"มาริโอ้ เมาเร่อ" ต้องพลิกบทร้ายสุดเข้มข้นจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างคาดไม่ถึงเป็นครั้งแรกในชีวิตการแสดงใน "จันดารา ปัจฉิมบท" บทสรุปแห่งกรรมตัณหาภาคอวสานของเรื่อง ซึ่งพระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์ก็สามารถเข้าถึงบทบาทร้ายและด้านมืดของตัวละครนี้ได้อย่างดีเยี่ยม จนสามารถได้ใจและเสียงตอบรับชื่นชมจากเหล่าคนดูไปเต็มๆ
"สำหรับบทร้ายครั้งแรกของโอ้มันค่อนข้างยากเหมือนกันครับ มันละเอียดทางอารมณ์มากๆ เพราะสิ่งที่จันเคยถูกกระทำมาตั้งแต่ภาคแรกมันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะเจอ เขารู้สึกว่าทำไมเขาต้องถูกทำร้ายถูกทารุณอะไรอย่างนี้ และจันก็ยังโดนคุณท้าวยายฝังหัวใส่ทุกอย่างมาที่จัน ให้มีความเจ้าคิดเจ้าแค้น ก็เลยทำให้จันต้องทำอะไรต่างๆ ที่ร้ายแรงลงไป และแรงขึ้นเรื่อยๆ จนผลสุดท้ายแล้วสิ่งที่จันทำกับคุณหลวงก็แรงกว่าที่คุณหลวงเคยทำกับจันซะอีกครับ
วิธีที่โอ้เข้าถึงบทบาทได้ง่ายก็คือคิดถึงสิ่งที่เราต้องทำ คิดถึงหน้าที่ที่เราต้องทำ ก็ยังไม่ลืมความเป็นจันลึกๆ จริงๆ จันก็ไม่อยากทำอะไรหลายๆ อย่างแบบที่ทำลงไป แต่ว่าด้วยภาระหน้าที่และสิ่งที่สัญญากับผู้ใหญ่ก็เลยต้องทำไปอย่างช่วยไม่ได้ สำหรับโอ้รู้สึกเศร้าเหมือนกัน สิ่งที่เขาเจอมาตอนเด็กๆ มันก็หนักมาก ทำให้มันเป็นผลมาจนถึงสิ่งที่เขากระทำตอนนี้ ผมว่าผู้ชมที่ดูมาตั้งแต่ภาคแรกก็ต้องรู้สึกตรงนั้นอยู่แล้ว เพราะว่าสิ่งที่จันโดนมาก็ใช่ว่าจะเบา และสิ่งที่เขาทำกลับไปมันก็หนักและอาจหนักกว่าด้วย
สำหรับโอ้ส่วนใหญ่จะรับบทพระเอกและต้องทำดี แต่สำหรับจันดาราเป็นอีกเคสหนึ่งที่ จัน ดารา เป็นพระเอกแต่ทำสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่มันร้ายแรง สำหรับโอ้คิดว่าไม่กลัวครับว่าแฟนคลับหรือคนที่มาดูแล้วเขาจะรู้สึกไม่ดี ถ้าเขารู้สึกไม่ดีแสดงว่าเราแสดงได้ดีแล้ว ทำให้คนได้เห็นว่าสิ่งที่จันเขาทำไม่ดีก็คือไม่ดี ทำให้เขาเห็นไปเลยครับ ถ้าคนดูชอบในการพลิกบทร้ายของโอ้ โอ้ก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ชอบและสนับสนุนโอ้มาโดยตลอด สำหรับโอ้บทนี้มันเป็นบทที่ท้าทายตัวโอ้เองมากๆ ถือเป็นก้าวใหญ่ก้าวหนึ่งในอาชีพการแสดงของโอ้เลยครับ"
พบความร้ายกาจของ "มาริโอ้ เมาเร่อ" แบบที่คุณคาดไม่ถึงใน "จันดารา ปัจฉิมบท" วันนี้ในโรงภาพยนตร์ ♦