ตัดสินใจสละโสดรับปีกระต่ายอีกคู่ สำหรับสาว "กุ๊ก-กฤติกา ศักดิ์มณี" กับทายาทคนสุดท้องของ สามเค แบตเตอรี่ "หนุ่ม-วีรวิน ขอไพบูลย์" โดยถือฤกษ์ดีลั่นระฆังรักวันที่ 9 มกราคม 2554 เข้าพิธีหมั้นพร้อมฉลองมงคลสมรส ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล หลังจากที่ทั้งคู่คบหากันได้เพียงไม่กี่เดือน
ในส่วนของพิธีหมั้นช่วงเช้า จัดขึ้นที่บ้านของฝ่ายชายซอยสุขุมวิท 101 โดยมีสินสอดมอบให้กับครอบครัวของฝ่ายหญิง ซึ่งประกอบไปด้วยเงินสดจำนวนหลายล้านบาท ชุดเครื่องเพชรประกอบด้วย แหวน ต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ พร้อมแหวนหมั้นเพชร 3 กะรัต โดยได้ฤกษ์สวมแหวนตอน 09.29 น. ท่ามกลางความยินดีของครอบครัวฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว จากนั้นช่วงเย็นเป็นพิธีฉลองมงคลสมรสณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ลในเวลา 19.00 น. โดยมีแขกผู้ใหญ่ และเหล่าคนบันเทิงร่วมแสดงความยินดี
เริ่มต้นความรักครั้งนี้ได้อย่างไร ?
กุ๊ก : "ก่อนหน้านี้กุ๊กได้มีโอกาสรู้จักกับคือพี่ชายคุณหนุ่ม เขาก็มักจะเข้ามาพูดเล่นๆ ว่า มีน้องชายหน้าตาดี แต่นิสัยไม่ค่อยดี สนใจไหม จากนั้นก็มีโอกาสได้ไปทำงานพิธีกรให้กับครอบครัวของคุณหนุ่มครั้งแรกที่เจอกัน คุณหนุ่มก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร แต่เพราะพี่ชายและคุณแม่ของเขาพยายามสานต่อให้ เราก็ได้เจอกันบ่อยๆค่ะ"
หนุ่ม : "คือผมเองก็เคยเห็นเขาในทีวีมาก่อน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะครั้งแรกที่พบกันต่างคนต่างมาทำงาน ผมเป็นคนจริงจังและค่อนข้างซีเรียสมากในเวลาทำงาน หลังจากนั้นคุณแม่และพี่ชายก็ได้นัดกุ๊กมาทานข้าวเลี้ยงขอบคุณซึ่งวันนั้นที่เจอกัน กุ๊กไม่ได้เหมือนในทีวีเลย เขาใส่แว่นมา ไม่ได้แต่งหน้าแต่งตัวอะไรมากมาย เป็นปกติมาก ผมเองก็เป็นคนชอบคนง่ายๆ ไม่วุ่นวาย ก็เลยเริ่มประทับใจว่าเขาน่ารัก"
ขอแต่งงานกันที่ไหนยังไง ?
หนุ่ม : "ในช่วงที่ขอนั้นเป็นเวลาที่เราคบหากันเพียงไม่กี่เดือน ไปขอที่มัลดีฟส์ครับ วันนั้นผมเตรียมไปตั้งใจไปเลย ผมเป็นคนขี้ลืม กลัวว่าถ้าไปขอเขาวันที่ 11 เมษายน 2553 นานๆ ไปอาจจะลืมได้ ก็เลยคิดว่าขอวันสงกรานต์แล้วกัน คือวันที่ 13 เมษายน 2553 ระหว่างรอก็เกร็ง เตรียมโน้ตไปกะไว้ว่าวันที่ขอก็น่าจะพูดอะไรหวานๆ แต่ถึงเวลาจริงตื่นเต้นจำไม่ได้ ก็เลยขยำโน้ตทิ้ง แล้วก็พูดไปจากใจเราเลยว่า เขาจะดูแลผมได้ไหม เพราะผมเป็นคนไม่ค่อยดูและตัวเองเท่าไหร่ ทำงานเยอะ เขาก็บอกว่าได้สิแต่งงานกับผมนะ"
ในเวลาน้อยนิดเพราะอะไรถึงได้ตัดสินใจ
หนุ่ม : "สำหรับผม เวลามันไม่ได้มีความหมายอะไรมากกว่า ช้าหรือเร็ว เราเป็นคนกำหนด เวลาอยู่ใกล้คุณกุ๊ก ผมค่อนข้างเป็นตัวของตัวเองรู้สึกสบายใจ ไม่ใช่ภาพที่ทุกคนเห็นกันในบริษัท เล่นอะไรแปลกๆ ขี้อ้อน ขี้น้อยใจ เพราะผมเป็นน้องคนสุดท้อง ด้วยเหตุผลบางอย่างที่เวลาผมคุยกับเขา ผมจะค่อนข้างฟัง เวลามีปัญหาอะไร เขาจะคุยกับผมด้วยเหตุผล ก็เลยมั่นใจว่า เขาดูแลเราได้ อนาคตเขาจะต้องเป็นแม่ที่ดีของลูกผมได้อย่างแน่นอน"
กุ๊ก : "คือจริงๆ ที่พี่ชายพี่หนุ่ม พูดว่าหน้าตาดี แต่นิสัยไม่ค่อยดี จริงๆ พอมาคบกัน เราก็พยายามมองหาว่าเขานิสัยไม่ดีตรงไหน แต่ยิ่งพยายามมองหาเรากลับได้เจอสิ่งดีๆ คือพี่ชายก็บอกตอนหลังว่า แค่พูดให้น่าสนใจอยากให้เราพยายามมองหาและศึกษา เขาก็เป็นคนทำงานเหมือนกัน และเป็นคนที่ดูแลเข้าอกเข้าใจเราดี เป็นห่วงเราตลอด เลยมั่นใจได้กับคนคนนี้ คือบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมตอบตกลงในระยะเวลาที่คบหาไม่นาน แต่พอเราคบกันไป จนถึงวันที่เขามาขอแต่งงาน ความรู้สึกเราในตอนนี้บอกว่าถึงแม้จะเจอกันไม่นาน แต่คนนี้ใช่ เมื่อนึกถึงเขา เขาชอบที่เราเป็นเราจริงๆ"
มีการตกลงหรือสัญญาอะไรก่อนแต่งงานไหม ?
หนุ่ม : "คำสัญญาคงไม่มีอะไรเป็นพิเศษ คงเหมือนทุกครั้งคือในวันที่เราออกปากขอเขา เราได้บอกว่าจะดูแลเขาเป็นอย่างดี คุณพ่อก็ฝาก ดังนั้นหน้าที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งก็คือ ต้องรักษาตรงนี้เอาไว้ และดูแลเขาอย่างดี"
กุ๊ก : "ก็จะพยายามดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด เรื่องการบริหารเวลาก็ต้องให้ครอบครัวมากเป็นอันดับหนึ่ง เรื่องงานที่ทำอยู่เราก็ยังจะรับผิดชอบในส่วนที่เราทำได้ ตามเวลาที่จะจัดสรรได้ พี่เขาไม่ได้ห้ามเราทำงาน เขายังอยากให้เราทำงาน ได้เจอผู้คน ได้บริหารความคิด และสิ่งที่เราได้ทำมาตลอด"
วางแผนอะไรจากนี้ต่อไปไหม ?
หนุ่ม : "ก็คงเป็นการฮันนีมูนครับ คิดไว้ว่าจะไปที่เชียงใหม่ทันทีครับ สำหรับเรื่องทายาทนั้นคืออายุผมเยอะแล้ว อายุคุณกุ๊กก็เยอะพอสมควร ก็คงแพลนที่จะมีบุตร เพราะตอนนี้เราก็มีความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน บ้าน สุขภาพทุกอย่างพร้อมหมดแล้วก็ลุย" ♦