แต่กลับโดนผู้รับเหมาที่จ้างจาก “บริษัท วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค จำกัด” บริษัทออกแบบและก่อสร้างบ้านครบวงจร โกงเงินสร้างบ้านไปซะดื้อๆ เลยทำให้ “เอก-ณกรณ์ กรณ์หิรัญ” กรรมการผู้จัดการบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก เวชกรรม จำกัด (มหาชน) ต้องออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับเหมาคนดังกล่าว อีกทั้งยังรวบรวมผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของผู้รับเหมามาแฉพร้อมโชว์หลักฐานอย่างแจ่มชัด งานนี้ “คุณเอก” ถึงขั้นหลั่งน้ำตาเสียความรู้สึกกับเหตุการณ์นี้
“ผมสร้างต่อไม่ได้ เพราะบ้านยังคาราคาซังอยู่ โอเค ถ้า 3 ล้านยอมขาดทุน ที่คุณได้กำไรในหน้ากระดาษไปแล้ว 10 ล้าน กำไรไปแล้ว โอเคได้ครับ แต่ขอแบ่งจ่าย 5 แสน 6 เดือน เหมือนมาฆ่าผม ผมทำผิดตรงไหนอ่ะ ผมเป็นผู้บริโภค
อยากบอกว่าบ้านคือหัวใจของทุกคน (พูดด้วยเสียงสั่น) อย่างทำบ้านเนี่ย ผมอยากได้บ้าน แล้วผมเป็นคนมีชื่อเสียง ขณะนี้ ยังทำได้ ผมเริ่มจากไม่มี แล้วค่อยๆ เก็บเงินทำบ้านนะ ยังไงก็ฝากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งทางสมาคมหรือว่าทาง สคบ. ช่วยเป็นกรรมการยังไงก็ได้ ทางคู่กรณีบอกว่ามีปัญหา ผมผิดยังไง ให้บริษัทกลาง 4-5 บริษัทที่เชื่อถือได้มาตีราคาเลยครับ ผมยินยอมให้กำไร 30 เปอร์เซ็นต์ และก็ไสหัวออกจากบ้านผมเดี๋ยวนี้เลย ผมอยากจบกับบ้านหลังนี้แล้ว เพราะผมเชื่อว่าบ้านมันคือชีวิตของทุกๆ คน เรื่องบ้านไม่ควรมาล้อเล่นแบบนี้ ผมคิดแบบนี้มากกว่า”
จะชี้แจงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น?
“อย่างที่บอกว่าผมเป็นผู้บริโภค สร้างบ้านเนี่ย ก็เลือกแล้วกับบริษัทที่น่าเชื่อถือ ก็ดูในหนังสือแล้ว ดูในสมาคมด้วยแล้ว ตกลงผู้บริโภคต้องดูจากอะไรในการสร้างบ้าน แล้วเกิดเหตุอย่างเคสผู้บริโภคที่มาจากคนอื่น เป็นคนที่ไม่มีปากไม่มีเสียง ไม่พูด คือพูดไปปุ๊บก็เสียงเบา อย่างผมพูดไปปุ๊บ ก็ยังมีสื่อต่างๆ แต่ก็แทบไม่เห็นเลยครับ ยังไงก็ฝากให้พี่ๆ ช่วยดูหน่อยครับ ว่าตกลงเนี่ยทางผู้บริโภคเจอเรื่องอย่างนี้จะต้องทำยังไง จะสร้างบ้านต้องดูจากอะไรกันแน่ จากบริษัทที่น่าเชื่อถือก็ดูแล้ว จากหนังสือจากชื่อเสียงก็ดูแล้ว ตกลงผมไม่ทราบเลยว่าต้องยังไง ฝากเรื่องการสร้างบ้านว่าจะต้องดูด้วยนะครับ ว่าเรื่องนี้จะเป็นยังไง หรือผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องจะช่วยเหลือผู้บริโภคอย่างไรบ้าง”
จะมีการรวมตัวผู้ที่ถูกกระทำมาฟ้องร้องหรือเปล่า?
“ก็คงต้องมาพูดคุยกัน เพราะเหตุการณ์คล้ายๆ กับผม คือเจ้าของบริษัทรับสร้างบ้านไม่ยอมให้เข้าบ้าน ไม่ยอมให้เข้าไซด์งาน ถ้าเข้าจะฟ้องร้อง ทั้งที่เป็นบ้านเป็นที่ดินของเราเอง แต่ว่าเข้าบ้านไม่ได้ ก็ยื้อในการทำงานจนยื้อไม่ไหว ต้องให้ผู้บริโภคหนีไปเอง แล้วก็เรียกเงินค่อนข้างเยอะ แล้วจ่ายเงินค่างวดเยอะมาก ยังไงก็ขอให้เป็นอุทธาหรณ์ำหรับคนที่จะสร้างบ้านนะครับ ผมรู้ว่าบ้านคือใจ ไม่มีใครหรอกที่จะสร้างบ้านปีละหลายๆ หลัง”
ทาง “คุณสมศักดิ์” (คู่กรณี) บอกว่า “คุณเอก” เปลี่ยนสเป็ควัสดุก่อสร้าง?
“ไม่ครับ คือผมสร้างบ้านเนี่ย ผมเซ็นสัญญาครั้งแรก 40 กว่าล้าน ผมยังไม่มีราคาต้นทุนเลยนะว่าเท่าไร ผมเชื่อใจผมถึงได้เซ็น เวลา 7-8 เดือน เรียกว่าบีโอคิว ราคามันเพิ่งได้ แล้ว 6-7 เดือนเนี่ยมาดูเสร็จวัสดุ 2-3 ปีแล้วก็เปลี่ยนไป สร้างบ้านผมใช้ใจ อยากให้มันดีที่สุด ผมเชื่อว่าผู้บริโภคทุกคนก็คิดแบบผมเหมือนกัน ไม่เอาอันนี้สามารถเปลี่ยนได้หรือเปล่า ผู้บริโภคมีทางเลือกหรือเปล่า หรือจะให้ผู้ประกอบการเลือกอย่างเดียว”
เบ็ดเสร็จค่าเสียหายเท่าไหร่?
“ผมว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 20 ล้านครับ เพราะว่าดูโครงสร้างที่รอยร้าวหรืออะไรต่างๆ ก็คงต้องเหนื่อย ผมมีเอกสารละเอียดมากเลยครับ ถ้าเป็นเรื่องเงินผมไปค้นเอกสาร 2-3 วัน คุณก็หลอกลวงผู้บริโภคอ่ะ เคสนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวัง เรื่องการเก็บเอกสารครับ ตกลงผมเหลือแค่ 9 ล้านกว่า แต่ทางโน้นก็เรียกเงินผม ผมมีหลักฐานหมดเลยครับ เดี๋ยวติดต่อที่เลขาผมได้เลย การจ่ายเงินยังมีโต้ตอบในเมลว่าไม่ใช่เหลือ 10 กว่าล้านหรือ 9 ล้าน และผมโชคดีที่หาหลักฐานใบสุดท้ายเจอ คือ 2 ล้าน ผมมีเอกสารครับ” ♦