"เจมส์ ชินกฤช" ลูกทุ่งรูปหล่อขอเป็นดารา

"เจมส์ ชินกฤช" ลูกทุ่งรูปหล่อขอเป็นดารา

1

 บุรีเดินตามฝันจนได้เป็นแชมป์จากเวทีประกวดร้องเพลง “คว้าไมค์คว้าแชมป”์ ปี 2 และกลายเป็นศิลปินเต็มตัวภายใต้สังกัด แกรมมี่ โกลด์ ด้วยรูปร่างหน้าตาและความสามารถที่มากกว่าการเป็นนักร้อง “เจมส์ ชินกฤช มะลิซ้อน” จึงกลายมาเป็นดารานักแสดงมีผลงานละครออกมาให้ได้ชมกัน

เส้นทางสายดนตรี...
“ผมก้าวเข้ามาเป็นนักร้องกับค่ายแกรมมี่ โกลด์ จากการประกวดรายการคว้าไมค์คว้าแชมป์ ของแฟนทีวี ได้เป็นแชมป์ปีที่ 2 ซึ่งแชมป์ปีแรกก็คือ เปาวลี พรพิมล เป็นเพื่อนที่มาจากสุพรรณด้วยกันนี่แหละครับ ผมได้แชมป์ปี 2 ก็ได้มาเซ็นสัญญาเป็นศิลปินฝึกหัดของค่ายแกรมมี่ โกลด์ ได้ขึ้นเวทีร้องเพลงเวทีใหญ่ๆ กับนักร้องรุ่นพี่มากมาย ทําให้เราได้ประสบการณ์มาจนถึงทุกวันนี้ ได้มีการฝึกฝน แล้วก็พัฒนาในเรื่องเสียง และหลายๆ ด้านด้วยกัน จนได้มีอัลบั้มเกิดขึ้น
ตอนนี้มีอัลบั้มเต็ม เป็นอัลบั้มชุดที่ 1 ชื่อว่า ‘เปิดฉาก’ มีทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน อัลบั้มนี้ก็จะเป็นเพลงช้า เพลงเร็ว แล้วก็กลางๆ ล่าสุดนี้ก็เป็นซิงเกิ้ลที่ 2       ที่กําลังปล่อยออกมาตอนนี้ก็คือเพลง ‘หน้าอย่างฉันมันโง่ใช่ไหม’ สไตล์เพลงก็เป็นเพลงเกี่ยวกับความรักที่เหมือนกับโดนคนรักของเราหลอก โดยที่เราก็รู้แต่ก็ทนโง่ แต่สุดท้ายแล้วเราก็ถึงขีดจํากัด ก็คือเริ่มปลงล่ะ ก็อยากจะถามเขาตรงๆ ด้วยอารมณ์น้อยใจ ตัดพ้อต่อว่า ว่าหน้าอย่างฉันมันโง่ใช่ไหม เนื้อหาจะเป็นประมาณนี้ครับ เพลงนี้เริ่มปล่อยไปแล้ว และก็อยู่ในช่วงของการโปรโมท มีเอ็มวีเรียบร้อยแล้ว กระแสตอนนี้ก็โอเค ค่อนข้างโอเค แล้วก็อยากจะฝากแฟนๆ ไว้ด้วยกับอัลบั้มนี้ ซึ่งเป็นอัลบั้มเต็ม เพราะว่าตอนนี้ก็มีเอ็มวีทั้งหมด 10 เพลงเต็ม”

ผลงานละคร...
“ตอนนี้ก็มีละครเรื่อง ‘หมัดเด็ดเสียงทอง’ เป็นละครซิทคอม ออกอากาศ
ทางช่อง 9 ตอนนี้จบซีซั่นแรกและซีซั่นที่ 2 ไปแล้ว แต่ก็จะมีซีซั่นต่อไปเป็น
ซีซั่นที่ 3 ครับ แล้วก็จะมีละครเข้ามาด้วย ตอนนี้ทางผู้ใหญ่กําลังคุยกันอยู่ในเรื่องของบทกับคาแรคเตอร์ คงจะเปิดกล้องประมาณต้นเดือนตุลาคม”

จากนักร้องถือไมค์ร้องเพลงแล้วต้องกลายมาเป็นนักแสดง...
“ความแตกต่างก็คือ จากนักร้องเราใช้การสื่ออารมณ์จากบทเพลง ณ เวลานั้น บนเวทีคอนเสิร์ต แต่ว่าการแสดงเราต้องสื่อหลายอารมณ์ มันก็จะมีความยากกว่าอยู่แล้ว ทั้งอารมณ์เศร้า อารมณ์สนุก อารมณ์อกหัก ทุกอย่างมันเยอะกว่า คือ ณ ตอนหนึ่งเราต้องเจอกับหลายๆ อารมณ์ เพราะฉะนั้นการแสดงจึงยากกว่า”

ติดใจงานแสดงหรือยัง...
“ติดใจครับ ติดใจมาก ยินดีแสดง ถ้าท่านผู้กํากับฯ ท่านใดสนใจผมยินดีไปรับใช้แน่นอนครับ คือเรื่องงานแสดงก็ต้องถือว่าเป็นโอกาสจากทางผู้ใหญ่ก็คือ ‘อาตี่-กริช ทอมมัส’ แล้วก็ผู้ใหญ่ทางแกรมมี่ทุกท่าน ก็คือให้โอกาสผมได้มาลองด้านการแสดง
กับละครซิทคอม ‘หมัดเด็ดเสียงทอง’ ก็ได้คุยกับผู้กํากับฯ ซึ่ง
ผู้กํากับบอกว่าไม่ยาก ก็เลยมีโอกาสได้แสดง แล้วคาแรคเตอร์ที่ได้รับตอนนั้นคือเป็นนักร้อง ซึ่งไม่หนีจากตัวเราเท่าไหร่ 
ก็เลยรับงานแสดง พอแสดงไปแสดงมาแล้วรู้สึกชอบ ก็เลยอยากจะลองแสดงในหลายๆ คาแรคเตอร์ บทนักเลงบ้าง บทผู้ร้ายบ้าง อะไรอย่างนี้ครับ ถ้ามีโอกาสแล้วทางผู้ใหญ่เห็นว่ามันสามารถพัฒนาไปได้ก็เลยให้ไปเรียนแอ็คติ้ง ตอนนี้ก็เรียนการแสดงที่ได้หลายรสชาติมากครับ”

ได้เป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว ชีวิตของเราเปลี่ยนไปไหม...
“เปลี่ยนแปลงครับ คือชีวิตส่วนตัวของเราจะหายไปเลย จากที่เราเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่ก็ไม่ได้เที่ยว ทําแต่งานอย่างเดียวเลย แม้ว่าเราไม่ได้เที่ยวก็จริง แต่เราทํางานตรงนี้เราก็สนุกกับงานแล้ว และเส้นทางนี้ก็สอนเราทั้งการดําเนินชีวิต การฝึกความอดทน การฝึกการรักตัวเองในหลายๆ ด้านด้วยกันในสิ่งดีๆ ฝึกการให้ การตอบแทนพระคุณพ่อแม่ ฝึกการเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ซึ่งผมคิดว่ามันให้อะไรกับตัวผมมาก ได้เจอสังคม ได้เจอคนเยอแยะมากมาย อีกทั้งยังมีรุ่นพี่ศิลปินที่เขามีการงานที่ดีเป็นตัวเอง เป็นไอดอลให้เรา”

ความฝันสูงสุด... 
“อยากทําอาชีพที่เราทําอยู่ตอนนี้ให้ประสบความสําเร็จ ให้คุณพ่อ
คุณแม่สบาย ตอบแทนพระคุณท่าน เท่านั้นผมก็คิดว่าโอเคแล้ว ตอบแทน
ที่พาเราไปตระเวนประกวดร้องเพลงตั้งแต่เรายังเด็กๆ ถึงตอนนี้เราก็อยากให้   คุณพ่อคุณแม่อยู่สบายๆ แล้วเราก็ไปร้องเพลงให้ฟังที่บ้าน แค่นี้ก็ถือว่ามีความสุขแล้ว”

เป็นนักร้องแล้ว เป็นนักแสดงแล้ว อยากจะเป็นอะไรอีก...
“ถ้าถึงจุดหนึ่งจริงๆ แล้วก็อยากทํางานเกี่ยวกับวงการบันเทิงนี่แหละครับ อยากเป็นผู้กํากับฯ อยากสร้างหนังเป็นของตัวเองสักเรื่องหนึ่ง ก็คงเป็นตรงนี้  แหละครับที่เป็นสิ่งที่อยากทําจริงๆ ก็คือการกํากับหนัง การสร้างหนัง อยากทําเกี่ยวกับภาพยนตร์เพลง อารมณ์เหมือนมนต์รักลูกทุ่ง เราจะได้ไม่ทิ้งเพลงไปด้วย และผมคิดว่าความถนัดหลายๆ ด้านเอามาผสมผสานแล้วก็พัฒนาไป เพราะทั้งที่เราเรียนมาและการที่เราได้ทํางานจริงๆ ก็เป็นประสบการณ์ตรงแล้วสําหรับความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นผู้กํากับฯ ตอนนี้ก็ขอทําตรงนี้ให้มันแข็งแรงก่อน ถ้าถึงจุดหนึ่งที่แข็งแรงแล้วผมก็คิดว่าน่าจะขยับขยายไปได้”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments