นํามารีเมคกี่ครั้งก็ไม่เคยทําให้แฟนๆ ละครผิดหวัง สําหรับละครเรื่อง “สุสานคนเป็น” เวอร์ชั่น 2014 ของค่ายกันตนา ที่กลายเป็นละครที่ได้รับการพูดถึงมากที่สุด
รวมทั้งเรตติ้งก็ไม่ทําให้ผิดหวัง เพราะเป็นละครที่รวมเอาเหล่าดารามากฝีมือไว้มากมาย ทั้ง ยุ้ย-จีรนันท์, เจมส์-เรืองศักดิ์,
จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ และ อ๊อฟ-ชนะพล ที่เชือดเฉือนบทกันแบบไม่มีใครยอมใคร รวมทั้งยังได้แจ้งเกิดนางเอกน้องใหม่ที่ชื่อ “แจม- ปาณิชดา แสงสุวรรณ” ที่รับบทเป็น “อุษา” หลานสาวแสนดีของ คุณน้าขา
เข้าวงการบันเทิง...
“แจมเข้าวงการมาจากการประกวดดรีมสตาร์ 2011 (การประกวดเพื่อหานักแสดงหน้าใหม่ของค่ายสปีดวัน) เข้ารอบมาเรื่อยๆ แต่ว่าไม่ได้รางวัล จนผู้ใหญ่เขาเห็นความสามารถของเรา เลยพาไปแคสต์ที่ช่อง 7 พอเข้าไปแคสต์ที่ช่อง 7 ก็ได้เล่นละครเรื่อง ‘สุสานคนเป็น’ เลยค่ะ”
ความรู้สึกที่ได้เล่นละครครั้งแรก...
“พอรู้ว่าได้เล่นสุสานคนเป็น รู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ ตื่นเต้นมาก เพราะไม่คิดว่าเป็นเราที่ได้รับโอกาสให้เล่นเรื่องนี้ เพราะมีแต่ นักแสดงที่มากด้วยฝีมือ อย่างพี่ยุ้ย (ยุ้ย-จีรนันท์), พี่จั่น (จั๊กจั่น- อคัมย์สิริ), พี่เจมส์ (เจมส์-เรืองศักดิ์), พี่อ๊อฟ (อ๊อฟ-ชนะพล) ส่วนแจมก็เป็นเด็กใหม่ ได้เล่นเรื่องแรกแล้วต้องเล่นกับนักแสดงเก่งๆ เราก็ดีใจมากค่ะ”
มีการเตรียมตัวยังไงบ้างกับละครเรื่องนี้...
“มีการเรียนแอ็คติ้งเพิ่มค่ะ แต่ว่าก่อนหน้านี้แจมก็เคยเรียนแอ็คติ้งมาบ้างแล้ว แต่พอเราต้องมาเจอกับพี่ๆ ที่เขามีฝีมือ เราก็ต้องทําการบ้านมากยิ่งขึ้น แต่ก็ได้คําแนะนําด้านการแสดงจาก พี่ยุ้ยด้วยเวลาอยู่ในกอง เพราะพี่ยุ้ยเขาจะคอยสอนเรื่องการแสดง และก็ให้คําแนะนําในเรื่องของมุมกล้อง เวลาเข้าฉากเขาก็จะช่วยแจมตลอดค่ะ”
เกร็งไหมเวลาเข้าฉากกับดาราระดับฝีมือ...
“อย่างที่บอกว่าพวกพี่ๆ เขาเป็นนักแสดงที่เก่ง แล้วแจมเป็นน้องใหม่คนเดียว ก็มีเกร็งและก็ตื่นเต้นค่ะ”
ฉากดราม่าค่อนข้างเยอะ ทําอารมณ์ยังไง...
ในถานะที่เป็นน้องใหม่ เวลาเข้าฉากร้องไห้ พอนับ 5 4 3 2 1 มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะร้องไห้เลย แต่ว่าแจมจะใช้วิธีการสัมผัสพี่ยุ้ย เปรียบพี่ยุ้ยเป็นเหมือนคุณแม่เราจริงๆ เพราะในเรื่องพี่ยุ้ยเล่นเป็นคุณน้า และเราก็รักเขามาก แจมก็เลยจะใช้วิธีการสัมผัสการกอดจากเขา พอกอดก็จะร้องไห้เลย เลยเอาเทคนิคนี้มาใช้ค่ะ”
ผลตอบรับจากละครเป็นไงบ้าง...
“สําหรับแจม มองว่าผลตอบรับค่อนข้างดีนะคะ เรตติ้งก็สูง อย่างตอนนี้ไม่มีใครเรียกชื่อตัวเองแล้ว มีแต่คนเรียกว่า ‘อุษา’ แจมก็ดีใจที่ผลงานที่เราทํามาได้รับผลตอบรับที่ดี เพราะแจมตั้งใจทํางานชิ้นนี้มาก เนื่องจากเป็นละครเรื่องแรก ถ้าสมมติว่ากระแสตอบรับออกมาไม่ดี เราเองก็คงรู้สึกแย่ไปด้วย แต่พอผลตอบรับดีก็ทําให้เรารู้สึกดีไปด้วย ต้องขอบคุณผู้ใหญ่หลายๆ คนที่ให้โอกาสค่ะ”
ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่าเราเล่นแข็ง...
“ที่เขาบอกว่าแจมเล่นแข็งช่วงแรกๆ ก็ยอมรับว่าจริงค่ะ เพราะเป็นละครเรื่องแรก ซึ่งแจมไม่เคยสัมผัสชีวิตการแสดงในกองถ่ายมาก่อน ไม่เคยผ่านกล้องเลย พอมาในกองก็รู้สึกกดดัน เครียด และก็เกร็ง เลยทําให้เราเล่นออกมาแข็งๆ แต่หลังจากที่เล่นไปสักพักนึงก็จะเห็นว่าเรามีพัฒนาที่ดีขึ้น
ก็รู้สึกดีใจที่ตัวเองทําได้ดีขึ้น แจมก็จะพัฒนาไปเรื่อยๆ ค่ะ”
ตอนนี้มีคนชมมากขึ้น...
“รู้สึกดีใจมากที่มีคนชม เพราะตอนที่ละครยังไม่ออนเราก็เครียดและกดดัน กลัวว่า จะทําออกมาไม่ดี กลัวโดนว่า แต่พอผลออกมา สรุปว่าเราทําได้ดี และดีขึ้นเรื่อยๆ คนดูก็เห็นถึงการพัฒนาด้านการแสดงของเรา ก็ดีใจค่ะ เพราะเราทําดีที่สุดแล้ว”
คาดหวังมากแค่ไหนกับละครเรื่องแรก...
“คาดหวังมากค่ะ เพราะว่าเป็นละครเรื่องแรก ถ้าเล่นดี ตัวเราก็จะดีขึ้น แต่ถ้าเล่นไม่ดี ตัวเราเองก็อาจจะดับไปเลยก็ได้ แต่พอละครมันออนไปแล้ว ผลมันออกมาดี สิ่งที่เราทําไว้มันก็ส่งผลดีกับเรา รวมถึงพวกพี่ๆ ที่เขาช่วยเราไว้ ก็ทําให้เราไม่โดนด่าเยอะค่ะ”
ผลงานเรื่องต่อไป...
“ตอนนี้ก็มีละครเรื่อง ‘หลานสาวนิรนาม’ ของค่าย 59 ออนแอร์ เป็นละครเย็นค่ะ เรื่องนี้ก็รับบทเป็น ‘นุสรา’ เป็นผู้หญิงเรียบร้อยเหมือนเดิม เป็นคาแรคเตอร์เดิม แต่ว่าเรื่องนี้เล่นเป็น
คู่รอง ด้วยความที่คาแรคเตอร์จะไม่ต่างกับบท ‘อุษา’ เท่าไหร่
เลยทําให้ง่ายต่อการแสดง แต่จริงๆ แล้วทั้งบท ‘อุษา’ และบท ‘นุสรา’ ไม่ตรงกับตัวแจมเลย เพราะว่าเราไม่ใช่คนที่เรียบร้อยจ๋าขนาดนั้น”
บทบาทที่เราอยากเล่นที่สุด...
“ก่อนเข้าวงการก็เคยคิดไว้ว่าอยากเล่นเป็นนางเอก แต่บทอื่นเราก็เล่นได้ ถ้าผู้ใหญ่ให้โอกาส ไม่ว่าบทบาทเป็นแบบไหนแจมก็เล่นได้หมดค่ะ ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นนางเอก เป็นตัวร้าย หรือบทแบบไหนก็เล่นได้หมดค่ะ อย่างบทที่อยากเล่นมากๆ เลยคือบทเจ้าน้ำตา แต่ว่าสู้คน”
วางแพลนในเรื่องของการแสดงยังไงบ้าง...
“ตอนนี้ก็ยังไม่ได้วางอะไรมาก ขอแค่ให้ละครที่เราเล่นอยู่เรตติ้งดีๆ และก็ขอให้มีงานต่อเนื่อง แค่ให้ตัวเองพัฒนาฝีมือให้
ดีที่สุด”
ก่อนหน้านี้เคยคิดไหมว่าอยากเป็นนักแสดง...
“ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดนะว่าอยากเป็นนักแสดง เพราะแจมมี
ไอดอลคือ พี่มะนาว-ศรศิลป์ เพราะว่าเขาอยู่จังหวัดเดียวกับแจม เรียนโรงเรียนเดียวกัน เรามีความรู้สึกว่า พี่เขายังเป็นนักแสดง
ได้เลย เราก็อยากเป็นบ้าง ก็เลยมาเรียนแอ็คติ้งที่สปีดวัน พอรู้
ว่าเขามีประกวดด้วยแจมเลยเข้าประกวด อย่างตอนนี้ก็ได้เจอพี่มะนาวบ่อยเลยค่ะ”
แฟนคลับเพิ่มมากขึ้นไหม...
“จากตอนแรกที่เราเป็นคนธรรมดา ไม่มีใครรู้จัก ตอนนี้ก็มีคนรู้จักมากขึ้น และก็เริ่มมีแฟนคลับ ก็รู้สึกดีใจ เพราะว่ามีกลุ่มคนที่มาสร้างแฟนเพจให้เรา เลยรู้สึกดีใจว่านี่แหละคือสิ่งที่เรา ได้กลับมา ก็เป็นอีกหนึ่งกําลังใจดีๆ สําหรับแจม”
อยากร่วมงานกับนักแสดงคนไหนเป็นพิเศษ...
“คนแรกได้ร่วมงานไปแล้วคือ พี่ยุ้ย-จีรนันท์ และอีกคนที่อยากร่วมงานด้วยมากๆ เลยคือ อาดาว-ดวงดาว จารุจินดา เพราะแจมชอบในเรื่องการแสดงของอาดาว อยากร่วมงานกับ อาดาว อยากให้อาดาวสอนการแสดงให้ เพราะแจมว่านักแสดงหลายๆ คนคงอยากร่วมงานกับอาดาว”
แรงบันดาลใจ...
“แรงบันดาลใจหรับแจมคือคุณพ่อคุณแม่ เวลาเหนื่อยก็จะนึกถึงท่าน เพราะคุณพ่อคุณแม่เขาเหนื่อยกว่าเรามาตั้งเยอะ
งานแค่นี้ทําไมเราจะทําไม่ได้ ก็จะมีคุณพ่อคุณแม่คอยเป็นกําลังใจให้ตลอด”
ต้นแบบในการใช้ชีวิต...
“ก็ไม่ไปไหนไกลเลยค่ะ คุณพ่อคุณแม่นี่แหละค่ะ เขาเป็นทุกอย่างจริงๆ เป็นต้นแบบในทุกๆ เรื่อง ทั้งด้านการใช้ชีวิตและการทํางาน”
ความรักเป็นไงบ้าง...
“ก็มีคนเข้ามาจีบบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครพิเศษ ยังไม่ได้โฟกัสเรื่องนั้น ตอนนี้เน้นเรื่องเรียนกับเรื่องงานก่อนดีกว่า เพราะแค่เรียนกับทํางานแจมก็ไม่ค่อยมีเวลาแล้วค่ะ”
