ฟิล (แบรดลี่ คูเปอร์), สตู (เอ็ด เฮล์มส), อลัน (แซ็ค แกลิเฟียนาคิส) และดัก (จัสติน บาร์ธา) เดินทางมาที่ประเทศไทยจากดินแดนอื่น เพื่อมางานแต่งของสตู หลังจากปาร์ตี้ชายโสดที่ยากจะลืมในลาส เวกัส สตูจะไม่ปล่อยโอกาสไป และได้เลือกอาหารมื้อสายก่อนแต่งงานที่ปลอดภัยและเงียบสงบ แต่ถึงอย่างไรสิ่งต่างๆ มักไม่เกิดขึ้นไปตามแผน สิ่งที่เกิดขึ้นในเวกัสก็น่าจะอยู่ที่เวกัส แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทยก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน
ทีมนักแสดงและผู้สร้างกล่าวถึงความประทับใจในการยกกองมาถ่ายทำในประเทศไทยครั้งนี้ว่า
“The Hangover ภาค 2” พาเหล่านักแสดงและทีมงานเดินทางไกลกว่าครึ่งโลก มายังสถานที่ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกถึงเรื่องราวบางอย่างได้ในตัวมันเอง และมีเนื้อหามากขึ้น “มันทำให้ทอดด์ต้องใช้เวลาคิดค้นอยู่นานว่าเขาอยากทำอะไรกับหนังเรื่องนี้ เพราะเขามีหลายอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ และการเดินทางไปกรุงเทพยิ่งเสริมให้เราแกร่งขึ้น ที่นั่นเป็นสถานที่สุดท้ายในโลกที่พวกเขาควรจะไป ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นที่ที่เหมาะแก่การส่งพวกเขาไปแล้ว”
ระหว่างการเดินทางมาที่เมืองไทยของพวกเขา ผู้ออกแบบฉากนำอุปกรณ์ตกแต่งฉากมากมายกลับมาด้วย “เรามีกล่องใส่อุปกรณ์ที่ใส่พวกชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าสมัยก่อน ปลั๊กต่างๆ พัดลมโบราณ…นั่นคือสีสันทั้งหมดของฉาก โดยรวมทั้งหมดแล้วกรุงเทพไม่มีความรู้สึกถึงการเป็นโลกที่ 3 เลยจริงๆ ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ซับซ้อนและงดงาม แต่หากเราเจาะลึกลงไปอีกนิด เราจะพบสิ่งกวนๆ แบบที่เรากำลังมองหาอยู่”
ระหว่างการซักซ้อมด้านวัฒนธรรม พวกเขาผสมผสานเทศกาลโคมลอยจากจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทยเข้ามาในเรื่องราวด้วย ซึ่งโคมไฟกระดาษนับร้อยถูกปล่อยขึ้นสู่ท้องฟ้า “นักแสดงบางคนและ 2 ใน 3 ของทีมงานของเราเป็นคนไทย และเรานำวัฒนธรรมไทยมาใช้จริงๆ เรารู้สึกว่าเราเป็นแขกที่ประเทศไทยของพวกเขา และพวกเขามีน้ำใจต่อพวกเรามาก อารมณ์ขันของเราอาจเป็นการล่วงเกิน แต่เราแสดงออกมาด้วยความเคารพ”
สิ่งที่อยู่สูงขึ้นเหนือถนนที่วุ่นวาย ด้วยความแตกต่างอย่างชัดเจนจากไชน่าทาวน์คือห้องอาหารซีรอคโคตั้งอยู่ที่ เลอบัว แอท สเตท ทาวเวอร์ ชั้น 63 พร้อมด้วยวิวรอบกรุงเทพเกือบ 360 องศา “เรารู้สึกปลื้มใจมากที่ได้รับการอนุญาติ เพราะไม่มีใครเคยได้รับอนุญาติให้ถ่ายทำที่นั่นมาก่อนเลย แต่เจ้าของกลับเป็นแฟนพันธุ์แท้ของหนังเรื่อง "Hangover" ภาคแรก หลังจากที่ได้พบปะกับเรา เขารู้สึกดีใจมากที่โรงแรมและห้องอาหารของเขาได้อยู่ในฉากด้วย”
เพื่อเป็นการถ่ายทอดการผจญภัยสุดประหลาดของทุกคนให้เพิ่มมากขึ้น ทีมผู้สร้างภาพยนตร์พบว่าตัวเองจะต้องสร้างสตั๊นท์มโหฬารในบริเวณที่แคบมากบางแห่งในกรุงเทพ “ในหนังมีฉากแอ็คชั่นมากกว่า "Hangover" แบบเดิม ทอดด์ได้ยกระดับหนังขึ้นอย่างแท้จริง และนักแสดงตกลงที่จะแสดงบทของตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ด้วยความระมัดระวัง ทุกอย่างมันประหลาดและน่าตื่นเต้นสุดๆ ผมไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของการทำหนังเรื่องไหนที่มีขนาดเท่านี้เลย และมันเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุด เรามีการระเบิดสิ่งของ แข่งรถกันบนถนนและถูกอัดจนน่วม ทุกอย่างก็เพื่อความฮาแบบแสบๆ คันๆ ที่ไม่น่าเชื่อพวกนี้”
ฟิลลิปส์กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับภาพยนตร์เรื่อง "The Hangover ภาค 2" เราไม่ได้พยายามเอาชนะว่าเราจะผลักดันทุกอย่างไปได้ไกลกว่าภาคแรกแค่ไหน มันเป็นเรื่องของการสร้างสิ่งที่สามารถยึดเหนี่ยวสถานที่ที่หนังภาคแรกเคยพาเราไป”
The Hangover 2 - เดอะ แฮงค์โอเวอร์ ภาค 2 ฮาหมดแม็คที่กรุงเทพฯ 26 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น ♦