมา แสดงเป็น นางโหงพราย
สุเชาว์ พงษ์วิไล แสดงเป็น ไกรฤทธิ์
ปวีณา ชารีฟสกุล แสดงเป็น ทิพย์
ตรีพล พรมสุวรรณ แสดงเป็น ภาณุ
สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตต์ แสดงเป็น พัชนี
สมเล็ก ศักดิกุล แสดงเป็น กำนันทอง
สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ แสดงเป็น หมอไสยดำ
เบญจพล เชยอรุณ แสดงเป็น ศักดิ์
จั๊กบุ๋ม แสดงเป็น เสก
ปาจรีย์ ณ นคร (พุดเดิ้ล) แสดงเป็น นากรี
อเล็กซานดร้า สติเบิร์ท แสดงเป็น ซองแตล
ดารณีนุช โพธิปิติ แสดงเป็น กัญญา
กิก ดนัย จารุจินดา แสดงเป็น นที
อดิศร อรรถกฤษณ์ แสดงเป็น วรุณ
มาวิน ทวีผล แสดงเป็น ราจีฟ
บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ แสดงเป็น ซาร่า
ส้ม (The Singer) แสดงเป็น โบพา
กล้วย(The Singer) แสดงเป็น จันทู
กัญญ์พัสวี ตั้งมั่นคงวรกุล แสดงเป็น ปิ่นมุก
สุชัญญา โยธิกุล แสดงเป็น พันทิวา
บทประพันธ์ แพรณัฐ
บทโทรทัศน์ ฐานวดี สถิตยุทธการ
กำกับการแสดง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา วชิรบรรจง แอ็ค อาร์ท เจเนเรชั่น จำกัด
วายุภัคมนตรา ออกอากาศทุกวัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30น. ทางช่อง 3 ♦