ซึ่งเชื่อว่าไม่ว่าจะยุคหรือสมัยไหนก็ต้องรู้จักนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดังที่ชื่อว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์" อย่างแน่นอน
และโปรเจ็คท์นี้ก็มีหลายค่ายต่างที่จะซื้อลิขสิทธิ์ชีวิตของเธอนํามาสร้างเป็นภาพยนตร์ เนื่องจากความนิยมในตัวเธอนั้นสูงมาก อีกทั้งการที่มาจากเด็กผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่งแล้วค่อยๆ ไต่เต้ามาเป็นนักร้องชื่อดัง โชคดีของค่ายสหมงคลฟิล์มที่ได้ลิขสิทธิ์ อีกทั้งยังได้ผู้กํากับ "บัณฑิต ทองดี" ที่เจอหน้าผู้กํากับคนนี้ทีไร เขาจะต้องบ่นอยู่เสมอว่าอยากจะทําเรื่องราวของนักร้องคนนี้อยู่ตลอดเวลา
"พุ่มพวง" เป็นเรื่องราวของ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ฝันอยากเป็นนักร้อง คือ "ผึ้ง"เกิดและโตที่จ.สุพรรณบุรี ด้วยฐานะทางบ้านยากจน เรียนจบเพียงแค่ชั้นป.2 แต่มีความฝันอยากเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอจึงตัดสินใจเดินทางออกตามหาความฝัน ด้วยการมุ่งหน้าเข้ามาเผชิญโชคในเมืองกรุง ผึ้งเริ่มต้นจากตําแหน่งหางเครื่องในวงดนตรีของครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ จนได้พบรักกับธีระพล แสนสุข นักดนตรีเป่าแซกโซโฟนในวง และทําให้ความฝันอยากเป็นนักร้องกลับฝันสลาย เพราะความรักของทั้งคู่เป็นตัวก่อเหตุให้โดนไล่ออกจากวงไวพจน์ ทั้งคู่ยอมอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคต่อสู้กับชีวิตที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดอย่างยากลําบาก จนเมื่อได้พบกับครูมนต์ เมืองเหนือ ผึ้งขอฝากตัวเป็นศิษย์ ครูมนต์จึงตั้งชื่อใหม่ให้เป็น "พุ่มพวง ดวงจันทร์" และปั้นเธอให้เป็นนักร้อง
เรื่องราวดูไม่ซับซ้อน ซึ่งผู้กํากับนั้นหลีกเลี่ยงเรื่องราวที่เกี่ยวกับคดีความที่เกิดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ ถือว่าหนังเรื่องนี้คุมอารมณ์คนดูได้อยู่หมัด ยิ่งคนที่เกิดมาในยุคของเธอนั้นแทบไม่ต้องสืบเลยว่าคงจะต้องชอบเรื่องนี้อย่างไม่มีเหตุผล
วงการภาพยนตร์บ้านเราน้อยครั้งที่จะมีหนังเกี่ยวกับชีวประวัติของนักร้องหรือคนดังในประเทศไทย ซึ่งการที่นําเรื่องราวของพุ่มพวงมาสร้างนั้น เหมือนกับเป็นการเดินบนเส้นด้ายของผู้กํากับ เพราะถ้าผิดจากความเป็นจริงก็จะถูกวิจารณ์ในแง่ลบ ดีไม่ดีอาจจะถูกฟ้องร้องในข้อหาบิดเบือนความจริงก็เป็นได้
สรุปก็คือ พุ่มพวง ถือเป็นหนังชีวประวัติที่มีความสนุกในด้านของการสร้างอารมณ์ให้ช่วยลุ้น เอาใจช่วยตัวเอก จนประสบความสําเร็จ ซึ่งผู้ที่มีความสุขนั้นคงจะเป็นผู้ชมที่รักและยังผูกพันกับผู้หญิง ที่ชื่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ♦
