รักไม่พอ "เอ" แจงสาเหตุรักร้าวทั้งน้ำตา ยันไม่มีมือที่ 3
เป็นเรื่องที่หลายคนยังสงสัยกันอยู่ สำหรับคู่ของ "มด ฉัตรชัย" กับนางแบบสาว "เอ อัญชลี" ว่าความรักของทั้งคู่มีมือที่ 3 แทรกเข้ามาหรือเปล่า ถึงทำให้ชีวิตรักครั้งนี้ต้องจบลง งานนี้ก็ได้หมดข้อสงสัยสักทีเมื่อเราได้มีโอกาสเจอสาว "เอ" กับสาว "โย" ที่ควงคู่ออกงานร่วมกัน โดยทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ว่า
"จากที่มีข่าวออกไป เอก็ยอมรับว่าเรื่องของเราเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟ อ่อนไหวมากสำหรับชีวิตคู่ โดยเฉพาะสำหรับคนสองคนที่จะต้องอธิบายทุกอย่างให้เข้าใจว่าชีวิตคู่ก็ต้องมีสุขและทุกข์ ซึ่งตอนนี้ก็ยอมรับว่าเราอาจอยู่ในช่วงภาวะที่กำลังมีปัญหากันจริง แต่เราก็พยายามทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ยืนยันว่าเรายังไม่มีการจดทะเบียนหย่ากัน ขอเป็นเรื่องของอนาคต ถ้ามาถึงทุกวันนี้ที่เอพร้อมที่จะมีครอบครัวแล้วเอก็รู้สึกว่าพี่มด แต่ว่าเอก็มีหน้าที่ที่ต้องดูแลลูกชีวิตเออีกครึ่งชีวิตยังมีติดมาด้วย การงาน ทุกอย่างก็ต้องดำเนินไป เอกับพี่มดทั้งคู่ก็ต้องทำงาน เออาจจะเป็นคนที่ดูแลพี่มดไม่ดีพอ มันอาจจะเป็นความผิดพลาดตรงนี้ เอก็พยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้น
เอพยายามประคับประคองแล้ว เรื่องเวลาของการทำงานที่เอบอก มันไม่ตรงกัน ทัศนคติของเราหลายๆ เรื่องก็ไม่ค่อยตรงกัน จนบางครั้งมันเป็นปัญหาที่สะสมมานาน พอถึงตอนนี้เอก็คิดว่าตัวเองยังต้องทำหน้าที่ที่ต้องดูแลลูกเอวี่ให้ดีที่สุด คงต้องโฟกัสไปที่เอวี่ให้ดีที่สุด เอขอให้มันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เอก็ยังไม่อยากให้ครอบครัวเราต้องพังทลาย เราก็ยังคงอยู่รวมบ้านเดียวกัน ความสัมพันธ์ก็อย่างที่บอก โอกาสที่จะกลับเป็นเหมือนเดิมยังไม่รู้เหมือนกัน ถ้าใช้คำว่ายื้อของเอคือ เออยากจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด ทั้งนี้ทั้งนั้นเอขอเวลา แล้วถ้าวันไหนมันถึงจุดที่ต้องออกมาพูดเอก็สัญญาว่าเอจะไม่ปิดบัง จริงๆ แล้วเรื่องนี้เอไม่โทษใครว่าใครผิด จริงๆ อาจจะเป็นความผิดพลาดของเอเองที่ดูแลพี่มดไม่ดีพอ อาจจะทำหน้าที่ภรรยาบกพร่อง เพราะว่าส่วนหนึ่งก็ต้องดูแลลูก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องของครอบครัวมันเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟมาก
ส่วนปัญหามือที่ 3 ไม่มีแน่นอน เป็นเรื่องของเวลาล้วนๆ แล้วก็ทัศนคติที่อาจจะไม่ตรงกัน เรื่องเวลา เรื่องการงาน มีคนบอกมาตลอดว่าเราตัดสินใจเร็วไปสำหรับการมีครอบครัวใหม่สิ่งหนึ่งที่เชื่อมาตลอดคือ สักวันนึงถ้าเอเจอคนที่คิดว่าใช่แล้วคุณมดก็เป็นผู้ชายที่ดี แล้วเอก็โชคดีที่ได้เจอคุณมดจริงๆ เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เอยังรักพี่มดอยู่ เราไม่ได้คุยกันประมาณ 4 เดือนแล้ว กว่าที่เราจะเจอกันก็ใช้เวลาเกือบ 40 ปี เอก็คิดว่าเวลา 2 ปีที่ผ่านมามันยังน้อยไปที่เราจะรู้จักกัน มันอาจจะมีอะไรที่มันไม่ตรงกัน อาจจะมีอะไรที่ผิดพลาด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าคนเรารักกันจริงมันก็ยังพอที่จะเดินจับมือกันและให้อภัยซึ่งกันและกัน ตอนนี้เอบอกเลยว่าเอรักเอวี่มากที่สุด ตอนนี้เอวี่โตขึ้นมากและมีความจำที่ดีมาก เอไม่อยากให้เค้าจำในสิ่งที่มันกระทบกระเทือนใจ เอพยายามที่จะไม่พูดอะไร เอกับพี่มดยังเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เอวี่ก็ยังถามถึงพี่มดทุกวันเอวี่ยังไม่รู้อะไร เค้ารู้แค่ว่ามีคนที่รักเค้า มีคนที่ดีกับเค้า แต่ถ้าวันนึงคนๆ นึงหายไปเค้าก็ต้องถามอยู่แล้ว"
ด้าน "โย ยศวดี" บอก "เอาจริงๆ เรื่องครอบครัวมันก็เป็นเรื่องเซนซิทีฟ โยก็ไม่อยากจะทำอะไรแต่ก็คอยให้คำแนะนำ และโยก็เชื่อว่าเอกับมดมีสายใยที่ผูกพันกันเยอะ ก็อยากให้ลดทิฐิกันแล้วก็รับฟังกันมากขึ้น แล้วเรื่องของธุรกิจ ทางคุณบีก็ติดต่อมาแล้ววันที่ 18 นี้จะมีทีมของคุณบีมา แต่ถ้าถามว่าเราได้เจอกันหรือยัง ก็คือยังไม่ได้เจอ แต่ก็ได้เจอกันบ้างในงานแฟชั่นโชว์เฉยๆ ยังไม่ได้มาเคลียร์อะไร ส่วนที่บอกว่ามีเรื่องที่เกิดขึ้นในงานวันนั้น จริงๆ แล้วไม่มีอะไรเลย เอาจริงๆ แค่ผิดซีนเท่านั้น ซีกโยมันแคบมาก ซึ่งมันไม่เหมือนตอนซ้อม ตอนซ้อมนี่เราไม่ได้ใส่เสื้อผ้ามันจะเดินได้เร็ว แล้วในงานวันนั้นมันต้องเดินผ่านเค้า ก็จะบังเอิญได้เจอกัน โดยเดินหลบให้เค้าแล้ว ถ้าไม่หลบแล้วจะผ่านกันไปได้ยังไง ในงานวันนั้นโยกังวลอย่างเดียวคือเรื่องชุด ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย ก็เจอหน้ากันตอนซ้อมแต่ก็ไม่ได้คุยกัน ส่วนตัวโย โยมั่นใจในสิ่งที่ทำอยู่ แล้วทีมที่ทำก็เป็ทีมที่เก่งอยู่แล้ว โยพร้อมจะให้ตรวจสอบทุกสิ่งอย่าง ยินดีจะทำผลิตภัณฑ์เหมือนกันเพราะนักแสดงหลายท่านก็ทำ ทำมาให้มีตัวเลือกสำหรับลูกค้าก็จะดี ธุรกิจก็คือธุรกิจ เราก็ทำมาได้สักพักแล้ว กับข่าวไม่มีอะไรเลย ไม่ซีเรียสตั้งแต่แรก ใช้ความใจเย็นแก้ปัญหามาตลอด เอาเป็นว่าต่างคนต่างทำงานดีกว่า"