กํากับการแสดงโดย "ธงชัย ประสงค์สันติ" ทําให้เราได้มองเห็นแววของ "พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์" นักแสดงรุ่นใหม่ของช่อง 7 สีคนนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะก้าวขึ้นสู่การเป็นนักแสดงมืออาชีพได้อย่างเต็มภาคภูมิในอนาคต
ความจริงแล้ว "ลูกโขน" เป็นละครสั้นๆ เพียง 9 ตอนที่นําเอานักแสดงหน้าใหม่อย่าง "พอร์ช-ศรัณย์" กลับมาเปิดตัวอีกครั้ง !! เพราะก่อนหน้านี้...พจน์ อานนท์ เป็นผู้ปลุกปั้น และชักนํา "พอร์ช-ศรัณย์" ในฐานะนักแสดงของภาพยนตร์เรื่อง "ซอรี่ ซารางแฮโย เการักที่เกาหลี"
ทว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ประสบความสําเร็จทางการตลาด เนื้อนาบุญ..ชื่อเสียงในฐานะนักแสดงของเขาจึงสตาร์ทใหม่ที่ ช่อง 7 สี
เพื่อนสนิทคนคุ้นเคย ชอบเรียกเขาว่า "ไอ้ยาว" บางคนก็เรียก "ไอ้หม้อ" เพี้ยน จาก "พอร์ช" มาเป็น "พ็อต" (Pot) ที่แปลว่า "หม้อ"
เด็กหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราคนนี้ เล่นดนตรีได้ และร้องเพลงเป็น แถมมีน้ำเสียงไพเราะอีกต่างหาก พอร์ชเคยเล่นดนตรีและร้องเพลงตามสถานประกอบการธุรกิจกลางคืนมาก่อน แต่เขากลับยืนยันที่อยากจะพาตัวเองมาเอาดีในแวดวงการแสดงตามที่เขาหมายมุ่งไว้นานแล้ว
พจน์ อานนท์ เป็นคนนําพา "พอร์ช-ศรัณย์ ศิริลักษณ์" เข้าไปหา "คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์" ที่ช่อง 7 สี ในห้วงเวลาที่วิกหมอชิตกําลังเผชิญกับปัญหาวิกฤติต่อเนื่องในเรื่องการขาดแคลน "พระเอก-นางเอก"!
เนื่องจากดาราแถวหน้าหลายคนของช่อง 7 ตัดสินใจไปร่วมงานกับช่อง 3 ไม่ว่าจะเป็น "ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ", "ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต" รวมถึง "พิ้งกี้- สาวิกา ไชยเดช" (หลังจากช่อง 7 สีไม่ต่อสัญญา) ดารานักแสดงที่มีฝีไม้ลายมือระดับพระ-นางเบอร์ 1 ของช่อง 7 สีนั้น เหลือเพียงไม่กี่คน จังหวะนี้ " เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร" ได้ขยายปีกส่งเด็กในสังกัดหน้าใหม่ๆ ที่ช่อง 3 พจน์ อานนท์ ส่ง "พอร์ช-ศรัณย์" เข้ามาในจังหวะนี้ สอดรับกับช่วงที่ช่อง 7 สีกําลังหา "นักแสดงหน้าใหม่" พอดี
ทันทีที่ "คุณแดง-สุรางค์" เห็นหน้าตาหน่วยก้านของเด็กหนุ่มคนนี้ ก็บอกให้ไปลดหุ่นทันที ดังนั้น เขาจึงต้องไปออกกําลังกาย เข้าฟิตเนสเพื่อให้ตัวกว้างขึ้นเพื่อให้สมกับรูปร่างที่หนักไปทางสูง เล่นกันแบบหนักๆ 3 วันต่อสัปดาห์
หลังจากลงทุนฟิตอย่างหนัก เขาถูกหมายมั่นและระบุจากค่าย "คําพอดี" ให้เป็นหนึ่งในนักแสดงเรื่อง "มนต์รักแม่น้ำมูล"ละครเรื่องนี้ พระเอก-นางเอก คือ "เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ" และ "จุ๋ย-วรัทยา นิลคูหา" ขณะที่ถ่ายทํามนต์รักแม่น้ำมูลนั้น เขาก็ได้รับการวางตัวให้เล่นละครดังอีกเรื่องในอดีตคือ "คือหัตถาครองพิภพ" และเขาได้มีโอกาสเข้ามาเป็นนักแสดงให้กับละครเทิดพระเกียรติเรื่อง "ลูกโขน" ละครเรื่องนี้ทําให้เราเห็นฝีไม้ลายมือการแสดงของพอร์ช ก่อนละคร "มนต์รักแม่น้ำมูล" ที่เขารับบทป็นนักแสดงนําของเรื่อง
คนที่ยังไม่ได้มีโอกาสชมละครเทิดพระเกียรติ "ลูกโขน" อาจจะมองเห็นภาพของเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ชัดเจนนัก เพราะฉะนั้น...ขอแนะให้กลับไปดูย้อนหลังจากยูทูบ แล้วจะพบเห็นความแวววามของเพชรเม็ดนี้
ละครเรื่องนี้พอร์ชต้องเล่น 2 บทบาทที่แตกต่างสุดขั้ว ทั้งในบท "นักมวย" ผู้ดุดัน และ "ลูกโขน" ที่อ้อนแอ้น อ่อนช้อย มากกว่านั้นละคร "ลูกโขน" ยังมีซีน "อารมณ์" แบบบาดลึกที่สามารถเรียกน้ำตาของผู้ชมได้ทุกฉากตอน
การแสดงของพอร์ช ทําให้เรารู้ว่า แท้ที่จริงแล้ว เด็กหนุ่มในวัย 18 ปีคนนี้ ที่เหมาะและเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดงจริงๆ
ดวงตาของเขามีชีวิตชีวาและสามารถใช้แววนั้นไปกับทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นการจิกสายตา การเรียกน้ำตา การพูดจากรุ้มกริ่ม น้ำหนักเสียง เนื้อเสียงรื่นดูและน่าฟัง ทุกสิ่งอย่างดูกลมกลืนไปหมด ไม่น่าเชื่อว่านี่คือผลงานเรื่องที่ 2 ของเขา ต่อจากหนัง "เการักที่เกาหลี" เท่านั้น
นอกจากนี้ ฝีมือของนักแสดงรุ่นใหญ่ทั้ง "เกรียงไกร อุณหะนันท์" และ "วินัย ไกรบุตร" ต่างก็สําแดงเดช อวดความสามารถกันอย่างเต็มที่ และกลายเป็นเครื่องหนุนส่งตัวพอร์ชได้อย่างดีเยี่ยม
คําพูดของพอร์ช ในบท "กําปั้น" จากละครเรื่องนี้ มีนัยบางอย่างที่ซ่อนซุกอยู่ในประโยคนี้
"ผมไม่ได้อยากเล่นโขนเพราะการแสดง แต่ผมอยากเป็นหนึ่งชีวิตที่แสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง ผมอยากเล่นโขนถวายในหลวง"
ประโยคกินใจนี้ อยู่ในช่วงต้นๆ ของละคร ขณะที่พ่อ ซึ่งรับบทโดย "วินัย ไกรบุตร" เขียนชีวิตวาดอนาคตลูกชาย ให้เดินตามรอยพ่อสร้างชื่อเสียงบนเวทีมวย จึงพยายามทุกวิถีทางที่จะขัดขวางลูกชายไม่ให้เล่นโขน สุดท้ายพ่อก็เข้าใจสัจธรรมว่า ความเห็นแก่ตัวของพ่อ อาจจะทําลายความสุขของลูกไปตลอดชีวิต จึงยินยอมปล่อยให้ลูกไปเป็นลูกโขน
ผลงานละครเรื่องต่อไปของเขา กําลังจะทยอยออกอากาศในปี 2554 ทั้ง มนต์รักแม่น้ำมูล, เสน่ห์บางกอก, โบ๊เบ๊ (รับเชิญ) รวมทั้งยังมีข่าวว่าถูกวางตัวในละครรีเมคฟอร์มใหญ่ "คือหัตถาครองพิภพ" อีกด้วย
เชื่อนักว่า บทบาทหลากหลายจากผลงานละครเหล่านี้ จะเป็นบันไดขั้นแรกๆ ที่จะส่งให้ "พระเอกต้นกล้า" ดาวรุ่งดวงนี้ก้าวเดินสู่จุดหมายปลายทาง ที่มี "ความสําเร็จ" ทอดรอเขาอยู่แล้ว
"พอร์ช-ศรัณย์" จะกลายเป็นเพชรเม็ดงาม เป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต "นักปั้น" ของ พจน์ อานนท์ รวมทั้ง ช่อง 7 สี และ "คุณแดง-สุรางค์ เปรมปรีดิ์"!! ♦
