“บิ๊ก-กฤษฎา สุภาพพร้อม” หนุ่มหล่อที่
เข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวด “ตามล่า หาอันธพาล” ของสหมงคลฟิล์ม และบาแรมยู และได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง “อันธพาล” โดยรับบท “เปี๊ยก”
จากนั้นจึงได้เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 และมีผลงานละครเรื่องแรก คือ “นางแบบโคกกระโดน” ก่อนจะแจ้งเกิดกับบทร้ายมาแรงจากเรื่อง “พรมแดนหัวใจ” และผลงานที่เพิ่งจะลาจอไปคือเรื่อง “หนีก็ล่า ซ่าก็รัก”
แนะนําตัวเอง...
“ชื่อ บิ๊ก-กฤษฎา สุภาพพร้อม ครับ อายุ 24 ปี เรียนที่หอการค้า ปีสุดท้าย คณะบริหารการตลาดครับ”
ทําไมเลือกเรียนบริหาร...
“จริงๆ แล้วผมอยากเรียนนิเทศ แต่คุณแม่อยากให้เรียนบริหาร เพราะว่าพอจบมาแล้วมันน่าจะกว้างกว่าอะไรอย่างนี้ ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร เรียนก็ได้ ถามว่าชอบไหม ก็ไม่ถือว่าชอบนะ (หัวเราะ) เพราะว่าจริงๆ แล้วเป็นคนที่ไม่ชอบเลย แล้วคณะนี้คือต้องเจอทุกเทอมเลย ทั้งบัญชี ทั้งอะไร เจอหมด หนักนิดนึง แต่ก็พอไหว คุณพ่อคุณแม่ก็ให้กําลังใจ ก็ถามว่าเหนื่อยไหม เพราะว่าช่วงนี้เราต้องทํางานด้วย เขาก็จะเข้าใจเรามากขึ้น เพราะบางทีเราอาจจะแบบว่าผลการเรียนออกมาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่อะไรขนาดนั้น เขาก็เห็นใจว่ามันยากด้วย แล้วอีกอย่างหนึ่งคือเราก็ต้องเรียนด้วยทํางานด้วย”
ผลงานการแสดง...
“ที่เพิ่งจบไปก็มีเรื่อง ‘หนีก็ล่า ซ่าก็รัก’ และที่กําลังถ่ายทําอยู่คือเรื่อง ‘หลานสาวนิรนาม’ และ‘ คาดเชือก’ ครับ”
แบ่งเวลาในการเรียนและทํางานอย่างไร...
“คือจริงๆ แล้วผมโชคดีตรงที่ว่า ทางมหาวิทยาลัยเขาค่อนข้างที่จะสนับสนุนเกี่ยวกับนักแสดงหรือว่านักศึกษาที่
ทํางานด้วย คืออาจารย์ทุกท่านก็น่ารัก คือเราก็ขอความกรุณาท่านว่าต้องทํางานด้วย ถ้าต้องทํางานก็ขออนุญาตไม่เข้าเรียน คือขอให้เรามีเวลาไปเข้าเรียนบ้าง ถือถ้าเข้าเรียนตลอดมันก็เป็นผลดีกับเรา”
วางแผนในวงการไว้อย่างไร...
“คือตอนนี้โอกาสเข้ามาแล้วเราก็พยายามคว้าเอาไว้และทําให้มันดีที่สุด เพราะเป็นอาชีพที่เราชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว ในเรื่องการแสดง และก็โชคดีที่ได้ก้าวเข้ามาทําจริงๆ เราก็คิดว่าจะทําให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องจะทําเป็นอาชีพในอนาคตก็เป็นเรื่องที่ยังไม่แน่นอน เพียงแต่ตอนนี้เรามีโอกาสได้ทําก็ทําให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องของอนาคตค่อยว่ากันอีกที”
เข้าวงการได้อย่างไร...
“ก่อนหน้าที่จะได้เล่นละคร ผมเคยถ่ายงานโฆษณา ตอนอยู่ชั้นม.5-ม.6 ก็ไปแคสท์โฆษณาสนุกๆ เพราะเราชอบเรื่องการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ก็คิดว่าอยากจะทําสนุกๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ แต่ก็ได้มาเรื่อยๆ แล้วก็มีโอกาสได้มาเล่นหนังเรื่อง
‘อันธพาล’ แล้วก็ได้มาอยู่กับช่อง 7 ก็เซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 เป็นเวลา 5 ปี”
ผลงานเรื่องล่าสุด ‘หนีก็ล่า ซ่าก็รัก’...
“เรื่องนี้รับบทเป็นตัวร้าย คาแรคเตอร์ของตัวละครตัวนี้เป็นดาราชื่อดัง จบมาจากต่างประเทศ แล้วก็พยายามเกาะนางเอก อาศัยที่นางเอกเป็นข่าวเราก็เกาะกระแสเขา ก็เหมือนกับว่าไม่จริงใจ หลอกเอาผลประโยชน์จากคนอื่น”
ถูกโฉลกกับบทร้าย...
“ก็เล่นบทร้ายมาหลายเรื่อง ทั้ง หนีก็ล่า ซ่าก็รัก เรื่อง พรมแดนหัวใจ เรื่อง อาญารัก ก็ร้ายนิดๆ ก็คือเริ่มเล่นบทร้ายจากเรื่องอาญารัก แล้วก็มาเล่นร้ายเต็มตัวจากเรื่อง พรมแดนหัวใจ แล้วก็มาเรื่อง หนีก็ล่า ซ่าก็รัก เล่นบทร้ายก็สนุกครับ แต่ก็ต้องใช้พลังเยอะ เพราะว่ามันจะต้องคิดและจะต้องทําให้น่าเชื่อว่ามันร้าย อย่างเรื่องพรมแดนหัวใจ ก็จะร้ายแบบฉลาดๆ คือคิดอยู่ตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วคือเราก็ต้องอ่านบท แล้วก็ตีความให้เข้าใจว่าตัวละครตัวนี้มันคิดอะไรอยู่ ทําไมถึงเป็นอย่างนี้ เพราะอะไร”
ชื่นชอบอะไรในวงการ...
“ผมชอบหลายๆ อย่าง ผมรู้สึกว่าวงการนี้ให้โอกาสผมหลายๆ อย่าง ได้ทําอะไรที่ตัวเองไม่เคยทํา ได้เป็นอะไรที่
ไม่เคยเป็น เช่น เป็นลูกนักการเมือง (หัวเราะ) เป็นโจร อะไรอย่างนี้ รวมทั้งได้ออกไปเที่ยว ไปต่างจังหวัด ไปทํากิจกรรมอะไรที่มันแปลกๆ ก็สนุกดีนะ”
ทางบ้านว่ายังไงบ้าง....
“คุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุน แล้วก็ดูท่านมีความสุขดี ที่ได้เห็นลูกชายได้ทํางานที่ตัวเองชอบ แต่จะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า อย่างนอนดึกตื่นเช้า นอนน้อย ขับรถเองด้วย คุณพ่อ คุณแม่ก็จะห่วงเรื่องพวกนี้มากกว่า”
อยากลองทําอะไรอย่างอื่นนอกจากเล่นละคร...
“จริงๆ ผมอยากทําธุรกิจส่วนตัว ก็กําลังหาอยู่ว่าจะทําอะไรดี คงต้องเริ่มจากอะไรที่มันเล็กๆ ก่อน เพราะถ้าเจ็บตัว จะได้เจ็บเบาๆ ก็ค่อยๆ คิดไป ผมเชื่อว่าวันนึงเราก็จะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าอะไรเหมาะ อันไหนไม่เหมาะ ก็เหมือนกับว่าค่อยๆ หาไปเรื่อยๆ สักวันก็ต้องเจอ ผมเชื่ออย่างนั้น”
ไลฟ์สไตล์ของผู้ชายชื่อ ‘บิ๊ก’...
“ผมเป็นคนสนุก เฮฮา แล้วก็เรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่น ยิ่งถ้าเป็นเพื่อนกันด้วย ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะสนุกเวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ”
ไอดอลในดวงใจ...
“พี่ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผมชอบพี่ติ๊กตั้งแต่เขาเล่นหนัง ‘2499 อันธพาลครองเมือง’ แล้วก็ติดตามละครเขามาเรื่อยๆ เรื่องล่าสุดนี้ผมก็ยังดูละครเขาอยู่นะ พี่ติ๊กเขาเป็นผู้ชายที่ผมเชื่อว่า
ผู้ชายหลายๆ คนอยากจะเหมือนเขา”
ก่อนเข้ามาในวงการบันเทิง มองวงการนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง...
“ตอนแรกก็ไม่ได้มองอะไรมาก แต่คิดว่าไม่ว่าจะเป็นยังไงคนก็อยากที่จะเข้ามาอยู่ในวงการ พอเราได้ก้าวเข้ามาอยู่จริงๆ แล้วมันก็เป็นสังคมอีกสังคมนึงที่..อย่างอยู่ช่อง 7 นี่เราก็จะรักกัน อยู่กันอย่างพี่น้อง ไปไหนมาไหนเจอกัน เจอพี่น้องร่วมช่อง ไปเตะบอล หรือทํากิจกรรมด้วยกัน ผมว่าวงการบันเทิงก็เป็นสังคมที่น่ารัก”
คติในการดําเนินชีวิต...
“ก็เหมือนคนทั่วไปนะ ที่บอกว่าทําวันนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งมันก็คือสิ่งที่ถูกต้อง คือมันมีหลายครั้งที่ทําให้เรารู้สึกว่า ทําไมวันนั้นเราไม่ทําอย่างนี้นะ พออายุมากขึ้น เริ่มโตขึ้น มันจะคิดได้ด้วยตัวของมันเอง เด็กๆ เราก็เคยดื้อเคยซนมาก่อน พอเริ่มโต เริ่มมีอะไรที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้น มันก็เปลี่ยนแปลงตัวเอง”
คาดหวังกับตรงนี้มากน้อยแค่ไหน...
“ถามว่าคาดหวังไหม คาดหวัง แต่ถ้าถามว่า คาดหวังไว้เยอะไหม ผมไม่ได้คาดหวังไว้เยอะ เพราะถ้าเราคาดหวังเยอะ แล้วมันไม่เป็นอย่างที่เราหวังเราจะเจ็บ เพราะฉะนั้นหวังให้มันเป็นกลางๆ หวังสิ่งที่มันพอจะเป็นไปได้ พอมันเป็นไปได้มันก็มีความสุข แต่ถ้าหากเราคาดหวังมากเกินไปแล้วมันไม่ได้อย่างที่หวัง เราก็จะแย่”
ฝากผลงาน...
“ฝากติดตามผลงานเรื่องต่อไป ‘หลานสาวนิรนาม’ และ
‘คาดเชือก’ ก็จะเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่น่าติดตาม ทุกคนตั้งใจ
ทํางานกันมาก ฝากติดตามด้วยครับ คงจะได้ดูกันเร็วๆ นี้”