สุดซึ้ง "หมอโอ๊ค” ควง “โอปอล์” แต่งงาน ร่ำไห้ต่อหน้าสื่อ สัญญาจะดูแลกันไปจนแก่เฒ่า

สุดซึ้ง "หมอโอ๊ค” ควง “โอปอล์” แต่งงาน ร่ำไห้ต่อหน้าสื่อ สัญญาจะดูแลกันไปจนแก่เฒ่า

1

สุดซึ้ง "หมอโอ๊ค” ควง “โอปอล์” แต่งงาน ร่ำไห้ต่อหน้าสื่อ สัญญาจะดูแลกันไปจนแก่เฒ่า

    ทำเอาบรรยากาศงานแต่งงานของคู่รัก “โอ๊ค สมิทธิ์” กับ ”โอปอล์ ปาณิสรา” ที่ ห้องวไลยลงกรณ์ โรงแรม พลาซ่าแอทธินี่ ซาบซึ้งสุดๆ เมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวควงแขนมาเปิดใจกับสื่อมวลชนทั้งน้ำตา เพราะเกิดอาการตื้นตันที่ผ่านพ้นอะไรมากมายจนมีวันนี้ โดยทั้งคู่เปิดใจว่า

    วันนี้ก็รู้สึกดี ที่มีแต่คนที่เรารักมาแสดงความยินดีกับเรา ซึ่งถามสาวโอปอล์ถึงความรู้สึกในการใช้ชีวิตด้วยกันมาหลังแต่งงาน เจ้าตัวก็บอกว่าหลังจากวันที่ 23 ที่เราจดทะเบียนกันไปแล้ว พึ่งจะตระหนักว่าเราเป็น "นาง" แล้ว วันที่ตื่นขึ้นมาอีกวันถึงตื่นเต้นเพราะรู้ว่าสถานภาพเราเปลี่ยนไป แต่เราก็ใช้เวลาไม่นานก็ชินทันที วันที่ผ่านมาเราเชิญเฉพาะญาติสนิท แต่วันนี้เราอยากเชิญสื่อมวลชนและบอกให้คนทั่วไปรู้ว่าเราแต่งงานกันแล้ว 

    ด้าน "หมอโอ๊ค" ก็บอกว่า ใช้ชีวิตมาด้วยกันสองอาทิตย์ก็มีความสุขดี เหมือนได้คนดูแลเราเพิ่ม เขาเองก็เป็นคนที่น่ารัก และดูแลเราดีมาก เขาก็เป็นแม่บ้านเต็มตัว เช่นบีบยาสีฟันให้ กับข้าวเขาก็ทำอร่อยด้วย

    ซึ่ง "โอปอล์" ก็บอกว่า ตัวเราเองพยายามปรับตัวทุกอย่างต้องตื่นหกโมงเช้าทุกวัน เพราะพี่โอ๊คไปทำงานแปดโมงเพื่อเตรียมดูแลเขาก่อนไปทำงานเราก็เริ่มชินแล้วสองอาทิตย์แล้ว ในส่วนของการฮันนีมูน จะเป็นช่วงมิถุนายนก็ต้องเคลียร์คิวกันนิดนึง จะไปที่ยุโรปกันแต่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนกัน และยังไม่แพลนว่ากี่วัน อาจจะแค่อาทิตย์กว่า หลังแต่งงานในเรื่องการทำงานก็ยังคงทำเหมือนเดิม แต่จะหาเวลาอยู่ด้วยกันให้มากขึ้น เลยตกลงกันว่าวันอาทิตย์จะเป็นวันที่เราต้องให้เวลากันและกัน 

     สาว "โอปอล์" ก็เผยว่าวันอาทิตย์ก็คงจะไม่รับงานเลย เพราะเราก็ตกลงกันไว้ และอีกอย่างเราแต่งงานแล้วไม่ใช่ตัวคนเดียว ที่จะทำอะไรก็ได้ มันต้องมีเวลาให้กัน ต้องใส่ใจกันมากๆ ต้องสร้างครอบครัวกันให้สมบูรณ์ ไม่ใช่แค่การสร้างเนื้อสร้างตัวแต่มันต้องให้การดูแลเขาด้วย

     หลังแต่งงานเราก็รู้สึกว่าชีวิตมันเปลี่ยนไปมากตอนที่เราเป็นโสดก็อีกแบบหนึ่ง มีแฟนก็อีกแบบหนึ่ง พอมีสามีมันคือเราไม่ใช่คนๆ เดียวแล้ว เราจะต้องคำนึงถึงหลายๆ อย่าง ว่าเราจะทำอะไรในฐานะภรรยาที่เป็นสถานภาพของเรา เราเรียก "พี่โอ๊ค" ว่า "ที่รัก" ก็เรียกแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนเรื่องลูกนั้นก็ตั้งใจจะปล่อยตามธรรมชาติไม่ได้เร่งรัดถ้ามาทั้งคู่ก็พร้อม 

     เมื่อถามถึงกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงแรกจนมีวันนี้ ด้าน "โอปอล์" ก็เปิดใจว่า ช่วงที่เราตัดสินใจคบกัน เราไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล่นๆ เราเองก็รู้สึกโชคดีที่เจอคนที่เขารักเรา และเราก็รักเขาขนาดนี้ ดังนั้นเรื่องกระแสแรกๆ ที่เราคบกัน มันอาจจะเป็นสิ่งที่หนัก แต่มันก็แค่ผ่านมาแล้วผ่านไป และเราก็รู้สึกว่า วันนี้เราไม่อยากอยู่โดยไม่มีเขาแล้ว เพราะฉะนั้นปัจจัยต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นมาไม่ได้ส่งผลต่อเราเลยแม้แต่นิดเดียว

     สำหรับ "หมอโอ๊ค" ก็บอกว่า มันจะคิดยังไงก็ได้ทั้งบวกและลบ แต่มันเป็นข้อดีที่ทำให้เราได้เห็นแบบทดสอบว่าใครที่อยู่ข้างๆ เรา และใครที่เรารักจริงๆ พร้อมจะฝ่าฟันทุกๆ อย่างไปด้วยกัน แม้แต่ในเรื่องที่ร้ายที่สุดก็มีเรื่องที่ดีแทรกอยู่ ทำไมต้องเป็น "โอปอล์" เพราะเขาเป็นคนที่คิดถึงคนอื่นเสมอ และมีความรักมากมายให้ผม ให้ครอบครัวของผม ให้ครอบครัวของเขา ทำให้ผมเข้าใจว่า "ความรักมันสำคัญต่อคนรอบข้างและสำคัญต่อโลกใบนี้" 

      เมื่อถาม "โอปอล์" ว่าทำไมต้องเป็น "หมอโอ๊ค" เธอก็บอกว่า เวลาเราเจอใครสักคน แล้วเราไม่มีคำถามอะไรเลย ว่าตกลงเขายังไง อย่างไร นั่น แหละเราเจอแล้ว และชีวิตเราอยากอยู่กับเขาจนตาย จนไม่มีวันไหนจะไม่มีคนนั้น เราไม่เคยคิดว่ามันจะมีวันนี้ที่ได้แต่งงาน จนวันที่ได้เจอ "พี่โอ๊ค" และวันที่เราตกลงคบกันแรกๆ เรารู้เลยว่า พอคำว่า "ใช่" แล้วมันเป็นยังไง วันนี้เราตื่นมาแล้ว มาเจอเขาทุกวัน ชีวิตลำบากแค่ไหน แต่เราได้กลับมาเจอเขา มันจบ 

      คำมั่นสัญญาที่ทั้งคู่ให้กันก็คือ "โอปอล์" ให้ "พี่โอ๊ค" ดูแล "ปอล์" ด้วย ส่วน "หมอโอ๊ค" ก็จะดูแลกันไปจนแก่เฒ่า เพราะมันสำคัญที่สุด

 

ชมภาพ เพิ่มเติม ที่ https://www.daradaily.com/gallery/1611/view/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments