กลายเป็น Case Study สําหรับกรณีของดาราสาว “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” ที่มีปัญหากับออร์แกไนเซอร์ เรื่องการจ่ายเงินค่าตัว ที่มีการโพสต์ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย สื่อที่ยุคนี้ใครๆ ก็นิยมชมชอบ แต่สุดท้ายก็บานปลายกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต และไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆ และถึงจบก็ศพไม่สวยแน่นอน
จากที่มีแค่คู่กรณีเพียง 2 คน คือ สาวพลอย และออร์แกไนซ์ ที่ตอบโต้กันไปมาผ่านโลกออนไลน์มาสู่การให้สัมภาษณ์ออกสื่อด้วยถ้อยทําที่รุนแรง และสาวพลอย ถูกแฉเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี ทําให้มีการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเกี่ยวกับกรณีนี้อย่างรุนแรง
ขณะที่ทางกรมสรรพากร ออกโรงเตรียมตรวจสอบเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีของดารา รวมไปถึงเตรียมเรียกบรรดาซูเปอร์สตาร์ทั้งหลายที่พ่วงตําแหน่ง เจ้าพ่อ-เจ้าแม่พรีเซนเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า-อุรัสยา, ชมพู่-อารยา, แพนเค้ก-เขมนิจ, เป้-อารักษ์, โดม-ปกรณ์ ลัม, อนันดา, แอน ทองประสม ฯลฯ มาชี้แจงเกี่ยวกับภาษีเงินได้ในแต่ละปีอีกด้วย
ในขณะที่ สาวพลอย พร้อมคุณแม่ ออกมาแถลงข่าวทั้งน้ำตาและบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นขอโทษที่ใช้คําพูดรุนแรง ไม่มีสติควบคุมอารมณ์ ขอโทษแฟนคลับและคนที่รัก พอได้เห็นน้ำตา อุณหภูมิร้อนๆ เหมือนจะลดลงไปได้บ้าง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีก เมื่อหวานใจของ สาวพลอย อย่าง “หนุ่มต้าร์” นาวิน ต้าร์
โพสต์ข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ทํานองต่อว่า คนที่โพสต์ข้อความว่าคนอื่นเสียๆ หายๆ ถึงไม่ได้ระบุชัด แต่ก็สามารถรับรู้ได้ว่า หนุ่มต้าร์ ของขึ้น ที่แฟนสาวโดนถล่มจากโลกไซเบอร์แต่แทนที่จะกลายเป็นเรื่องดี กลับกลายเป็นหนุ่มต้าร์เสียเองที่ถูกถล่มกลับมาจากชาวเน็ต กลายเป็นหนังเรื่องยาวที่มีภาคต่อซะแล้ว
บทเรียนครั้งนี้ น่าจะมีประโยชน์ช่วยเตือนใจคนอื่นๆ ได้บ้างว่า ใน โลกของโซเชียลมีเดียไม่ได้มีแค่ประโยชน์อย่างเดียว แต่ในทางกลับกันมันพร้อมที่จะทําให้ใครๆ ตายได้เช่นกัน ความตรง ความแรง ความเป็นตัวของตัวเอง หากแสดงออกอย่างผิดๆ ผิดที่ ผิดเวลา ผิดกาลเทศะ ก็กลายเป็นโทษได้ โดยเฉพาะการกระทําอะไรโดยขาดสติ ไม่ว่าจะเป็นการพูด หรือการกระทํา ล้วนนํามาซึ่งความเสียใจในภายหลัง