สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2548 ให้ลงโทษจำคุก น.ส.พรพรรณ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 8 ปี 1 เดือน ปรับ 340,000 บาท ส่วนนายจิตพัฒน์ จำเลยที่ 2 จำคุก 33 ปี 4 เดือน ปรับ 800,000 บาท นายนิมิตร จำเลยที่ 3 ให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์
ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ฐานมีเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้จำคุกตลอดชีวิต ปรับ 1.2 ล้านบาท คำให้การมีประโยชน์ต่อการพิจารณาเห็นสมควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 33 ปี 4 เดือน ปรับ 800,000 บาท และให้รับโทษต่อจากคดีแดงที่ 3624/2547 ที่ศาลแขวงพระโขนงจำคุก 1 เดือน คดีขับรถขณะเมาสุรา รวมจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 33 ปี 5 เดือน ปรับ 800,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษจำคุก 33 ปี 4 เดือนปรับ 800,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 ให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง โดยฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังขึ้นรับฟังได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาบ้าจำนวน 440 เม็ดเท่านั้น ส่วนจำนวนอื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่ายาบ้าที่พบไม่ใช่ของตนฟังไม่ขึ้น
ศาลฎีกาพิพากษาแก้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น จำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 8 ปี 1 เดือน ปรับ 340,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 จำคุก 33 ปี 4 เดือน ปรับ 800,000 บาท แต่แก้โทษปรับ โดยให้กักขังแทนค่าปรับได้ไม่เกิน 1 ปี ซึ่งจำเลยที่ 1 ขณะนี้ถูกจำคุกมาแล้ว 8 ปี 10 เดือนแล้ว
ทั้งนี้นอกจากครอบครัวของจอยซ์แล้ว ยังมี “โบ สุรัตนาวี” เพื่อนซี้และอดีตสมาชิกวง “ไทรอัพมพ์ คิงส์ดอม” เดินทางมาฟังคำพิพากษษด้วย แต่ไม่ให้สัมภาษณ์กับกองทัพผู้สื่อข่าว บอกแต่ว่าดีใจและรอพูดครั้งเดียว ในงานอีเว้นท์ช่วงเย็นวันนี้ ที่เซ็นทรัลเวิลด์
ล่าสุดมีรายงานข่าวมาว่าจะมีการปล่อยตัวจอยซ์ในช่วงเย็นนี้ที่เรือนจำ