‘เนสท์ นิศาชล’ ขึ้นแท่นนางเอกครั้งแรกกับ ‘บ่วงมาร’
คู่จิ้นแห่งบ้าน AF9 ที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น ลุ้นและเชียร์กันมากที่สุด สําหรับ “ไบรท์-วิชเวช เอื้ออําพน” และสาว “เนสท์-นิศาชล สิ่วไธสง” หรือ “ไบรท์-เนสท์ AF9” ล่าสุดทั้งคู่ยังรับเล่นละครร่วมกัน ในละครเรื่อง “บ่วงมาร” ที่เรียกว่าเป็นการตอกย้ำกระแสจิ้นให้กับเหล่าบรรดาแฟนคลับได้จิกหมอนกันเป็นแน่
บทบาทในละครเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร และกระแสคู่จิ้น “ไบรท์-เนสท์” จะขยับมาใช้คําว่า “แฟน” ได้หรือยัง ไปฟังจากปากของสาว “เนสท์-นิศาชล สิ่วไธสง” กันเองเลย
เข้าวงการบันเทิงมา 2 ปีแล้ว เป็นทั้งนักร้อง และนักแสดงที่งานชุกคนนึง ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง..
“เปลี่ยนเยอะมากๆ ปกติเราก็จะเป็นคนที่ชิวชิว ทําอะไรก็ได้ แต่ว่าพอได้มาอยู่ตรงนี้แล้วก็มีคนติดตามเราเพิ่มมากขึ้น แล้วอย่างของเนสท์ก็จะมีพวกเด็กๆ ที่คอยติดตาม เราก็จะต้องวางตัวใหม่ อย่างอะไรที่เราเคยรู้สึกว่าทําได้ แต่ว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะไม่เหมาะไม่ควร เราก็ต้องปรับความรู้สึกของเราใหม่ แล้วความเป็นส่วนตัวมันก็จะหายไปเยอะมากๆ เลย ตอนแรกก็ไม่ชินนะ เพราะอย่างตอนที่เรายังไม่มีคนรู้จักเราจะไปไหนก็ไปได้ แต่พอตอนนี้ไปไหนก็เริ่มมีคนจําได้ แต่ก็เข้าใจนะเพราะว่าเราอยู่ตรงนี้ ซึ่งคนที่รู้จักหรือเข้ามาทักเขาก็ไม่ได้ก้าวก่ายอะไร แต่เราก็จะรู้ว่าคนรู้จักเรานะ”
ตอนนี้ไปไหนมีคนจับตามอง...
“ตอนที่ออกมาจากบ้าน AF ใหม่ๆ เราก็ยังเป็นเด็ก ยังทําอะไรไม่เป็น เพราะเราเป็นเด็กต่างจังหวัดด้วย การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ก็ต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย แล้วตอนนั้นเราก็รู้สึกว่า ทําไมล่ะ ไปไหนทำไมมีคนมาคอยสังเกต ถ่ายรูปนู่นนี่ แต่พอหลังๆ เราก็เริ่มเข้าใจว่าเราอยู่ตรงนี้ เราเป็นบุคคลสาธารณะ คือมันเป็นเรื่องปกติของบุคคลที่เป็นคนสาธารณะ”
อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทําให้มาเป็นศิลปิน...
“คือจริงๆ แล้วเนสท์จะมีศิลปินในดวงใจ คือพี่ดา เอ็นโดรฟิน คือเราดูเขาแล้วเราอยากเป็นอย่างเขา คือเห็นเขาออกรายการโทรทัศน์แล้วเล่าประสบการณ์ชีวิตกว่าที่เขาจะมาเป็นศิลปินได้ คือผ่านช่วงเวลามาเยอะเพราะที่บ้านเขาก็ไม่ได้สนับสนุน เวลาเขาไปร้องเพลงที่ผับก็ต้องหนี คุณพ่อไป ซึ่งเราลองมาคิดดู ของเราเนี่ยคุณพ่อ คุณแม่ก็สนับสนุนนะ แล้วทําไมเราต้องทําให้มัน ยุ่งยากด้วย ซึ่งเรามองเขาเป็นแรงบันดาลใจแล้วก็ชื่นชอบในตัวตนของเขาด้วย แล้วก็ติดตามผลงานของพี่ดามาตลอด ก็คิดว่าสักวันคงมีคนที่รอฟังเพลงเราแยะๆ อย่างนี้บ้าง เราก็เลยมีพี่เขาเป็นแรงบันดาลใจ”
อยู่ในวงการคุณพ่อคุณแม่ให้กําลังใจยังไงบ้าง...
“คือครอบครัวเราไม่เคยคิดว่าจะได้มาอยู่ในวงการบันเทิง เราก็ใช้ชีวิตปกติทั่วไป คือเวลาเจออะไรคุณพ่อคุณแม่ก็จะคอยให้กําลังใจแล้วก็บอกว่าให้ปล่อยผ่านไปแล้วกัน เพราะถ้าเราไปเก็บมาคิดทุกอย่างก็คงจะปวดหัวตายแน่ๆ เลย ใครที่ไม่ชอบเราหรืออะไรก็มองข้ามไปแล้วกัน เราก็เก็บและจดจําสิ่งที่ดีๆ อย่างตอนที่ออกมาจากบ้าน AF ใหม่ๆ ก็โดนอะไรเยอะแยะมากมาย แล้วมันก็วุ่นวายด้วย คุณแม่ก็บอกว่าค่อยๆ ปรับละกัน เราก็โอเคค่อยๆ ปรับตัว ค่อยๆ ใจเย็นๆ จนตอนนี้ก็เรียกได้ว่าอยู่ตัวแล้วค่ะ”
รู้สึกอย่างไรที่มีแฟนคลับเหนียวแน่น โดยเฉพาะแฟนคลับคู่จิ้น “ไบรท์-เนสท์”...
“โอ้โห อันนี้ยิ่งกว่าอะไรเลย เพราะไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนติดตามดูเรามา ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็จะเห็นคนจับคู่จิ้นกัน ซึ่งใครจะไปคิด คือเราก็ตั้งใจ มาประกวด เราไม่ได้ตั้งใจว่าจะมาเป็นคู่จิ้น แต่พอมีแล้วเราก็งง (หัวเราะ) แต่ว่าเราก็จริงใจนะ เพราะว่าเนี่ยะถือว่าเป็นพลังที่เยอะมากๆ เพราะเวลา จะไปไหน ทําอะไร เขาจะคอยซัพพอร์ทเราตลอด
ทุกงานเลย ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กงานใหญ่ โหวตอะไรทุกอย่างเขาก็จะเต็มที่มากๆ เราก็ดีใจเพราะว่าเป็นเวลา 2 ปีแล้วที่เขายังอยู่ คือตอนแรกพวกเราก็ทําใจไว้แล้วนะว่าเดี๋ยวมีคนใหม่มา เราก็คง ต้องไปตามกาลเวลาแหละ คือเราก็เผื่อใจไว้ แต่พอมาถึง 2 ปี เค้าก็ยังอยู่ คือมันเกินความคาดหมายหรือความคาดหวังของเรา ก็แบบดีใจมากที่เขายังอยู่กับเราตรงนี้ค่ะ”
ในชีวิตจริง จะมีโอกาสจิ้นกันจริงๆ ไหม...
“อันนี้คือคําถามที่เจอบ่อยมาก แต่ว่าไม่ได้ตอบแบบดารานะ เพราะว่าเราเป็นนักร้องใช่มะ (หัวเราะ) คือเรายอมรับว่าสนิทกันจริงๆ สนิทกันเป็นพิเศษ แต่ว่าเรายังไม่ได้คบกันเป็นแฟน อย่างที่เนสท์เคยบอกไว้ คือตอนนี้เนสท์เพิ่งจะอายุ 20 เองเพิ่งจะทํางานในวงการมาแค่ 2 ปี แล้วก็เรียนด้วย แล้วเนสท์คิดว่าอยู่ในสถานะนี้ก็โอเคดีนะ เพราะว่ามันคุยได้หลายๆ อย่าง ถ้าสมมติมีคําว่าแฟนมากั้น มันก็จะรู้สึกว่าไม่สนิทใจหรือแบบว่าแปลกๆ แล้วจะมีอะไรเปลี่ยนไปก็ไม่รู้ เพราะว่าเราสองคนสนิทกัน เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ในบ้าน คือมันสนิทกันจริงๆ ก็เลยมีความรู้สึกว่าสนิทกันในสถานะนี้ก็คงโอเคมั้ง อะไรอย่างนี้น่าจะโอเคกว่า สนิทกัน ทํางานด้วยกัน อย่างที่บอกว่าเราสนิทกันมาก แล้วไบรท์กับเนสท์
ก็ไม่ใช่คนหวานๆ ซึ่งเราคงเป็นคนที่มีคาแรคเตอร์คล้ายๆ กัน เป็นเด็กต่างจังหวัดที่แบบเปิ่นๆ บ้าๆ บอๆ คือมันไม่มีฟิวที่แบบมาหยอกกัน เพราะว่าเราเริ่มจากการที่เราสนิทกันจริงๆ แล้วตอนอยู่ในบ้านเราก็ต้องเห็นมุมที่แบบน่าเกลียดของแต่ละคนแล้ว ก็เลยไม่มีโมเมนต์ที่จะมาหวาน มาจีบอะไรอย่างนี้ ซึ่งมันเลยขั้นนั้นมาแล้วอะค่ะ ก็เลยกลายมาเป็นแบบที่เป็นอยู่แบบนี้ก็โอเคแล้ว”
จริงๆ แล้วชอบผู้ชายแบบไหน...
“เนสท์คิดว่า ณ จุดนี้ใครที่แบบคุยกับเราแล้วโอเค แล้วมันคลิก แล้วก็เข้าใจเราทุกเรื่อง เพราะต้องยอมรับว่าเนสท์ไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนหวาน ออกจะเป็นคนพูดจาโผงผาง ซึ่งผู้ชายบางคนเขาอาจจะไม่ชอบ เพราะว่าเขาชอบผู้หญิงออดอ้อนเอาใจเก่ง เพราะฉะนั้นคนที่น่าจะเข้าใจเนสท์ได้ก็น่าจะมีไม่เยอะอะค่ะ (หัวเราะ) ถ้าเราเจอใครที่คุยด้วยแล้ว โอเค ก็นี่แหละน่าจะคุยกันได้นาน”
มุมมองความรักของ “เนสท์”...
“มุมมองความรักของเนสท์ เนสท์ว่า ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีชีวิตนะ เพราะว่ามันทําให้คนเราอยู่ได้นะคะ เพราะว่าความรัก ไม่จําเป็นต้องเป็นความรักแบบแฟน ความรักก็คือคนที่เรารัก ซึ่งรวมไปถึงพ่อแม่ เพื่อน ญาติพี่น้อง หรือแฟน คือมันรวมได้หมด คือความรักเป็นสิ่งที่ต้องมี แล้วมันขาดไม่ได้จริงๆ ถ้าวันใดที่ขาดความรัก คือวันนั้นไม่มีชีวิตแล้วค่ะ เพราะชีวิตต้องหล่อเลี้ยงด้วยความรัก”
ความฝันที่นอกจากการเป็นนักร้อง...
“ที่เนสท์ฝันมาคือการเป็นนักร้องกับนักแสดง ซึ่งตอนนี้ก็ได้ทําทั้ง 2 อย่างแล้ว แล้วงานพิธีกรก็ได้ทําด้วย คือตอนนี้เนสท์ถือว่าได้ทําตามความฝันของ ตัวเองเกือบครบแล้วนะคะ แล้วอีกความฝันนึงก็คืออยากให้แม่ไม่ต้องทํางาน อยู่เฉยๆ อันนั้นคือความฝันอันยิ่งใหญ่ แล้วตอนนี้ก็ทําได้แล้ว คือคุณแม่ มาอยู่กับเนสท์ที่กรุงเทพฯ แล้ว ไม่ได้ทํางานแล้ว เนสท์ก็ถือว่าเป็นความภูมิใจนะ เพราะเราอายุแค่ 20 ก็สามารถทํางานดูแลครอบครัวได้ ซื้อบ้าน ซื้อรถ แล้วเราก็รู้สึกดีที่ทําให้พ่อแม่ภูมิใจ ก็เป็นอะไร ที่สุดยอดสําหรับเนสท์แล้ว แล้วเราก็มีความสุขดี ไม่ต้องหาอะไรมาเพิ่มเติมให้มันหนักตัวเองหรือว่าจะหาภาระอะไรมาเพิ่ม เพราะว่าทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ ก็เป็นอะไรที่พอแล้ว นอกจากจะทําหน้าที่การงานตรงนี้ให้ดียิ่งขึ้นไปค่ะ”
ถามถึงผลงานละครที่กําลังออกอากาศเรื่อง “บ่วงมาร”...
“ละครเรื่อง ‘บ่วงมาร’ เนสท์จะรับบทบาทเป็น 2 คาแรคเตอร์ คือจะเป็นคนที่อ่อนหวาน ใสซื่อบริสุทธิ์ แต่พอระลึกชาติได้ว่าเคยเป็นพี่นิโคล (นิโคล เทริโอ) ในอดีตและถูกพี่ปิ่น พี่เต๋า ทําร้าย ก็ลุกขึ้นมาแก้แค้นค่ะ เราก็เลยต้องกลายเป็นอีกคาแรคเตอร์นึงเลยที่ร้าย บทแรงด้วย แล้วก็ดราม่าด้วย ต้องบอกว่าหินเลยทีเดียว วันแรกของการถ่ายทําก็เจอซีนดราม่าเลย ต้องร้องไห้ตั้งแต่ 7 โมง แล้วมันก็เป็นซีนที่ต้องระลึกความหลัง คือตอนแรกที่อ่านบทก็รู้เลยว่ามันหนักมากและกดดันมาก และเป็นเรื่องแรกที่เราได้รับบทเป็นตัวหลักด้วยค่ะ ซึ่งพี่ๆ นักแสดงคนอื่นๆ เขาก็มีประสบการณ์กันแบบอลังการทั้งนั้นเลย คือยิ่งถ้าต้องร่วมซีนใหญ่ๆ เราก็จะให้ผู้ใหญ่เขารอไม่ได้ เราก็ต้องฟิตตัวเองอย่างหนักมาก บทต้องเป๊ะ อารมณ์ต้องเป๊ะ เพราะว่าถ้ามาเทคเพราะเราคนเดียวก็รู้สึกกดดันนะ เราก็เลยต้องทําการบ้านแบบหนักๆ เลย คือมีทั้งบทอ่อยผู้ชายแบบถึงเนื้อถึงตัว มีทั้งฉากตบตี แต่เราก็โชคดีที่ได้รับคําแนะนําจากพี่ๆ นักแสดงหลายๆ คน รู้สึกผ่อนคลายขึ้น เพราะพี่ๆ ทุกคนน่ารักมาก”
ผลงานละคร...
“ละคร ‘บ่วงมาร’ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรกที่เนสท์ได้รับบทบาทอย่างเต็มที่แล้วก็เป็นนางเอกด้วย รู้สึกภูมิใจมากๆ แฟนคลับหลายคนก็รอติดตามดูอยู่ อยากบอกว่าละครเรื่องนี้เนื้อหาเข้มข้น แล้วพี่ๆ นักแสดงแต่ละคนก็เป็นรุ่นใหญ่ที่มารวมตัวกัน เราก็ดีใจนะว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่งในละครเรื่องนี้ ‘บ่วงมาร’ ออนแอร์ทางช่อง true4U ทุกวันพฤหัสฯ-ศุกร์ เวลา 1 ทุ่ม ถึง 2 ทุ่ม ฝากติดตามชมด้วยนะคะ”