ที่มีข่าวหนาหูมากที่สุดคนหนึ่ง ฟุ้งงานพิธีกรที่เข้ามาเป็นประจำทำให้มองว่าเป็นค่าจ้างที่เยอะกว่าเล่นละครอีก
“ช่วงนี้มันมีเรื่องการเปลี่ยนแปลง นักแสดงทุกคนคงหยุดทุกอย่าง หยุดนิ่งรอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่เราก็เป็นนักแสดงตัวเล็กๆ ที่อยากทำสิ่งที่วาดฝันไว้เราก็จะทำให้ดีที่สุด”
กระแสการเปลี่ยนแปลงมีผลต่อนักแสดง “อันนี้จุ๋ยไม่ขอออกความคิดเห็นด้านนี้มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เราก็ทำงานกันไป ส่วนเรื่องโปรดักชั่นที่หลายคนอาจจะเอาไปเปรียบเทียบกับช่องอื่น อันนี้จุ๋ยว่าในฐานะนัก แสดงก็ขอทำหน้าที่ของตัวเองดีที่สุดดีกว่าค่ะ”
ตอนนี้มาโฟกัสงานพิธีกรเยอะขึ้น “ตอนนี้หลงรักงานพิธีกรแล้วค่ะ รู้สึกว่าได้อะไรจากตรงนี้เยอะเลย กับเวิร์คพอยท์เขาก็ให้โอกาสเหมือนเจอครอบครัวใหญ่ที่น่ารัก จุ๋ยก็เรียนพี่ตา-ปัญญานะ ว่าจุ๋ยชอบงานพิธีกรมาก เลย ในอนาคตข้างหน้าเราก็ไม่รู้ว่างานแสดงมันจะมั่นคงแค่ไหน งานพิธีกรก็อยากทำให้นานที่สุด ก็เรียนให้ผู้ใหญ่ทราบแล้ว”
“อย่างละครจุ๋ย ก็เกิดจากตรงนั้นก็ต้องเล่นอยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ได้บ่อยเหมือนเข้าวงการแรกๆ ที่ต้องการให้คนรู้จัก คิวพิธีกรมันค่อนข้างชัดเจน ตอนนี้ถ่ายอยู่ 3 รายการ ปีหน้าก็ไม่รู้จะเป็นไง แต่ก็จะทำและพัฒนาต่อไป แต่งานละครก็สนุก ได้เจอคนเยอะรับบทเปลี่ยนไปเรื่อย มันท้าทายความสามารถ แต่พิธีกรมันท้าทายสมองมากกว่า”
เรื่องค่าตอบแทนที่ต่างกันล่ะ “เรื่องค่าตอบแทนทำพิธีกรได้น้อยกว่างานละครเรื่องนี้ไม่จริง ลองสังเกตุกันซิค่ะว่าทำไมพิธีกรหรือดาราตลกถึงรวย บอกได้คำเดียวมันเวิร์คมาก (หัวเราะ) งานพิธีกรมันได้เป็นรายเดือน ก็มั่นคงเหมือนงานประจำ แต่ละครมันจะออนแอร์เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ค่าตอบแทนกับสิ่งที่ได้รับ มันเทียบกันไม่ได้หรอกค่ะ” ♦