ทุกๆ ครั้งที่เป็นหนังของค่ายมาร์เวล จะมีเนื้อเรื่องเล็กๆ ปะท้ายอยู่หลังเครดิตอยู่เสมอ ซึ่งในช่วงท้ายของหนังมนุษย์เหล็ก เป็นฉากที่ เจ้าหน้าที่ได้ค้นพบค้อนที่ตกมาจากฟ้า ค้อนที่ตกลงมานั่นแหละคือค้อนของตัวละครที่มีชื่อว่า ธอร์ โดยในปีนี้เจ้าค้อนดังกล่าวก็มาให้เราได้ชมกันในรูปแบบภาพยนตร์เต็มๆ ที่มีชื่อสั้นๆ ตรงตัวว่า "ธอร์ เทพเจ้าสายฟ้า"
เรื่องราวของ ธอร์ ทายาทเทพเจ้าซึ่งเป็นนักรบผู้แกร่งกล้าแต่หยิ่งทะนง ผู้ซึ่งการกระทําไร้การยั้งคิดของเขาได้จุดเพลิงสงครามโบราณให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ธอร์ ถูก โอดิน เทพบิดาของเขาขับไล่ลงมาสู่โลกมนุษย์ และจําต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์ โดย เจน ฟอสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์สาวสวย ได้กลายเป็นรักแรกของเขา ระหว่างที่อยู่บนโลกมนุษย์นี้เองที่ธอร์ได้เรียนรู้ว่าการเป็นวีรบุรุษที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร เมื่อวายร้ายที่อันตรายที่สุดจากโลกของเขาได้ส่งกองกําลังที่เก่งกล้าสามารถที่สุดของแอสการ์ด มาจู่โจมโลกมนุษย์
แค่เรื่องราวก็สามารถเดาได้ว่าหนังจะเริ่มและจบไปในทิศทางไหน เพราะเนื้อหาของการ์ตูนนั้นไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่แต่อย่างใด ดังนั้นหนังจะเน้นไปที่เทคนิคพิเศษ ตัวละคร ธอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่คาแรคเตอร์นี้ออกมาปรากฏสู่สายตาผู้ชม เพราะ ธอร์ นั้นถือว่าเป็นตัวละครที่มี รายละเอียดมากที่สุดในบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย เพราะด้วยความเป็นเทพบวกกับโลกมนุษย์ เหตุนี้เองจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆ กับการที่จะสร้างเป็นการ์ตูนหรือภาพยนตร์
จากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือว่าทําได้ดีมากๆ โดยเฉพาะตัวฉากดาวของ ธอร์ ที่มีการใช้วิชวลเอฟเฟคท์ตระการตา และอีกฉากหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือเรื่องที่ให้ คริส เฮมเวิร์ท มารับบทนํา ถือว่าประสบความ สําเร็จ ทําให้เราเชื่อว่านี่แหละคือพระเอก แต่อย่าให้เขายิ้มเท่านั้นเอง
ส่วนการเชื่อมต่อเรื่องราวที่จะนําไปสู่ The Advengers นั้น ทําเอาผู้ชมอยากจะดูตัวละครต่อไปอย่าง "กัปตันอเมริกา" ไวๆ มันเหมือนหนังคนละเรื่องที่มีเนื้อหาโยงเกี่ยวกันอย่างน่ามหัศจรรย์ นี่ถือว่าเป็นเสน่ห์และจุดขายของค่ายนี้ไปซะแล้ว ♦