"ไอซ์" แฟนๆจับตาขึ้นแท่นนางเอกละครรีเมค

"ไอซ์" แฟนๆจับตาขึ้นแท่นนางเอกละครรีเมค

1

เป็นเจ้าของตําแหน่ง มิสมอเตอร์โชว์ 2010 “ไอซ์-
อามีนา กูล” อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทําให้ได้เข้าวงการบันเทิง มีผลงานภาพยนตร์และละคร ล่าสุดกับการขึ้นแท่น เป็นนางเอกละครรีเมคถึง 2 เรื่อง คือ ละคร
โรแมนติก-คอมเมดี้ “พลับพลึงสีชมพู” 
ที่ “ไอซ์-อามีนา” ประกบคู่กับพระเอก “แอนดริว เกร้กสัน” และเป็น 1 ในพระ-นาง 3 คู่ ในละครรีเมคเรื่อง “สามใบไม่เถา” ที่ประกอบด้วย 
3 คู่ คือ “อเล็กซ์ เรนเดลล์-ณิชา ณัฏฐณิชา, สมาร์ท กฤษฎา-พรีม รณิดา” และ “หลุยส์ สก๊อตต์-ไอซ์ อามีนา” 

การศึกษา...
“ตอนนี้เรียนอยู่ ม.กรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ ปี 2 ที่เลือกเรียนนิเทศเพราะว่าเราชอบปฏิบัติ ได้เรียนไปด้วยได้ทําอะไรไปด้วย แล้วรู้สึกว่าคณะนิเทศมันตรงกับสายงานของเรา ซึ่งเราทํางานในวงการบันเทิงด้วย ก็ทําให้รู้สึกว่าการเรียนกับการทํางานมันแฮปปี้ไปด้วยกัน”

เข้าวงการบันเทิง...
“ถ้าตั้งแต่แรกเริ่มเลยก็คือมาจากการประกวด ประกวดมิสทีน ประกวดมิสมอเตอร์โชว์ แล้วบังเอิญ
ได้ที่ 1 ก็เลยเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในการได้ถ่ายนิตยสาร ได้ถ่ายเอ็มวี แล้วก็มีแสดงภาพยนตร์กับพี่โอ้ (มาริโอ้ เมาเร่อ) เรื่องรักสุดทีน แล้วก็หยุดงานในวงการไปพักนึง เพราะว่าตอนนั้นเราอยากจะสอบเข้าเรียนที่จุฬาฯ มาก ก็เลยเตรียมเอ็นฯ เข้าจุฬาฯ แต่พอมาได้งานละครมันก็เลยทําให้เราเห็นว่าทํางานแล้วสนุก อยากทํางาน และก็คิดว่าถ้าเรียนที่จุฬาฯ จะหนักไปหรือเปล่า   สําหรับตัวเรา แต่ถึงแม้เข้ามาในวงการบันเทิงเราก็ไม่ได้ทิ้งการเรียน ก็อยากทําในสิ่งที่รัก ที่ทําแล้วมีความสุข    ที่มันไปด้วยกันได้น่ะค่ะ” 

ผลงานละครเรื่องแรก...
“ตะวันฉายในม่านเมฆ ค่ะ ตอนเล่นละครเรื่องแรกก็ตื่นเต้นค่ะ รู้สึกว่ามันต่างจากหนัง ก็ชอบการทํางานละคร เพราะรู้สึกว่าเหมือนกับเป็นการทํางานที่เหมือนครอบครัวมากกว่า ตื่นเช้ามากินข้าวที่กอง เหมือนกับมากินข้าวกับพี่ๆ น้องๆ ก็เป็นอีกอารมณ์หนึ่งที่มาทํางานแต่ไม่ได้เหมือนกับมาทํางาน มันมีความสุข เหมือนการมาเจอพี่น้องมากกว่า แต่ถ้าเป็นงานแสดงละครเรื่องแรกก็ต้องถือว่ายากนะสําหรับตัวเรา เพราะเราไม่ได้เรียน  แอ็คติ้งมา คือก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีการปรับไปตามบท ก็ได้พี่ๆ คอยแนะนํา แต่หลังๆ ก็ได้ไปเรียนแอ็คติ้งเพิ่มเติม แล้วก็พยายามทําการบ้านเยอะๆ พยายามดู
ในสิ่งที่พี่ๆ เขาเล่น ดูแอ็คติ้งต่างๆ หน้ามอนิเตอร์ แล้ว
เราก็เอามาปรับใช้กับตัวเอง”

ตอนนี้มีงานละคร 2 เรื่อง ‘สามใบไม่เถา’ และเรื่อง ‘พลับพลึงสีชมพู’ กับการเป็นนางเอก  เต็มตัวแล้ว..
“ดีใจและก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส แล้วก็สัญญาว่าจะพัฒนาฝีมือตัวเองไปเรื่อยๆ จะพยายามทําการบ้านเยอะๆ เพราะว่าละครทั้ง 2 เรื่องคาแรคเตอร์
ไม่เหมือนกันเลย เราก็ต้องแยกแยะให้ได้ ก็ต้องพยายามให้มากขึ้น คาแรคเตอร์เรื่อง ‘สามใบไม่เถา’ ก็จะออกห้าวๆ แก่นๆ เป็นนักมวย เป็นเจ้าของฟิตเนส อารมณ์แบบเท่ๆ หน่อย ส่วนเรื่อง ‘พลับพลึงสีชมพู’ จะเป็นคนมั่นใจ เป็นสาวเปรี้ยว สาวหวาน เป็นคนที่มองโลกในแง่บวก จะออกแนวดื้อหน่อย ไม่ค่อยเชื่อฟังใคร แต่จะมองโลกในแง่ดี ก็รู้สึกว่าบทบาทที่ได้รับสนุกทั้ง 2 แบบเลย เพราะรู้สึกว่าท้าทาย ได้ทําอะไรหลายอย่าง ได้ทําในสิ่งที่เราไม่เคยทํา” 

กดดันไหมที่ต้องมาเล่นละครรีเมคทั้ง 2 เรื่อง...
“กดดันค่ะ แต่ก็ไม่ได้กลัวว่าใครจะเอาไปเปรียบเทียบอะไรกับเวอร์ชั่นเก่าๆ แต่ว่ากดดันตรงที่เราต้องเล่นกับรุ่นพี่รุ่นใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลย เราก็ต้องพยายามทําการบ้านเยอะๆ เพื่อไม่ให้พวกพี่ๆ เขาเสียเวลากับเรา”

ตอนนี้ถ่ายละคร 2 เรื่อง แสดงว่าทํางาน 7 วัน แล้วแบ่งเวลายังไงกับการเรียนและการทํางาน...
“วันที่ต้องไปเรียนก็จะปรึกษากับทางกองค่ะว่ามี   
ไปเรียนด้วย 1-2 วัน แต่เราก็ไปคุยกับทางมหาวิทยาลัย แล้ว และก็มีการไปสอบนอกรอบด้วย วันที่เราว่างก็ไปเก็บสอบให้หมด เราเองก็ไม่อยากดรอปด้วย อยากเรียนให้ผ่านไปทุกตัว ไม่อยากจะเสียอะไรไปทั้งการทํางานและการเรียน อยากให้เดินไปด้วยกันได้ทั้งสองอย่าง” 

มีไอดอลในวงการบันเทิงไหม...
“พี่ชมพู่ (ชมพู่-อารยา) ค่ะ ชอบพี่ชมพู่มานานมากแล้ว ชอบการแต่งตัว ชอบการให้สัมภาษณ์ ชอบทุกอย่างที่เป็นตัวเขา รู้สึกว่าเขาน่ารัก แล้วก็สวยมาก”

มุมมองที่มองวงการบันเทิงไว้ก่อนที่จะเข้ามาในวงการบันเทิง...
“ก็มองเหมือนคนทั่วไป ที่มองไว้ว่าวงการบันเทิงคงจะสวยงาม เดินไปไหนก็มีแต่คนชื่นชม ขอถ่ายรูป คงจะเป็นอะไรที่ดูสวยๆ ดูดี แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอก เพราะว่าทุกคนก็คือคนธรรมดาเหมือนกันหมด แค่เรามีหน้าที่ต่างกันเท่านั้นเอง นักแสดงก็มีหน้าที่แสดง แล้วก็ทําให้คนที่เขาชอบเราประทับใจในตัวเรา คือเราไม่ได้พิเศษอะไรกว่าคนทั่วไปเลย มันต่างกันแค่ที่อาชีพ เพราะบางคนจะชอบคิดว่าดารานักแสดงกับคนธรรมดามันต่างกัน แต่ว่าในมุมมองของเรานักแสดงก็คือคนธรรมดา แต่เรามีหน้าที่แสดง เราแค่ทําหน้าที่ต่างกันเท่านั้นเอง” 

นิสัยส่วนตัว...
“เป็นคนที่ซุ่มซ่ามมาก ซุ่มซ่ามแบบเสมอต้นเสมอปลาย แล้วก็บ้าจี้มาก แต่ชอบทํางานฝีมือ ชอบแกะสลัก ชอบอ่านหนังสือ เป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะมาก พวกหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา หนังสือที่เกี่ยวกับการเรียนรู้ชีวิตคน กิจกรรมยามว่างก็คือชอบอ่านหนังสือ แล้วก็ไปทําบุญ ไปบริจาคโลงศพ ไปปล่อยปลา คือทําทุกอย่างที่คิดว่าเราทําแล้วสบายใจ ถ้าเราทําให้คนที่เขาลําบาก เขาเดือดร้อน แล้วเราทําให้เขายิ้มได้เราก็มีความสุขแล้ว ไม่จําเป็นต้องทํามากมายอะไร แค่เราอยากทําให้คนอื่นมีความสุขแล้วเราก็มีความสุข”

แรงบันดาลใจในการทํางาน...
“คือหนูอยากดูแลพ่อแม่ได้ อยากดูแลครอบครัว แล้วก็อยากอยู่ได้ด้วยลําแข้งของตัวเอง อยากเข้มแข็ง อยากพัฒนาตัวเอง ยิ่งสิ่งที่คนอื่นคิดว่าเราทํา   ไม่ได้ ก็ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เราพัฒนาตัวเองขึ้นไปอีก”

คติประจําใจ...
“ทําทุกวันให้ดีที่สุดค่ะ ไม่ใช่แค่ทําวันนี้ให้ดีที่สุด ก็คือทุกๆ นาทีที่เราตื่นขึ้นมา เราทําในสิ่งที่ดีที่สุด ทําในสิ่งที่มีค่าและมีประโยชน์กับตัวเราและคนรอบข้างให้มากที่สุด นั่นก็คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว”

วางแผนอนาคตไว้อย่างไร...
“ตอนนี้แค่อยากแสดงละครออกมาให้ดีทั้ง 2 เรื่องเลย แล้วยิ่งได้มาเป็นนางเอกเต็มตัวเราก็ยิ่งต้องทําการบ้านดีๆ ไม่อยากให้ใครมองว่าเราทําไม่ได้ แล้วก็จะไม่ให้ทุกคนที่จับตามองรู้สึกผิดหวัง แล้วก็อยากให้ทุกคนให้กําลังใจและคอยติดตามผลงานด้วย เพราะหนูก็ยังใหม่มาก ฝากด้วยนะคะ” 
    

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดาราดังสวมทูพีชสดใสอวดรูปดาวบนพื้นทรายจนนักร้องดังคนนี้อดเมนต์ไม่ไหว

ลุ้นข่าวดี?! “เจนนี่ รัชนก” ตอบแล้วหลังคนทักมีน้ำมีนวลขึ้น พร้อมเผยสภาพจิตใจหลังสูญเสียลูก 2 รอบ

ช็อควงการลูกทุ่ง! นักร้องดังอาร์สยาม เสียชีวิตแล้วเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา

รอยยิ้มสดใสของ “คุณหญิงบัว” อบอวลด้วยความรักและอบอุ่น

เปิด 10 ฉายาดาราประจำปี2567 “ณวัฒน์-หลิงออม-มุกดา-แน็ก ชาลี” ติดด้วย

สิ่งนี้เองที่  “น้องมายู” กลัวกรี๊ดที่สวนคุณตา

โอ้โห! “น้องณิลลา” หลานสาว “น้าค่อม ชวนชื่น” ยิ่งโตยิ่งสวย

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments