ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้น และแปลกใจ เพราะนอกจากตัวเองจะไม่มีประสบการณ์ในการแสดงหนังมาก่อนด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นสาวเสียงสวยอย่าง “แป้งโกะ จินตนัดดา ลัมะกานนท์” ก็ยังเข้าตา แถมงานนี้ผู้กำกับหนุ่มอย่าง “แดน วรเวช ดานุวงศ์” ลงทุนทาบทามด้วยตัวเอง แต่ที่เซอร์ไพรส์ยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่างานนี้ต้องมารับบทนางเอก คู่กับหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆแห่งพ.ศ.นี้อย่าง “โทนี่ รากแก่น” ใน “ฤดูที่ฉันเหงา” ภาพยนตร์รักโรแมนติคคอมมิดี้ จากการเขียนบทและกำกับภาพยนตร์โดย “แดน วรเวช” ที่หยิบเอาสายฝนมาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการถ่ายทอดเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวขี้เหงาที่พร้อมแปรเปลี่ยนเป็นความสุขผ่านรอยยิ้มและเสียงหัวเราะทำให้งานนี้สาวแป้งเลยต้องผ่านการเวิร์คช็อพทางการแสดงแบบติวเข้ม
“เป็นผลงานการแสดงแบบเต็มๆตัวเป็นครั้งแรกและที่สำคัญคือนี่เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตก็รู้สึกหนักใจพอสมควร ถึงเคยเล่นเอ็มวีมาแล้ว แต่แป้งรู้สึกว่าอารมณ์มันจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะว่าอย่างเอ็มวี เรารู้จักตัวละครแค่นั้นแหละ แต่ว่าอันนี้เราต้องทำการบ้านลึกลงไปถึงอุปนิสัยต่างๆ ของตัวละครด้วย พี่แดนก็เลยส่งไปทำ Workshop หนักหน่วง โดยเฉพาะแป้งเองจะโดนWorkshop เดี่ยวๆบ่อยมาก ครูที่สอน คือครูดาว จะเป็นครูที่เขี้ยวสุดๆ แล้วเราเป็นคนที่เขิน ตอนแรกก็จะไม่กล้าเล่นอะไรเลย ไม่กล้า แสดงอะไรเท่าไหร่ แต่พอเราผ่านจุดนั้นมาได้นะ ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว(หัวเราะ)"
ส่วนเรื่องที่เป็นกังวล คือ กลัวว่าพอเดี่ยวเวลาเจอกล้อง หรือถึงเวลาถ่ายจริงจะเล่นไม่ได้ จะเขินหรือเปล่า ทำให้เขาเสียเวลามั้ย แต่อได้เข้ามาเล่นจริงๆ ก็คือมันสนุกมาก สนุกกว่าที่เราคิดไว้เยอะ ตอนแรกที่รับบทมาเราก็ชอบแล้ว อยากลองอะไรแบบนี้ แต่ตลอดเวลาที่ไปถ่ายหนังในทุกๆวันมีความสุขมาก จนไม่อยากกลับเลย อารมณ์ประมาณว่า ทำภาค 2 ต่อไหม ไม่อยากกลับเลย(หัวเราะ)
รับบทเป็นสาวติสต์หวานปนเท่ห์ ประมาณว่าเจอฝนเป็นไม่ได้ เกิดอารมณ์เหงาสุดๆจนต้องหาที่อุ่นๆในการซุกตัว แต่เลือกร้านทำผมไม่รู้ว่าจริงๆแล้วอุณหภูมิในร้านที่อุ่นเหลือเกินหรือติดใจช่างทำผมสุดหล่อในร้านรึเปล่า
“แป้งว่าเสน่ห์ของตัวละครตัวนี้จริงๆ ถ้าดูเผินๆก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ที่เราเจอได้ในยุคนี้ แต่แป้งว่าลึกๆข้างใน เขาก็เป็นคนที่มีอะไรในใจตลอดเวลาเหมือนกัน แล้วก็น่าจะมีโลกส่วนตัวสูง สังเกตจากพฤติกรรมหลายๆอย่าง อย่างเช่นเวลาฝนตก บางคนอาจจะเลือกหลบเข้าไปในร้านกาแฟ หรือว่าในห้าง บางคนอาจจะเลือกกลับบ้าน ผู้หญิงคนนี้จะเข้าไปในร้านทำผม เราก็จะรู้สึกว่าเอ๊ะผู้หญิงคนนี้เขาคิดอะไรของเขาอยู่นะ หรือถ้าดูจากไลฟ์สไตล์การแต่งตัวก็จะเป็นผู้หญิงแบบ Working Woman ประมาณว่าสวยุคใหม่ที่พึ่งพาตัวเองได้ แต่ก็แอบอ่อนหวานและอ่อนไหว เวลามีอะไรมาสะกิจใจนิดหนึ่ง หรือบรรยากาศ อย่างเช่นเวลาฝนตก ตัวละครตัวนี้ก็จะรู้สึกเหงาขึ้นนเป็นทวีคูน แต่เก็เลือกเก็บไว้ในใจมากกว่าที่จะแสดงออกมา จะเป็นคนที่เก็บความเหงาเอาไว้ แบบไม่เหงาหรอก แต่ว่าพฤติกรรมที่เขาทำอย่างเช่น เวลาที่ฝนตกแล้วต้องไปหลบที่ไหนสักแห่งก็แสดงว่าเขาเป็นคนเหงามาก จริงๆสมัยนี้ ยุคนี้ น่าจะมีผู้หญิงที่มีคาแรคเตอร์แบบนี้เยอะ เพราะว่าผู้หญิงที่ทำงานหรืออยู่คนเดียวก็ค่อนข้างเยอะเหมือนกันซึ่งบางทีก็อาจจะต้องการที่พึ่งอยู่แล้วแหละ สำหรับแต่ละคนอาจเป็นสถานที่ หรืออาจต้องการแค่อ้อมกอดของใครสักคน”
แค่ฟังคาแรคเตอร์ก็รู้สึกได้ถึงความจี๊ดแบบสุดๆแล้ว ยิ่งพอรู้ว่าต้องมาเล่นคู่หนังรักโรแมนติคคอมมิดี้คู่กับพระเอกอย่างโทนี่ รากแก่นด้วยแล้ว
“หลังจากที่พี่แดนเล่าเรื่องให้ฟัง พี่แดนก็บอกว่าเราต้องเล่นกับใครบ้าง พอรู้ว่าเล่นกับพี่โทนี่ ก็รู้สึกว่าดี(หัวเราะ)คือ...เพื่อนๆแป้งปลื้มพี่โทนี่กันเยอะมาก เพื่อนๆรู้เขาก็จะแซวว่า น่าอิจฉาจัง ส่วนตัวเราก็ตื่นเต้นแหละ เพราะเราเองก็ติดตามผลงานของเขามา ความรู้สึกที่ได้เล่นกับพี่โทนี่นะคะ ได้พี่โทนี่มาเป็นช่างผมให้ด้วยในเรื่อง สนุกมากๆ แล้วรู้สึกเป็นเกียรติมาก เพราะว่าพี่เขาเป็นช่างผมชื่อดังนะคะ คือโด่งดังทั้งในเรื่องการแสดง และในเรื่องที่เป็นสไตลิสต์ แล้วก็ทำผมอย่างสวยงาม และได้เขามาตัดให้ เพราะในหนังเรามีการตัดจริงเกิดขึ้นด้วย สระผมได้เก่งมาก ในฉากนี่เคลิมจะหลับแล้วก็สะดุ้งขึ้นมา พี่เขาพูด ส่งบทมา เราก็อุ้ย...(หัวเราะ)”
แหมจับคู่เข้าล็อคลงตัวกันซะขนาดนี้ ไม่อยากบอกเลยว่าเวลาทั้งคู่เข้าฉากด้วยกันจะจี๊ดขนาดไหน ที่สำคัญคู่นี้เขามีการสื่อสารผ่านสีหน้าแววตาประมาณว่าพูดน้อยต่อยอย่างหนักเลยทีเดียว พบกับอีกหนึ่งคู่รักของ “ฤดูที่ฉันเหงา”นอกเหนือจากหนุ่มแจ๊คแฟนฉันและน้องนารา เทพนุภาได้ 9พ.ค.นี้ ทุกโรงภาพยนตร์