หลังจากดูหนัง 2 เรื่อง 2 แนว "บางกอกกังฟู" และ "อุโมงค์ผาเมือง" ที่ตบเท้าเข้ามาให้คนดูได้กําไรและอิ่มเอมความสุขกันถ้วนหน้า เริ่มที่เรื่องแรก ความตั้งใจจริงๆ ของ "ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค" ที่สานฝันตัวเองได้สําเร็จในการกํากับหนังแนวกําลังภายใน หลังจากที่มีคนเคยบอกว่าโปรเจ็คท์นี้ถูกย้ายมาจากค่ายใบโพธิ์นานแล้ว จะจริงเท็จยังไงคนที่เคยแว่วๆ กับพล็อตเรื่องนี้ต้องลองไปสืบเสาะกันเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาตอนนี้ คนดูก็ใจชื้นกับดาราที่ตัวเองชอบได้โคจรมาเจอกัน ส่วนจะสนุกหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่เทสต์ของคนดูนะ เพราะบางคนก็ชอบเพลง, บางคนก็บอกเทคนิคพิเศษน้อยไปนิด หรืออยากดูการเหาะเหินเดินอากาศมากกว่าเดิมแต่ภาพโดยรวมเนื้อหามุมนําเสนอก็ไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ต้องหนักใจแทนผู้กํากับที่ต้องเฉลี่ยบทของแต่ละคนให้ทั่วถึง ซึ่งถ้าใครที่ได้ชมก็คงได้เห็นว่าบทใครเป็นอย่างไร
เฉกเช่นเรื่อง "อุโมงค์ผาเมือง" ที่มีตัวละครตามท้องเรื่องอยู่เพียบ ก็ลําบากใจอยู่ที่การเฉลี่ยบทให้เท่าๆ กันไม่มีด้อยกว่าใคร ซึ่งแน่นอนพลังดาราของแต่ละคน พอมารวมตัวกันเยอะๆ ต้องมีแย่งซีนกันเป็นเรื่องธรรมดา
แม้เนื้อหาจะออกสไตล์ตามต้นฉบับแบบละครเวทีเป๊ะๆ ก็ทําให้หนักใจอยู่อย่างหนึ่งว่าคนดูทั่วไปจะรู้สึกอารมณ์ร่วมด้วยหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงของแต่ละคนแทบจะไม่ต้องบ่งบอกเลยว่า คัดลอกนิสัยใจคอมาจากละครเวทีแทบจะทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ดอม เหตระกูล, พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ที่เล่นกันเต็มองค์แอ็คติ้งเป็นเลิศมากกว่าคนปกติ
คงจะมีอยู่คนเดียวที่จะบอกว่าเชียร์ออกนอกหน้าก็ไม่เชิงอย่าง "มาริโอ้ เมาเร่อ" ที่มีหนังของตัวเองออกฉายพร้อมกันถึง 2 เรื่องในช่วงเวลาไล่ๆ กัน แล้วแถมการแสดงที่มีการพัฒนากว่าเดิม ทําให้ตัวละครที่เขาแสดงนั้นดูแตกต่างจนเห็นได้ชัด จากเด็กเอ๋อ กับนักบวช นามอานนท์
เลยไม่แปลกที่ใครเคยทักไว้ว่าเขานั่นแหละจะมาเป็น "พงษ์พัฒน์-อนันดา" รุ่นต่อไปก็ไม่ผิด ♦