“เอ-ศุภชัย” เป็นอันดับ 1 จากมีดาราระดับแม่เหล็กหลายคนอยู่ในสังกัด ไม่ว่าจะเป็น “อั้ม-พัชราภา, ณเดชน์ คูกิมิยะ, เคน-ภูภูมิ, ใหม่-ดาวิกา” ฯลฯ ทุกคนล้วนแต่มีงานชุก ทั้งละคร และงานอีเว้นท์ขณะเดียวกันเด็กใหม่ที่ต้องการจะก้าวขึ้นมามีชื่อเสียงในฐานะดารา ต่างก็ปรารถนา จะเป็นเด็กในสังกัด “เอ-ศุภชัย” ทั้งนั้น เพราะเชื่อว่า ยังไงก็โด่งดังแน่ๆ ดีไม่ดียังสามารถก้าวขึ้นเป็นดาวในชั่วข้ามคืน
เนื่องจากคุณสมบัติของ “เอ-ศุภชัย” นอกจากจะมีคอนเน็คชั่นกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ทั้งในช่อง 3 และช่อง 7 สีเป็นอันดีแล้ว เขายังสามารถต่อสายกับเอเยนซี เจ้าของสินค้า ออร์แกไนซ์ ในการหางานโฆษณา และงานอีเว้นท์ให้ตลอด
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ปฏิเสธ เพราะเจ้าของสินค้ามั่นใจว่า ถ้าใช้เด็ก “เอ-ศุภชัย” ออกงาน อีเว้นท์ สื่อมวลชนจะต้องแห่ไปทําข่าวแน่นอน เนื่องจาก “เอ-ศุภชัย” มีลูกเล่นในการสร้างข่าว
เพื่อให้คนติดตาม เด็กทุกคนที่เขาดูแล จึงมีความเคลื่อนไหวในทางข่าวตลอด ถ้าใครเงียบ หรืองานซาลงเขาก็มีวิธีโปรโมทแต่ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า ตอนนี้ “เอ-ศุภชัย” เริ่มจะเขี้ยว เพราะมั่นใจในศักยภาพของตัวเองที่มีอยู่ ประมาณว่าไม่ง้อเด็ก ถ้าจะให้ดูแลต้องทําตามเงื่อนไข โดยเฉพาะเปอร์เซ็นต์จากงานอีเว้นท์ ซึ่งโดยปกติเขาจะคิดจากเด็กประมาณ 30% มากสุดก็ไม่เกิน 40%
แหล่งข่าวรายนี้ระบุว่า “เอ-ศุภชัย” จะหักค่าหัวคิวจากเด็กถึง 70% นั่นหมายความว่า ถ้าเด็กรับงาน 10,000 บาท เขาจะต้องได้ 7,000 บาท ส่วนที่เหลือ 3,000 บาท เด็กจะได้ไปทําให้ผู้ปกครองของเด็ก เริ่มไม่พอใจและไม่ต้องการจะให้เด็กไปสังกัดค่ายของเขา เนื่องจากว่าหักค่าหัวคิวโหดเกินไป เท่ากับเด็กไม่ได้อะไรเลย ทั้งๆ ที่เป็นผู้ลงแรงในการออกงาน
อีเว้นท์
ตอนนี้เลยมีข่าวกระฉ่อนว่า เด็กใหม่หลายคนเริ่มที่จะปฏิเสธ ไม่ยอมถูกเอารัดเอาเปรียบเพื่อแลกกับความดังของตัวเอง เพราะผลประโยชน์ที่จะต้องถูกสูบเอาไปมากเกินกว่าพวกเขา
จะรับได้
ส่วนความเป็นจริงจะเป็นยังไง เชื่อว่า “เอ-ศุภชัย” คงออกมาเฉลยเรื่องนี้แน่ว่า เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่?