"ลุย หล่มสัก" (วีรภาพ สุภาพไพบูลย์) เป็นเด็กกำพร้าเติบโตที่หล่มสักโดยมีพระอาจารย์รูปหนึ่งเลี้ยงดู ชีวิตเด็กวัดของลุยผกผันเมื่อผู้มีอิทธิพลในทางนักเลงถูกชะตาจึงขอไปเลี้ยง พระอาจารย์กำชับกับผู้มีอิทธิพลท่านนั้นว่า...ดวงลุยความตายขึ้นอยู่ในมือเต็มพรืดไปหมด อบรมให้ดีก็จะดี แต่ถ้าร้ายจะร้ายยิ่งกว่ามหาโจร แต่ดูเหมือนว่าการจะอยู่ในเส้นทางชีวิตคนดีของลุยนั้นยากยิ่ง เพราะพ่อบุญธรรมของเขาทำงานให้กับองค์การลับซึ่งทำงานผิดกฏหมาย ลุยเติบโตขึ้นในสิ่งแวดล้อมของอาชญากร...
หลายปีผ่านไป ลุยกลายเป็นหนุ่มรูปร่างบึกบึนแข็งแรงสมชายชาตรี เมื่ออายุ 21 ปีแข่งขันชกมวยชิงรางวัล แรงพลังของเขาทำให้คู่ชกบาดเจ็บถึงขั้นเสียชีวิต นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนในแถบนั้นต่างพากันโจษจันชื่อ ลุย หล่มสัก
ลุยมีคนรักชื่อ "ไทรงาม" (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) เป็นลูกสาวร้านขายอาหารในตลาด แต่เธอถูกบังคับให้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงเลื่อย ลุยบุกเข้าไปฉุดเจ้าสาวหนีในวันแต่งไปใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ความรักของลุยที่มีให้ไทรงามไม่เคยจืดจาง มีเพียงเรื่องงานเท่านั้นที่เขาขอร้องไม่ให้หญิงสาวก้าวก่าย ไทรงามไม่เคยรู้ว่าลุยทำงานอะไร รู้แต่เพียงว่าลุยทำงานให้กับพ่อผู้มีพระคุณ และการทำงานแต่ละครั้ง ลุยได้เงินกลับมาทีคราวละมาก ๆ
วันหนึ่งเกิดเรื่องร้ายขึ้นเมื่อพ่อของลุยถูกหักหลังถูกกลุ่มโจรฆ่าตาย ความแค้นทำให้ลุยเกรี้ยวกราด ลุยเผาบุกทำลายล้างพวกกลุ่มโจรที่ฆ่าพ่อจนราบคาบ แล้วพาไทรงามอพยพไปอยู่กับ "กริช ลมกรด" (อนุสรณ์ เตชะปัญญา) นายใหญ่ของพ่อ
กริช ลมกรด เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งองค์การที่พ่อเขาเคยทำงานให้ ทำเรื่องผิดกฏหมายทั้งค้าอาวุธเถื่อน สินค้าเถื่อนทุกชนิด รวมถึงของหนีภาษี ยาเสพติด ที่สำคัญ องค์การนี้รับจ้างฆ่าคน กริชชอบใจในฝีมือยิงปืนของลุยที่แม่นราวจับวาง ตำแหน่งของลุยเมื่อมาอยู่กับกริชจึงเป็น "มือปกาสิต" ซึ่งก็คือ "มือปืนอาชีพ" นั่นเอง
องค์การยังมีผู้ร่วมก่อตั้งอีก 4 คนคือ "ทองเพชร เหล็กกล้า" (ทองขาว ภัทรโชคชัย),"เทียว สิบทิศ" (เบคิม ฤทธิ์),"ศักดา ปาฏิหาริย์" (ประกาศิต โบสุวรรณ), และ "ปกาศิต จอมพลัง" (โอลิเวอร์ บีเวอร์) จอมบงการหัวหน้าใหญ่ลุยทำงานให้กับองค์การอย่างดีเสมอมา ที่องค์การลุยมีโอกาสพบกับ "สร้อยคีรี" (ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์) อดีตคนรักเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นถึงกลุ่มผู้นำหญิงคนหนึ่ง ความรักในอดีตไม่สมหวังเพราะลุยรู้สึกตัวด้อยค่าจึงปล่อยให้สร้อยคีรีชอบพอกับเพื่อนรักอีกคนหนึ่งของเขา ทันทีที่พบหน้ากันลุยกับสร้อยคีรีตระหนักว่ายังคงมีความรักและผูกพันระหว่างกันเพียงใด สร้อยคีรีแอบช่วยเหลือลุยในหลายเรื่อง ไทรงามเองก็สังเกตเห็นและนึกไม่สบายใจอยู่บ้าง เพราะเคยรู้ว่าสองคนนี้รักกันมากเพียงใด หากแต่ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ลุยกับสร้อยคีรีจึงตกลงจะเป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น
ผลงานและความจงรักภักดีของลุยต่อองค์การนับว่าน่าพอใจ แต่เมื่อลุยได้รู้ว่าไทรงามตั้งท้อง เขาเริ่มคิดอยากกลับตัวเป็นคนดีอยากถอนตัว ยิ่งเมื่อได้เห็นหน้า ทอม ลูกชายสุดที่รัก ลุยก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาต้องการวางมือจากอาชีพนี้โดยเร็ว แต่เขาก็ถูกนายทั้งหลายต่อรองเรื่อยมา พร้อม ๆ กับสร้อยคีรีเองก็เฝ้าเตือนเขาไม่ให้แสดงตัวว่าจะทำตัวออกห่างองค์การนัก เพราะเธอรู้ว่าลุยจะต้องได้รับอันตรายแน่นอน จนทอมอายุได้ 5 ขวบ ลุยมีโอกาสช่วยเหลือ "แวววัลย์" (แพร เอมเมอรี่) เด็กสาววัยรุ่นกำพร้าใจแตกจากเงื้อมือของอันธพาล แวววัลย์มีอดีตที่ไม่น่าจดจำ พ่อแม่ของเธอแยกทางกัน แม่หนีไปกับชู้หนุ่มคนใหม่ ส่วนพ่อถูกฆ่าตายจากการเข้าสู่วงการเมืองได้ไม่นาน แวววัลย์หลงรักลุยและชื่นชมมากเข้ามาเป็นเพื่อนเล่นกับ ทอม อยู่บ่อย ๆ
ตอนแรกลุยไม่สบายใจที่แวววัลย์เข้ามาสนิทสนมเพราะกลัวไทรงามไม่สบายใจ แต่เมื่อทราบถึงอดีตของแวววัลย์ ลุยถึงกับต้องผงะ เพราะว่าแท้ที่จริงแล้วแวววัลย์เป็นบุตรสาวของเหยื่อกระสุนของเขาในอดีตในยุคแรก ๆ ที่เริ่มทำงานให้กับองค์กร ทำให้ลุยรู้สึกผิดมากยิ่งขึ้นเมตตาแวววัลย์เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ซึ่งแวววัลย์เข้าใจดีและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ เธอเข้ามาอยู่เป็นเหมือนคนในครอบครัวของลุย เป็นพี่สาวของทอม
ลุยไม่อยากขัดแย้งกับนายใหญ่ขององค์การ เขาจำต้องยอมรับงานฆ่านักการเมืองทุจริตคนหนึ่งจากองค์การ แต่งานนี้เองที่ลุยต้องเสียใจมากที่สุด เพราะเขาพลั้งมือลั่นกระสุนใส่เด็กสาวคนหนึ่งที่นักการเมืองคนนี้แอบล่อลวงมาจากผับ และทันทีที่พลิกร่างเด็กสาวคนนี้ขึ้นมา กลับกลายเป็น แวววัลย์ ที่เผลอเข้ามาอยู่ในที่เกิดเหตุโดยไม่รู้ตัว
ลุยแทบคลั่งด้วยความเสียใจ...เขาไม่ตั้งใจจะดับชีวิตเด็กสาวคนที่ตัวเองฆ่าพ่อเธอเลย ลุยรู้สึกผิดในใจอย่างมาก เหตุการณ์นี้ทำให้เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะวางมือโดยเด็ดขาด เขาทำจดหมายแจ้งองค์การว่าต้องการลาออกและสัญญาว่าจะเก็บรักษาความลับทุกอย่างขององค์การไว้ แต่กริชไม่สนับสนุนการตัดสินใจของลุยเพราะรู้ดีว่าองค์การไม่เคยปล่อยให้ใครเลิกอาชีพนี้ การออกจากองค์การทำได้เพียงสถานเดียวคือ..จบชีวิต
กริช กับ "เดือนแรมกล้า" (ดนัย สมุทรโคจร) เพื่อนรักของลุยและ สร้อยคีรี พยายามคัดค้าน แต่ลุยตัดสินใจแน่วแน่ เขาพาเมียและลูกหนีไปประจวบเพื่อสร้างชีวิตใหม่ด้วยกัน โดยความช่วยเหลือของ สร้อยคีรี ที่หลอกล่อจนเหล่าเจ้านายขององค์การตายใจ ปล่อยให้ลุยหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
เมื่อลุยหนีไป ปกาศิต จอมพลัง สั่งให้ลูกน้องในองค์การออกล่าตัวพร้อม ๆ กับจับตัวเดือนเพื่อนรักของลุยมาเพราะเชื่อว่าเดือนรู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เดือนถูกซ้อมอาการสาหัสแต่เพราะความรักเพื่อนทำให้เดือนยอมทนเจ็บปิดปากเงียบ ปกาศิตโกรธมากจะเล่นงานเดือนถึงตาย แต่ลูกน้องคนหนึ่งของปกาศิตบังเอิญคุยกับ"บอย" (พูลภัทร อัตถปัญญาพล)แล้วได้ข้อมูลว่า คนที่มารับทอมลูกของลุยคือ ไทรงาม และ ย้อย ศรีไทย เดือนจึงถูกปล่อยตัว และเป้าหมายของปกาศิตเปลี่ยนเป็นย้อยทันทีย้อยเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ลุยไว้ใจ เขากับเดือนเป็นเพียง 2 คนที่รู้ว่าลุยหนีไปอยู่ที่ไหน เงินจากองค์การไม่สามารถทำให้ย้อยพูดถึงลุยได้ การใช้กำลังก็ไม่ได้ผล แต่การขู่ฆ่าเมียรักทำให้ย้อยจำต้องสารภาพหมดเปลือก
แคล้ว ถูกส่งไปเก็บลุยที่ประจวบฯ แต่ด้วยฝีมือของลุยที่เหนือชั้นกว่าทำให้เขารอดและแคล้วกลายเป็นศพเสียเอง ก่อนตายลุยเค้นความจริงจากแคล้วแล้วก็ต้องแค้นใจอย่างมากเมื่อแคล้วกลับสารภาพว่าคนที่บอกที่อยู่ของลุยคือ เดือน แรมกล้า เพื่อนรักของเขา ความจริงผิด ๆ ที่แคล้วพูดส่งเดชทำให้ลุยคิดว่าเดือนเป็นเพื่อนทรยศ ลุยรีบพาลูกเมียหนีไปชุมพร และวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นเหนือเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยเพื่อให้องค์การไขว้เขว ชีวิตสงบสุขอย่างที่ลุยต้องการดูจะไกลห่างเสียแล้วปกาศิตหงุดหงิดใจอย่างมากที่ลุยรอดไปได้ เขาสั่งให้กริชไปจัดการลุยด้วยตัวเอง แต่กริชไม่ทำตาม ปกาศิตโกรธมาก ถ้าไม่ติดเรื่องผลประโยชน์ที่ต้องพึ่งพากันปกาศิตคงฆ่ากริชไปแล้ว
แต่เมื่อทำไม่ได้ ปกาศิตจึงเปลี่ยนเป็นเนรเทศกริชไปประจำการสาขาองค์การที่ฮ่องกงแทนก่อนไปต่างประเทศกริชชวนเดือนไปตามหาลุยเพื่อจะเตือนเขา บอยคิดถึงทอมจึงขอตามพ่อไปด้วย กลุ่มของกริชคลาดกับลุยไปนิดเดียว คนที่ตามลุยเจอกลับเป็นคนของ เทียว สิบทิศ เทียวให้คนตามกริชมาตั้งแต่กรุงเทพฯ เพราะเชื่อว่ากริชต้องรู้ที่ซ่อนของลุย แม้กลุ่มของกริชจะคลาดกับลุย แต่ลูกน้องของเทียวปะทะกับลุยแบบเต็ม ๆ อดีตมือสังหารอย่างลุยเป็นฝ่ายชนะ ลุยตัดสินใจว่าเมื่อภาคใต้ไม่ปลอดภัย เขาจะย้ายไปทางเหนือแทน..
ลุยพาครอบครัวมาลงหลักปักฐานที่จอมบึง ราชบุรี โดยความช่วยเหลือจาก บุปผา กำนันหญิงกร้าว...เพื่อนเรียนของไทรงาม บุปผาช่วยเหลือทั้งเรื่องที่อยู่และที่ทางทำมาหากินให้กับทั้งคู่ หลายเดือนแล้วที่ไม่มีคนขององค์การมาตามล่า พวกเขาอยู่กันอย่างสุขใจ ลุยทำไร่ทำสวน เลี้ยงม้า ทำตัวเป็นชาวไร่เพื่อไม่ให้ชีวิตว่างโดยเปล่าประโยชน์
แต่เมื่ออันตรายจากองค์การทุเลาเบาบางไป ชีวิตลุยกลับหนีไม่พ้นเรื่องผู้หญิงเข้ามาผูกพัน ด้วยความแข็งแกร่งเกินหญิงของ"กำนันบุปผา" (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ทำให้เธอเริ่มระหองระแหงกับ "อัสนี" (ภาณุ สุวรรณโณ) หนุ่มชาวบ้านที่ชอบพอกันมานานแล้ว อัสนีเป็นเหมือนหนุ่มที่ชีวิตพบแต่ความล้มเหลว ซึ่งต่างจากแฟนสาวโดยสิ้นเชิง ลุยเห็นปัญหานี้จึงพยายามช่วยเหลือให้ทั้งสองกลับมาคืนดีกัน แต่กาลกลับทำให้อัสนีเข้าใจผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับลุยอย่างเปิดเผย...แม้บุปผาจะอธิบายยังไงอัสนีก็ไม่ฟัง
ครอบครัวลุยมีสมาชิกเพิ่มมาอีก 1 คนคือ "ประดู่" (ธันย์ชนก ฤทธินาคา) เด็กสาวกำพร้าที่มาอ้อนวอนขออยู่ด้วย ประดู่พูดได้แต่ไม่มีเสียงฟังทุกอย่างเข้าใจ เด็กสาวขยันช่วยเหลืองานบ้านงานเรือนทุกอย่าง และเป็นเพื่อนเล่นกับทอมได้เป็นอย่างดี ลุยบริจาคเงินจำนวนหนึ่งสร้างวัด โรงเรียน โรงพักตำรวจฯ และบริจาคให้การกุศลมากมาย ไทรงามรู้ดีว่าลุยต้องการสร้างกุศลเพื่อทดแทนความเลวร้ายที่เคยทำมา สร้างความประทับใจให้กับกำนันบุปผาเป็นอย่างมาก แต่ในทางกลับกันก็สร้างความไม่พอใจให้กับอัสนีด้วยเช่นกัน
ความใจบุญทำให้ลุยเป็นที่รักของทุกคนละแวกนั้น เขาได้รับฉายาว่า "เจ้าพ่อจอมบึง นักบุญปืนไว" เพราะครั้งหนึ่งลุยไปช่วยกำนันบุปผาและตำรวจปราบโจรกระเหรี่ยง ที่บุกเข้ายึดโรงพัก แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ชีวิตของลุยพลิกผันเพราะอัสนีแอบถ่ายภาพไปลงข่าวหนังสือพิมพ์ เพราะเริ่มสงสัยว่าลุยกำลังปิดปังสถานะที่แท้จริงกับใครบางคนอยู่
เช้าวันหนึ่งไทรงามจะไปส่งทอมที่โรงเรียนเพราะลุยป่วยเป็นไข้ แต่เมื่อไทรงามสตาร์ทรถเกิดเสียงระเบิดบึ้มไฟลุกท่วมรถ ลุยสะท้านไปทั้งร่างเมื่อเห็นบุคคลที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา ลุยไม่โวยวาย เสียงเขาแหบหายมีเพียงน้ำตาเท่านั้นหลั่งออกมาประดู่เข้าใจความรู้สึกของลุยดี ครั้งหนึ่งเธอเคยเสียใจอย่างเขามาแล้ว...ประดู่เป็นกำพร้าบ้านถูกโจรปล้น พ่อของเธอถูกยิง แม่และพี่ถูกเรียงคิวข่มขืนก่อนจะถูกไฟครอกตาย เพราะความสูญเสียครั้งนั้นทำให้ประดู่ร้องไห้สุดเสียง...ร้องจนเสียงหมดจนถึงปัจจุบันลุยหนีออกมาจากราชบุรีโดยไม่ร่ำลาบุปผาเลย...
ลุยเลือกแก้แค้นจองล้างจองผลาญ คนแรกที่ลุยบุกเข้าไปจัดการคือ เดือน เพื่อนรักของเขาซึ่งเชี่ยวชาญการใช้ระเบิด ลุยฆ่าเดือนโดยไม่ฟังคำอธิบายและรับบอยไปเลี้ยงเป็นลูก บอยรับรู้เพียงว่าพ่อเดือนตายด้วยน้ำมือของคนที่ฆ่าป้าไทรงามกับทอม เมื่อหายโศกเศร้าเสียใจแล้ว บอยเล่าเหตุการณ์ที่ทำให้ลุยแทบล้มทั้งยืน...
เด็กชายเล่าว่า เทียว สิบทิศ มาหาเดือนเพื่อบังคับให้ไปจัดการลุย โดยให้ "เด็ด"(จักรกฤษณ์ คชรัตน์) ลูกน้องคนสนิทซ้อมพ่อทรมานสารพัด แต่เดือนไม่ยอมทรยศลุยเพื่อนรัก "ขรรชัย อินทรีย์" (ภูธฤทธิพรหมบันดาล) ลูกน้องเทียวจึงอาสาทำงานแทน โดยรื้ออุปกรณ์จุดระเบิดไปจากโต๊ะเดือนสิ่งที่บอยเล่าทำให้หัวใจลุยแทบหยุดเต้น เดือนไม่ได้เป็นเพื่อนเลว...แต่เขาต่างหากที่เลว เขาฆ่าเพื่อนรักได้ลงคอ...
ลุยแค้นใจสาบานกับตัวเองว่าจะจองล้างจองผลาญคนทั้งสาม รวมทั้งผู้ยิ่งใหญ่ในองค์การทั้งหมดเพื่อเป็นการชดเชยให้ ไทยงาม ทอม และเดือนปฏิบัติการจองเวรของลุยเริ่มต้นขึ้น เด็ดถูกลุยส่งวิญญาณไปนรกคนแรก ตามด้วยขรรชัย ลุยเผาทั้งคู่เหมือนกับที่พวกมันทำกับไทรงามและทอม...ส่วน เทียว สิบทิศ ลุยได้ สร้อยคีรี อดีตคนรักเก่าให้ความช่วยเหลือ จึงจัดการกับเทียวได้อย่างง่ายดาย เหลือคนที่ลุยต้องจัดการอีก 3 คนคือ ทองเพชร เหล็กกล้า, ศักดา ปาฏิหาริย์ และปกาศิต จอมพลัง...
วันหนึ่งลุยบังเอิญเจอกับ ปกาศิต จอมพลัง ที่ห้างสรรพสินค้าขณะพาทอมไปซื้อของเล่น เขามีโอกาสฆ่าปกาศิตแต่ลุยทำไม่ลง เพราะปกาศิตกอดลูกสาวแน่น หนำซ้ำเด็กหญิงยังส่งยิ้มแสนบริสุทธิ์ให้อีกด้วย ลุยจึงปล่อยปกาศิตและไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะริมฝั่งภาคตะวันออกตามคำชวนของสร้อยคีรี ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเหมือนคู่ชีวิตคนใหม่ของเขาไปแล้ว
อดีตสามีที่เสียชีวิตไปแล้วของสร้อยคีรีเป็นเพื่อนรักกับลุย สร้อยคีรีเป็นที่ปรึกษาพิเศษขององค์การ มีความสามารถในใช้เสน่ห์ของความเป็นผู้หญิงทำงานหลายอย่างจนสัมฤทธิ์ผล สร้อยคีรีชวนลุยไปเป็นหุ้นส่วนโรงแรมบนเกาะแห่งนั้น
ลุยไปพบ "ฟางแก้ว" (มรกต กิตติสาระ) เจ้าแม่ผู้อิทธิพลแถบตะวันออกเพื่อขอพึ่งบารมี ทันทีที่เห็นหน้าลุยฟางแก้วถึงกับพึงใจในความเป็นนักเลงกล้าหาญ แต่ลุยไม่มีจิตใจคิดถึงความรัก ความเศร้าภายในจิตใจยังคงตอกย้ำทำให้เขาตกอยู่ในห้วงของความเศร้าอยู่ไม่คลาย ฟางแก้วแสร้งทำเป็นไม่ไว้ใจลุย ยื่นข้อเสนอให้เขายอมมาเป็นมือขวาของเธอเพื่อสร้างอิทธิพลและเป็นศัตรูกับองค์การอย่างถาวร ซึ่งความจริงแล้วเธอต้องการสนิทสนมกับลุยให้มากขึ้นกว่านี้ ซึ่งกลายเป็นประเด็นความโกลาหลในความรักระหว่าง ฟางแก้ว ลุย และ สร้อยคีรี ท่ามกลางอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้นได้จากองค์การฯ
หลังจากประลองความเป็นหญิงไปได้พักใหญ่ ระหว่างฟางแก้วกับสร้อยคีรีจึงยอมยุติศึกชิงนายชั่วคราว เมื่อตระหนักว่าทั้งคู่มีศัตรูคนเดียวกันคือองค์การ ทั้งสามคนร่วมมือกันเก็บศักดา ปาฏิหาริย์ ขณะมาเที่ยวที่เกาะ เพื่อให้ชีวิตสงบสุขของลุยสามารถดำเนินอยู่ได้ต่อไป
หลังจากนั้นเป็นต้นมา...ฟางแก้วยอมหลีกทางสร้อยคีรี ลุยกับสร้อยคีรีจึงสามารถดำเนินกิจการโรงแรมได้ราบรื่น โดยมีฟางแก้วเป็นผู้ให้ความคุ้มครอง แต่ยังไม่วายก่อสงครามกุหลาบแย่งชิงลุยมาเป็นคนรักระหว่างกันอยู่เนือง ๆ แต่ไม่รุนแรง
สิบปีผ่านไป...เกาะแห่งนั้นเจริญมากขึ้น บ้านพักริมทะเลถูกดัดแปลงเป็นที่พักตากอากาศโก้หรู โรงแรมขนาดใหญ่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และแน่นอนว่ารีสอร์ทหรูหราที่สุดในย่านนั้น "ไข่มุกตะวันออก" เป็นของลุยและสร้อยคีรี นั่นเอง
ขณะนี้ลุยทำธุรกิจโรงแรมอย่างเต็มตัว ออกเดินทางรอบโลกไปกับกริชอยู่บ่อย ๆ โดยยังระวังตัวจากองค์การเพราะไม่อยากมีเรื่องและเบื่อหน่ายการตามล่าชีวิตระหว่างกันเต็มทนแล้วลุยสนับสนุนบอยให้เรียนต่อการโรงแรม ปัจจุบันบอยดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการใหญ่ไข่มุกรีสอร์ท รับผิดชอบบริหารรีสอร์ทแทนลุยได้อย่างเต็มตัว โดยมีผู้ช่วยสาวแสนสวยคือ ประดู่ เพื่อนสาวที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย โดยบอยไม่รู้เลยว่าด้วยความผูกพันทำให้ประดู่หลงรักบอย อย่างเต็มหัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อให้บอยมีความสุขได้
นอกจากบอยจะไม่รู้ว่าประดู่หลงรักแล้ว ยังทำเหมือนเธอเป็นเพื่อนสนิทยิ่งกว่าน้องสาวทักทายและใกล้ชิดแบบถึงเนื้อถึงตัวอยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่ทำให้ประดู่ขัดใจมากที่สุดเห็นจะเป็นกรณีที่บอยพยายามจะยัดเยียดเธอให้เป็นแฟนกับ "หมอองศา" (เขตต์ ฐานทัพ) เพื่อนนายแพทย์หนุ่มอายุเท่ากัน บุคคลิกคร่ำเคร่งเต็มไปด้วยความเชย หากแต่จิตใจเต็มไปด้วยความโอบอ้อมอารี
ทั้งสามคนออกเที่ยวด้วยกันบ่อยครั้ง บอยพยายามสร้างเรื่องจะทำให้ประดู่ชอบองศาให้ได้ แต่เหตุการณ์ทุกครั้งกลับทำให้บอยกับประดู่ต้องใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที ควาสัมพันธ์ของทั้งสามคนจึงดูอลเวงอยู่ไม่น้อย
เมื่อลุยออกเดินทางไปโปรโมทโรงแรมรอบโลก เขาสั่งเสียบอยว่าอย่าเพิ่งมีครอบครัว...ถ้าศัตรูอีก 2 คนยังไม่เลิกตามราวี เพราะลุยไม่อยากให้บอยมีชีวิตครอบครัวที่เศร้าเหมือนตัวเองแต่ดูเหมือนบอยจะทำในสิ่งที่ลุยเตือนไม่ได้ เขารู้สึกถูกชะตา "น็อท" (แซมมี่ เคาว์เวล) ลูกค้าสาวสวยของไข่มุกรีสอร์ทที่เดินทางมาพักพร้อมกับ "เมธา" (พีรวิชญ์ บุนนาค) คู่หมั้น ในตอนแรกห้องพักของรีสอร์ทเต็มหมด
แต่พอบอยได้เจอน็อท เขายินดีให้เธอกับเมธาไปพักที่ห้องชุดส่วนตัว แถมลดราคาให้เป็นพิเศษ ตัวน็อทเองรู้สึกดีกับบอยตั้งแต่แรกเห็น ความสุภาพของบอยยิ่งทำให้หญิงสาวสบายใจที่จะพูดคุยด้วย วันนั้น...บอยจึงรู้ว่าน็อทถูกพ่อบังคับให้มาเที่ยวกับคู่หมั้น คนที่เธอไม่ได้รักเลยสักนิด
เมธาเป็นลูกชายของ ศักดา ปาฏิหาริย์ หนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ขององค์การที่ตายไปแล้ว ความเป็นลูกเจ้าพ่อทำให้เมธาเป็นนักเลงชอบวางอำนาจ น็อทเบื่อเต็มทนกับการอยู่กับผู้ชายอย่างเมธา เธอยังไม่ได้มีอะไรกับเขาจึงเกลียดมากเวลาที่เขาแสดงความเป็นเจ้าของเธอออกนอกหน้า น็อทอยากหนีไปให้ไกล ๆ จึงหลอกให้เมธากลับไปกรุงเทพฯ เพื่อไปเอาของให้เธอส่วนเธอเองถือโอกาสนี้ไปล่องเรือเล่นกับบอย...
บอยยินดีและเต็มใจอย่างมากที่จะพาน็อทไปเที่ยว เขาพาหญิงสาวไปยังหาดทรายแก้วเกาะส่วนตัวของลุยที่ไม่มีใครรู้จัก มนต์เสน่ห์ของทะเลสวยงามสะกดให้ทั้งคู่รักกัน ทั้งสองกลับไปที่รีสอร์ทด้วยความสดชื่น แต่ก็ยังแฝงความกังวลใจ...บอยรู้สึกผิดที่ไปแย่งคู่หมั้นเมธา แต่เมื่อหัวใจเรียกร้อง เขาก็ยากจะต้านทาน
เมธาหัวเสียอย่างมากเมื่อกลับมาถึงโรงแรมแล้วไม่เจอคู่หมั้น เขาหึงหวงบอยแทบบ้าแต่เก็บอาการไว้ เมธาสังเกตแววตาของน็อทและบอยที่มองกันบ่อยครั้ง มั่นใจว่าหัวใจของน็อทตอนนี้เป็นของบอยไปแล้ว
เมธาโกรธมากประกาศกลางงานเลี้ยงว่าบอยเป็นคนเลวแย่งคู่หมั้นเขาไปอย่างหน้าไม่อาย เมธาท้าให้บอยสู้กับตนอย่างลูกผู้ชาย บอยจำต้องรับคำท้าเพื่อไม่ให้ใครมองว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้ อ่อนแอ...วันรุ่งขึ้นบอยใช้ศิลปมวยไทยต่อสู้กับเมธาอย่างดุเดือด แน่นอนว่าพลังแห่งความรักมีอานุภาพมากกว่าพลังแค้น เขาชนะเมธาขาดลอย
เมธาได้รับบาดเจ็บ น็อทจำต้องพาตัวเขากลับกรุงเทพฯ พร้อม ทองเพชร เหล็กกล้า แขกผู้ไม่ได้รับเชิญของโรงแรม ตอนนี้ทองเพชรมีกิจการทัวร์ใหญ่โต เขาสืบจนรู้ว่าสร้อยคีรีคือหุ้นส่วนใหญ่ของรีสอร์ทไข่มุกตะวันออก ทองเพชรแปลกใจมากเมื่อได้เห็นบอย เพราะเขาจำได้ดีว่าบอยคือลูกของเดือนที่ลุยเก็บไปเลี้ยง ทองเพชรเอาเรื่องไปเล่าให้ปกาศิตฟัง ทั้งสองเชื่อมั่นว่าสร้อยคีรีหักหลังองค์การและเป็นพวกเดียวกับลุย เขาต้องหาทางทำให้ลุยโผล่ออกมาให้ได้ สำหรับเรื่องของน็อท ปกาศิตจัดการให้น็อทเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของเมธา งานแต่งจะจัดขึ้นในปลายเดือน หญิงสาวตกใจอย่างมาก แม้จะทัดทาน อย่างไรก็ไม่ได้ผล
น็อทเสียใจมากหนีกลับไปหาบอยที่เกาะ สร้อยคีรีรู้ว่าน็อทเป็นลูกสาวปกาศิตศัตรูเก่าของลุยจึงเตือนบอย แต่ความเกลียดชังของคนในรุ่นพ่อไม่ได้ทำให้สองหนุ่มสาวหวั่นไหว ความรักทำให้ทั้งคู่เปิดเผยกายและใจกันอย่างลึกซึ้ง โดยประดู่รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดทุกอย่าง แต่เธอจำต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเพื่อ บอย คนที่เธอรัก
ปกาศิตโกรธมากเมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนรักกับลูกของศัตรู เขากับทองเพชรส่งคนไปเก็บเจ้าแม่ฟางแก้วและสร้อยคีรีก่อนที่ลุยจะกลับมา ความแค้นของลุยกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อพบว่าสร้อยคีรีและฟางแก้วถูกฆ่าตายอย่างทารุณ หลักฐานมีดที่ทิ้งไว้ทำให้เขารู้ทันทีว่าคนที่ลงมือคือใคร ลุยนำมันกลับไปคืนให้ ทองเพชร เหล็กกล้า ด้วยตัวของเอง ลุยปลิดชีวิตของทองเพชรโดยไม่ยาก เขาโทรศัพท์ไปหาปกาศิต...ประกาศว่าเขากลับมาแล้ว และกำลังจะทวงหนี้ชีวิตด้วยชีวิต
ปกาศิตเริ่มหวาดวิตก...เพราะเหลือเพียงตัวคนเดียว ตัวการใหญ่ขององค์การเหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังรอดชีวิต ปกาศิตวางแผนร้ายขอร้องให้น็อทพาบอยมาพบ โดยอ้างว่าเขากับลุยมีเรื่องเข้าใจผิดกันหลายอย่าง บอยเป็นคนเดียวที่จะช่วยให้ลุยกับเขาเข้าใจกันได้
ลุยวางแผนจัดการทุกอย่างในชีวิต แบ่งมรดกให้บอยและประดู่ กริช ลมกรดรับรู้เหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นจึงกลับมาจากฮ่องกงเพื่อช่วยจัดการปัญหาทุกอย่าง แต่แล้วขณะที่ลุยสารภาพกับกริชว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเดือนตายด้วยความเข้าใจผิด บอยบังเอิญมาได้ยินเข้า บอยเสียใจและแค้นใจมากเมื่อทราบว่าคนที่ตนเองเคารพรักกลายเป็นคนที่ฆ่าพ่อ จิตใจของบอยยามนี้มีทั้งความรักและความแค้น...
บอยตัดสินใจเด็ดขาดจะฆ่าลุยเพื่อแก้แค้นแทนพ่อ เขาบุกเข้าไปหาลุยด่าว่าสารพัด กริชเข้ามาห้ามและชี้แจงให้ฟังว่าลุยฆ่าเดือนเพราะความเข้าใจผิด แต่บอยก็ไม่ฟังเสียง เขาเล็งปืนไปยังลุยที่นั่งสงบนิ่ง ยินดีให้บอยยิงเขาให้ตายบอยตัดสินใจลั่นไกปืน แชะ
ปืนนั้นไม่มีกระสุน บอยคลานเข้าไปก้มลงกราบแทบเท้าลุย...บอกว่าคนที่เขาเหนี่ยวไกปืนยิงไปเมื่อครู่นี้คือคนที่ฆ่าพ่อ เขาได้ล้างแค้นให้พ่อแล้ว ส่วนคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าขณะนี้คือคนที่มีพระคุณยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
รุ่งเช้า...เมื่อ ลุย บอย กริช เดินออกมาจากบ้านกลับถูกพวกของ ปกาศิต จอมพลัง และกลุ่มสมุนซึ่งมาซุ่มอยู่ระดมยิงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส บอยรับอาสาฝ่ากระสุนปืนออกจากพวกเหล่าร้ายเพื่อไปเพื่อแจ้งตำรวจ แต่ก็ไปไม่รอด...บอยถูกเมธาซัดด้วยปืนสลบเหมือด
ลุยถูกยิงอย่างไม่มีทางสู้ จึงใช้อุบายล่อให้พวกเหล่าร้ายบุกเข้ามาในบ้าน รอบบ้านของลุยเต็มไปด้วยระเบิดชนิดร้ายแรงสามารถถล่มพวกเหล่าร้ายทั้งหมดภายในพริบตาเดียวลุยกับกริชกระโดดหลบลงมาจากบ้าน แต่กริชโชคร้ายถูกกระสุนของปกาศิตคว่ำไป
ลุยบ้าเลือดปักหลักยิงโต้ตอบอย่างบ้าคลั่ง... แต่ลุยพลาดถูกปกาศิตและเหล่าร้ายรุมยิงพรุนไปทั้งตัว ร่างของลุยลอยหมุนคว้างลงไปฟุบใกล้ ๆ กับบอยซึ่งนอนสลบอยู่ ปกาศิต จอมพลัง กับสมุนโจรนับร้อยต่างโห่ร้องด้วยความยินดีที่พิชิตลุยลงได้
ด้วยลมหายใจเฮือกสุดท้าย...ลุยตะกายร่างคว้าปืนที่ตกอยู่ข้าง ๆ บอย เล็งยิงไปที่สวิชต์ลับซึ่งเป็นที่รวมของชนวนระเบิดที่ตนเองฝังไว้...ด้วยวิญญาณของนักสู้ก่อนจะสิ้นลม...ลุยยิงเข้าไปที่กลางสวิชต์ระเบิด บ้านระเบิดแหลกลาญไปพร้อมกับชีวิตชั่วร้ายของ ปกาศิต จอมพลัง
การจบชีวิตลงของลุยและปกาศิตทำให้องค์การลับต้องล่มสลายลงไป บอยกับน็อทหลังจากคลายจากความเศร้าโศกเสียใจแล้วจึงตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน ประดู่กับหมอองศาพบรักและยอมรับหัวใจซึ่งกันและกัน หลังจากผ่านเหตุการณ์อันตรายและความเศร้าโศกมาด้วยกัน
พวกเขาทั้งสี่คนตั้งใจจะใช้อดีตอันเลวร้ายของผู้มีพระคุณ เป็นเรื่องสอนใจให้กับตัวเองในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป
ความเลวร้ายและเวรกรรมมีอยู่จริงบนโลก...
ไม่ช้าก็เร็วมันจะตามมาสนองตอบต่อผู้กระทำ
ความดีงามต่างหาก...ที่จะยืนยงคงอยู่ตลอดไป
ลุย ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30น. ทางช่อง 7 ♦
รายชื่อนักแสดง "ลุย"
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ รับบทเป็น ลุย หล่มสัก
ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ " สร้อยคีรี
จีรนันท์ มะโนแจ่ม " ไทรงาม
พูลภัทร อัตถปัญญาพล " บอย
แซมมี่ เคาว์เวล " น็อท
เขตต์ ฐานทัพ " หมอองศา
ธันย์ชนก ฤทธินาคา " ประดู่
แพร เอมเมอรี่ " แวววัลย์
อคัมย์สิริ สุวรรณศุข " กำนันบุปผา
ภาณุ สุวรรณโณ " อัสนี
มรกต กิตติสาระ " ฟางแก้ว
พีรวิชญ์ บุนนาค " เมธา
ดนัย สมุทรโคจร " เดือนแรมกล้า
อนุสรณ์ เตชะปัญญา " กริช ลมกรด
โอลิเวอร์ บีเวอร์ " ปกาศิต จอมพลัง
ทองขาว ภัทรโชคชัย " ทองเพชร เหล็กกล้า
เบคิม ฤทธิ์ " เทียว สิบทิศ
ประกาศิต โบสุวรรณ " ศักดา ปาฏิหาริย์
ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล " ขรรชัย อินทรีย์
จักรกฤษณ์ คชรัตน์ " เด็ด
รับเชิญ
ด.ช. มณฑล สุรวิทย์ธรรมะ " บอย (เด็ก)
ด.ช. เขมะ วิถี " ทอม
เลิศพร อารยะโกศล " สถิตย์
เวนช์ ฟอลโคเนอร์ " สิงห์
บทประพันธ์ : เสนีย์ บุษปะเกศ
บทโทรทัศน์ : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
กำกับการแสดง : นนทนันท์ สังข์สวัสดิ์
ผู้ช่วยกำกับการแสดง : วิชัย นิ่มสกุล
ควบคุมการผลิต : สยม สังวริบุตร