“ไต้ฝุ่น-กนกฉัตร มรรยาทอ่อน” หรือที่เรารู้จักมักคุ้นกันในชื่อ “ไต้ฝุ่น เคพีเอ็น” เจ้าของตําแหน่งรองนักร้องยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย อันดับ 1 จากเวที “KPN Award 2011” นอกจากเสียงดี เล่นดนตรีได้แล้ว เรื่องความหล่อเด้งของ “ไต้ฝุ่น” ก็ทําให้ได้รับโอกาสในการแสดงเป็นครั้งแรกกับหนังดังสุดสัปดาห์ “สายสืบบอยแบนด์” ทางช่อง 3 ต่อด้วยละครเวทีเรื่อง “เธอเท่านั้น สุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัล” ทําให้ความสามารถไปเข้าตาผู้จัดฯ ค่าย บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น ชวนมาเข้าสังกัด ให้เล่นละครเรื่อง “มาดามดัน” และเรื่อง “ดาวเคียงเดือน” และกลายเป็นการแจ้งเกิดอย่างแรงในบทของ “อาร์ตี้” แถมยังมีละครต่อเนื่องที่กําลังออกอากาศ เรื่อง “ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู” ที่พลิกบทบาทมารับบทร้ายเป็น ครั้งแรก
จากนักร้องมาเป็นนักแสดง...
“สําหรับงานละครก็เริ่มจากที่ได้ไปเล่นบทรับเชิญในเรื่อง ‘มาดามดัน’ รับบทเป็นซุป’ตาร์ เป็นเด็กของพี่ชาย-ชาตโยดม หลังจากนั้นก็ได้เล่นซิทคอมเรื่อง ‘รักจัดเต็ม’ ทางช่อง 3 เล่นคู่กับ ‘พี่จอย-ชลธิชา’ แล้วก็เล่นยาวมาจนถึงทุกวันนี้ครับ จากนั้นก็มีโอกาสได้ไปเล่นละครเวทีของ
สุนทราภรณ์อีกครั้ง ‘เพลงรักของเธอ สุนทราภรณ์ เดอะ มิวสิคัล’ ตอนนี้ได้เป็นพระเอกเลย เป็นเรื่อง เกี่ยวกับลีลาศ ซึ่งเป็นทางของเรา แล้วก็มาเล่นละครเรื่อง ‘ดาวเคียงเดือน’ ต่อเลย”
ความรู้สึกกับความสําเร็จ...
“ดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ รู้สึกภูมิใจที่ได้อยู่ในละครเรื่องนี้ ชอบมากๆ ได้อยู่ท่ามกลางทีมงานที่มีคุณภาพ เพราะว่าจริงๆ เรายังเป็นเด็กเพียวๆ เลย เด็กบ้านนอกก็ว่าได้ ยังทําอะไรไม่ค่อย เป็น แต่ว่าได้รับโอกาส รู้สึกเหมือนประสบความสําเร็จในก้าวนึงเลยครับ ละครต่อจาก ‘ดาวเกี้ยวเดือน’ ก็เป็นเรื่อง ‘ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู’ เรื่องนี้รับบทเป็นตัวร้ายเลยครับ ร้ายแบบเลวเลย เล่นเป็นลูกพี่ธัญญ่า (ธัญญาเรศ รามณรงค์) กับพี่เจมส์ (เจมส์-เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์) ซึ่งเป็นบทบาทที่ท้าทายผมมากเลยครับ เพราะเล่นเป็นตัวร้ายมาก ร้ายจนกลายเป็นเลวไปเลย ผลยังไม่รู้จะออกมาเป็นยังไง แต่ผมก็พยายามเต็มที่แล้วนะครับ ฝากติดตามชมด้วยนะครับ”
ผลงานเพลง...
“งานเพลงมีออกมา 2 เพลง ชื่อเพลง ‘ทุกนาที’ เป็น Acoustic Version แล้วก็เพลง ‘คนน่ารัก หักอกได้’ เป็นเพลงป๊อปแดนซ์ สนุกๆ ก็อยากให้ลองฟังกันดูครับ บางคนก็บอกว่าน่ารักดี ได้เห็นเอ็มวีแล้วก็บอกว่าน่ารัก แฟนคลับชอบมาก เพราะว่ามันมีกิจกรรมที่ให้คนฟังส่งคลิปเต้นเพลงผมมาเพื่อที่จะร่วมอยู่ในเอ็มวีด้วยกัน ก็ได้รับการตอบรับดี คนก็เต้นโคฟเวอร์เพลงส่งเข้ามาร่วมในเอ็มวีเยอะ”
ได้เข้าวงการบันเทิง...
“ดีใจมากครับ เมื่อก่อนขี่มอเตอร์ไซค์อยู่บ้านไปวันๆ ที่เชียงใหม่ ก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาส ได้มาไกลถึงขนาดนี้ ส่วนอนาคตในวงการบันเทิง ผมไม่ได้มองว่าผมจะต้องดังขนาดไหน แต่อยากอยู่นานๆ อยากทํางาน ผมรู้ตัวแล้วว่ารักงานทางด้านนี้มาก รักงานด้านการแสดง รักงานด้านดนตรี ผมรักมาก และรู้สึกว่าผมอยู่กับสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งวัน ผมขอแค่ได้อยู่ในวงการนานๆ ผู้ใหญ่เมตตาอย่างนี้ ผมก็ดีใจแล้วครับ ก็ไปเรื่อยๆ ผมว่าสิ่งสําคัญมันอยู่ที่ตัวเราเองนะว่าจะอยู่ได้นานหรือไม่นาน เรื่องการวางตัว เรื่องกิริยามารยาท เรื่องฝีมือที่เราจะต้องพัฒนาไม่หยุดนิ่ง ก็พยายาม ท่องอยู่ตลอดว่า ถ้าเรามีความฝันแล้วเนี่ย มีได้ ตะเกียกตะกายได้ แต่อย่าไปเหยียบใคร ทําในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด ในเมื่อเราได้โอกาสมาแล้วก็ทําให้ดีที่สุด”
ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้เข้าวงการ...
“ก่อนนี้ผมมองวงการบันเทิงว่าเป็นอะไรที่ผมไม่สามารถแตะต้องได้ ผมมองดาราเป็นเทพเจ้า เลยนะ เวลาที่เขามาในห้างมาจัดงานอะไรผมก็จะตามไปดู ไปขอถ่ายรูปด้วย ก็ไม่คิดว่าวันนึงเราจะได้มีโอกาสมารู้จักเขา อย่าง พี่เกริก ชิลเลอร์ เมื่อก่อนผมชอบพี่เขามาก ชอบดูละครเขา แต่แล้ว
วันหนึ่งผมได้มีโอกาสมาทํางานกับเขา ได้มารู้จักเขา ผมยังงงตัวเองอยู่เลยครับ เพราะไม่เคยคิด มาก่อนเลย แล้วผมก็โชคดีอีกอย่างหนึ่ง คือผม
ได้มาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ได้มาอยู่ในเคพีเอ็น ได้มาอยู่ในบรอดคาซท์ฯ ซึ่งมีแต่คนเอ็นดู มีแต่คนนิสัยดี ช่วยแนะนําอะไรต่างๆ ผมเลยรู้สึกดี รู้สึกอบอุ่น”
หลังจากเข้าวงการบันเทิง...
“ผมว่ามันต้องฉลาดเลือกที่จะอยู่ ฉลาดเลือก ที่จะทําตัวยังไง อะไรควร อะไรไม่ควร เพราะที่ยืนมันมีอยู่นิดเดียว แต่คนอยากเข้ามาเยอะมาก ถ้ายืนไม่มั่นคงก็หลุดไปเลย ผมว่าหลักๆ มันอยู่ที่การทําตัวของตัวเองมากกว่า ก็มีตัวอย่างให้ดูเยอะแยะ อยู่ที่เราจะเลือกแบบไหนมากกว่า”
ฝากผลงาน...
“ขอฝากผลงานด้วยนะครับ ละครที่กําลังออกอากาศอยู่ตอนนี้ เรื่อง ‘ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู’ ผมรับบทเป็นตัวร้าย เป็นคาแรคเตอร์ที่คนดู ไม่เคยเห็นแน่นอน ละครกําลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อีกเรื่องนึงเป็นซิทคอม ‘รักจัดเต็ม’ คาแรคเตอร์เป็นหนุ่มครีเอทีฟที่เชื่อมั่นในความรัก ซิทคอมเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่หลายๆ คู่ต้องเจอ แล้วจะแก้ปัญหาอย่างไร ผลตอบรับก็ดีครับ เพราะในละครจะมีข้อคิดด้วย ได้มุกตลกด้วย ส่วนเรื่อง ‘พลับพลึงสีชมพู’ เป็นแนวคอมเมดี้ เป็นสีสันของเรื่อง ผมเล่นคู่กับพี่กุ๊บกิ๊บ ซึ่งผมก็ตั้งใจทุกเรื่องนะครับ อยากให้ผลงานออกมาดี อยากฝากให้ช่วยติดตามกันนะครับ”