เรื่องย่อละคร "ใยกัลยา"

เรื่องย่อละคร "ใยกัลยา"

1

เรื่องย่อละคร "ใยกัลยา"

     ในการประกวดนางนพมาศในงานประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง  กัลยา  ลูกสาวของ นายมิ่ง เจ้าของสวนผลไม้ชนะการประกวดได้รับตำแหน่งนางนพมาศ  ขณะที่ลงไปรับถ้วยรางวัลจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัด  สายตาคมกริบของชายหนุ่มคนหนึ่งที่จ้องมองเธอทำให้กัลยาประหม่าสะเทิ้น        อายมากขึ้น  เธอได้รู้ในภายหลังว่าเขาชื่อ บุรี เป็นเพื่อนสนิทของลูกชายท่านผู้ว่าและรับราชการเป็นทหารเรือ โดยปกติแล้วกัลยาจะมาช่วยพ่อขายผลไม้ที่ตลาดในวันหยุดเสมอ  หลังจากคืนนั้นบุรีจะเป็นลูกค้าประจำของเธอจากเป็นเพียงลูกค้าบุรีตามไปช่วยทำสวนที่บ้านอีกด้วย  ความสัมพันธ์ระหว่างบุรีและกัลยาพัฒนาเป็นความรักในเวลาไม่นาน  แต่ก็เป็นความรักที่จริงจังและจริงใจมาก  ความสัมพันธ์ของบุรีและกัลยาอยู่ในสายตาของนายมิ่งพ่อของกัลยาตลอดเวลา  เขามองออกว่าชายหนุ่มรักลูกสาวของเขาแต่ก็ไม่คิดจะขัดขวาง  มิ่งชอบบุรีมากความดีของบุรีทำให้ว่าที่พ่อตายอมรับเขาได้ไม่ยากนัก  คืนวันหนึ่งทั้งคู่ไปเที่ยวงานวัดด้วยกัน  ระหว่างนั่งบนชิงช้าสวรรค์บุรีให้ของขวัญกัลยาเป็นต่างหูมุกหนึ่งคู่  เขาบอกเธอว่าเขาตั้งใจหามาให้เธอโดยเฉพาะ กัลยามีความสุขมากต่างหูคู่นี้นอกจากจะเป็นของขวัญชิ้นแรกจากบุรีแล้วยังเป็นของที่เขาหามาอย่างตั้งใจอีกด้วย

      กัลยาเรียนจบไม่นาน  นายมิ่งล้มป่วยเป็นมะเร็งแกอยากให้ลูกสาวแต่งงานไปกับบุรีก่อนแกจะตาย  ทุกอย่างเป็นไปตามที่มิ่งต้องการ  บุรีให้คำสัญญากับกัลยาต่อหน้ามิ่งว่าเขาจะรักและดูแลเธออย่างดีที่สุดไปตลอดชีวิต  หลังแต่งงานบุรีพากัลยามาอยู่กรุงเทพฯ โดยมาอยู่ที่บ้านของป้าญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เขามีอยู่  กัลยาเป็นคนขยันเธอทำอาหารขายช่วยหารายได้เข้าบ้าน  แม้กิจการจะดีมากแต่กัลยาก็ต้องพักเมื่อตั้งครรภ์   ลูกของเธอกับบุรีเป็นผู้ชายชื่อ  ศวัส  หลังคลอดกัลยายิ่งสวยเปล่งปลั่งจน วดี ซึ่งเป็นแมวมองหาดาราใหม่ๆสู่วงการบันเทิงสนใจ  วดีชวนกัลยาถ่ายโฆษณา  แต่หญิงสาวปฏิเสธทั้งที่ใจอยากจะทำ  เธอเป็นนักเรียนนาฏศิลป์จึงรักการแสดงอยู่แล้ว  ทว่าบุรีกับศวัสคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเธอกัลยาจึงต้องตัดใจ  เธอบอกวดีว่าเธอแต่งงานและมีลูกแล้ว  และไม่อยากทิ้งครอบครัวไป  วดีเสียดายมากแต่ก็ให้นามบัตรกัลยาไว้ 

      เย็นวันนั้นกัลยาเล่าให้บุรีฟังเรื่องวดีและการถ่ายโฆษณา  หญิงสาวดีใจและตื่นเต้นเมื่อบุรีกลับสนับสนุนเขาอยากให้ภรรยามีความสุข  บุรีรู้ดีว่ากัลยารักศิลปะการแสดงมากเพียงไหนเขาคิดว่างานถ่ายโฆษณาชิ้นเดียวคงไม่เป็นไร  แต่เขาคิดผิด  ความสวยของกัลยาไปสะดุดตา ศักดิ์สิทธิ์  เจ้าของบริษัทสร้างศิลป์  บริษัทสร้างภาพยนต์ที่มีชื่อเสียง วดีพากัลยามาแคสต์  กัลยาทำได้ดีมาก  ศักดิ์สิทธิ์จึงเปลี่ยนชื่อให้เธอใหม่เพื่อใช้ในการแสดงว่า  พุธกันยา  ปานรัมภา  โดยปกปิดข่าวเรื่องการแต่งงานและมีลูกของเธอไว้  เพราะกลัวแฟนภาพยนตร์ไม่ยอมรับ  เวลาผ่านไปพุธกันยา  ปานรัมภาเป็นนางเอกที่มีชื่อเสียงมาก  ชีวิตครอบครัวก็มีความสุขดีเพราะบุรีเข้าใจทุกอย่างเขาเลี้ยงศวัสและอยู่กับลูกจนเด็กชายไม่ได้รู้สึกว่ามีปมด้อย วดีกลายเป็นเพื่อนสนิทและผู้จัดการส่วนตัวของพุธกันยา      หญิงสาวมีความสุขมากจนกระทั่ง สมเจตน์  ลูกชายคนเล็กของศักดิ์สิทธ์เดินทางกลับจากต่างประเทศหลังจากเรียนจบ  เขาเป็นคนหนุ่มหน้าตาดีและสมาร์ทมาก  สมเจตน์ช่วยพ่อทำงานและเป็นคนมีฝีมือ  เขาแอบรักพุธกันยาแม้จะรู้ว่าเธอมีครอบครัวแล้วเขาก็ยอมรับและเต็มใจเพียงขอให้ได้รักเธอ  แม้หญิงสาวจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็ตาม   คนที่เจ็บปวดเสียใจคือวดีเธอรักสมเจตน์แต่เขาไม่เคยสนใจเธอเลยแม้สักนิด  วันหนึ่งสมเจตน์ได้ข่าวว่าวดีโกงค่าตัวพุธกันยาเขาจึงแอบสืบดูจนรู้ว่าเป็นความจริงและทำมานานแล้ว  พุธกันยาเสียใจเมื่อได้รู้เรื่องเธอเสียดายความเป็นเพื่อน  และความไว้ใจที่มีต่อกัน  จำนวนเงินที่วดีโกงไปมากมายจนไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนที่ดีที่สุดจะทำกันได้  ความสัมพันธ์ระหว่าง      พุธกันยาและวดีจึงจบลงแต่ไม่ดีนักเพราะวดีไม่ยอมคืนเงินให้พุธกันยา  และถ้านางเอกคนดังไปแจ้งความเธอจะแฉกับสื่อเรื่องที่พุธกันยามีสามีและมีลูกแล้ว  วดีเรียกเธอว่านางเอกจอมโกหก  พุธกันยารีบไปปรึกษาศักดิ์สิทธิ์โดยมีสมเจตน์ช่วยคิดหาทางออกให้  ศักดิ์สิทธิ์ตัดสินใจให้หญิงสาวเก็บตัวและห้ามให้ข่าวทั้งที่ใจหนึ่งพุธกันยาก็อยากจะบอกประชาชนให้รู้ความจริงเพราะบุรีและศวัสไม่ได้มีอะไรที่น่าอายสักนิด  แต่นักธุรกิจในวงการนี้เขาไม่คิดอย่างเธอ  ดึกมากแล้วเมื่อเธออกจากบ้านศักดิ์สิทธิ์  พุธกันยาตกใจที่จู่ๆก็ถูกถ่ายรูปและมีนักข่าวกลุ่มโตดักรอถามเรื่องสามีและลูก  หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกได้แต่รีบขับรถกลับบ้าน  เธอแค้นใจมากขึ้นเมื่อวดีทรยศชิงให้ข่าวกับสื่อทำร้ายเธอเพื่อปกปิดความผิดของตัวเอง  พุธกันยาเครียดมาก ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย  เธอหยิบยากินโดยไม่ดูให้ละเอียด  พุธกันยาล้มตัวลงนอนแล้วหลับโดยที่ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย  เธอเสียชีวิตเพราะกินยาเกินขนาดปริมาณยาที่ตรวจพบหลังการชันสูตรทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเธอกินยาฆ่าตัวตายหนีอายเรื่องการมีครอบครัว  พุธกันยาจากไปท่ามกลางความเสียใจอย่างที่สุดของบุรีและศวัส   

       เวลาผ่านไปหลายสิบปีเรื่องราวของพุธกันยาถูกข่าวอื่นๆกลบไปจนแทบจะไม่มีใครจำเธอได้อีกนอกจากบุรีหรือพลเรือตรีบุรีและทันตแพทย์ศวัส  บ่ายวันหนึ่งที่หน้าบ้านของบุรี หอมน้ำ  และ สินีนุช  สองสาวนักศึกษาฝึกงานของบริษัทสร้างศิลป์ ๒๐๐๐ ได้รับคำสั่งจากผู้จัดการกองถ่ายให้มาหาโลเคชั่นหาบ้านเพื่อถ่ายละคร  หอมน้ำเคยเห็นบ้านหลังนี้ในนิตยสารและชอบมากจึงลองเสนอดู  ภิญโญ ซึ่งเป็นผู้จัดการกองถ่ายจึงแจกงานให้ทั้งคู่ทันที  สองสาวมาถึงบ้านนั้นอย่างกระหืดกระหอบ  บ้านสวยกว่าในรูปเสียอีกแต่ปิดเงียบราวกับไม่มีคนอยู่  ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของบ้านจะกลับมา  สินีนุชจึงตัดสินใจชวนหอมน้ำแอบถ่ายคลิปวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือส่งให้ภิญโญเพื่อจะได้กลับบ้านกันเสียที  หอมน้ำห้ามเพื่อนเพราะกลัวจะโดนกล่าวหาว่าเป็นขโมยแต่เมื่อสินีนุชพยายามลอดมือผ่านแนวรั้วถี่ๆเพื่อต้องการภาพที่ดีที่สุดและหลายๆมุม  ทว่าทำไม่ได้เพราะความที่เป็นสาวร่างอวบ  แขนเธอใหญ่เกินกว่าจะลอดรั้วเข้าไปได้หอมน้ำหัวเราะขำเพื่อนก่อนจะรับโทรศัพท์มาถ่ายเอง  ขนาดว่าเธอผอมเพรียวกว่าสินีนุชช่องว่างระหว่างซี่รั้วแทบจะพอดีแขนของเธอจนน่ากลัวว่าจะติด  ขณะที่หอมน้ำเพลินกับการถ่ายรูปศวัสขับรถกลับบ้านมาพอดี  เขาลงจากรถด้วยท่าทางโกรธจัด  สินีนุชรีบเข้าไปอธิบายเหตุผลและแนะนำว่าตัวเองกับเพื่อนสาวมาเพราะบริษัทสร้างศิลป์๒๐๐๐ จะขอใช้บ้านหลังนี้เป็นโลเคชั่นถ่ายละคร  โดยมี ธันวา และ ณัชชา พระเอกนางเอกที่มีชื่อเสียงร่วมงานด้วย   แต่ศวัสไม่สนใจเขาปฏิเสธอย่างไร้น้ำใจ ขณะที่สินีนุชพยายามพูดถ่วงเวลาเพื่อให้หอมน้ำปีนลงมาจากรั้ว  ทว่าแขนหญิงสาวติดแน่นระหว่างซี่รั้ว  ตาคมดุของศวัสทำให้หอมน้ำพยายามดึงกระชากแขนอย่างแรงจนหลุดออกมาจนได้โดยที่ตัวเธอหงายหลังตกลงบนพื้นเสียงดัง  กระโปรงจีบรอบตัวที่สั้นแค่เข่าเปิดขึ้นสูงจนโป๊  สายตาของศวัสทำให้หอมน้ำอายจนหน้าแดง       เธอรีบส่งมือให้สินีนุชฉุดขึ้นยืนแล้วหลบอยู่หลังเพื่อนถ้าทำได้เธออยากจะหายตัวไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด  ศวัสขู่ให้สินีนุชและหอมน้ำกลับไปก่อนที่เขาจะรายงานเรื่องเธอทั้งคู่ไปที่มหาวิทยาลัย  ศวัสเข้าบ้านไปแล้ว หอมน้ำและสินีนุชหนักใจเพียงงานแรกเธอก็ทำไม่ได้เสียแล้ว  ทว่าก่อนที่ทั้งสองสาวจะออกไปจากตรงนั้น กนกรัตน์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านรีบออกมาพบเธอเห็นและรู้เรื่องทั้งหมด      กนกรัตน์เป็นแฟนคลับที่เหนียวแน่นของธันวาและณัชชาเธออยากเห็นดาราขวัญใจอย่างใกล้ชิดจึงบอกให้หอมน้ำและสินีนุชไปติดต่อกับพลเรือตรีบุรี จินต์ไท พ่อของศวัส  และยังให้หมายเลขโทรศัพท์มาอีกด้วย  กนกรัตน์บอกว่าพลเรือตรีบุรีใจดีและน่าจะยอมตกลงด้วย

     ภิญโญรีบติดต่อพลเรือตรีบุรีเพื่อขออนุญาตใช้บ้านถ่ายละคร  ท่านถามถึงผู้กำกับการแสดง เมื่อรู้ว่าสมเจตน์เจ้าของบริษัทสร้างศิลป์ ๒๐๐๐ จะเป็นผู้กำกับเอง  พลเรือตรีบุรีจึงเต็มใจให้มาถ่ายทำละครได้  ท่านยังจำได้ว่าสมเจตน์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของพุธกันยา  ตรงข้ามกับศวัสที่ไม่พอใจอย่างมากเขาเกลียดวงการบันเทิง  วงการมายาที่ทำให้แม่ของเขาต้องจากไป  พุธกันยาตายไปพร้อมปริศนาที่ยังค้างคาใจใครหลายคนโดยเฉพาะสามีและลูก  ศวัสจำได้ว่าเขาต้องเจอคำถามแปลกๆจากคนรู้จักเรื่องการตายของแม่  และข่าวฉาวๆที่ไม่เป็นความจริงมากมายจนเขาอยากจะหนีไปอยู่ที่อื่นให้พ้นเรื่องนี้เสียที  แต่พ่อของเขาไม่ยอมไปท่านยังรักและผูกพันกับแม่ของเขามาก  หลังพุธกันยาตาย พลเรือตรีบุรีอยู่เป็นม่ายมาจนทุกวันนี้  ไม่ใช่ว่าจะไม่มีสาวๆมาสนใจตรงกันข้ามบุรีเป็นพ่อม่ายเนื้อหอมแต่เขาแสดงออกชัดเจนว่าความรักที่เขามีต่อพุธกันยานั้นมั่นคงเหมือนดังคำสัญญาที่เคยบอกเธอว่าเขาจะรักเธอและมีเธอคนเดียวตลอดชีวิต  บุรีเก็บของทุกอย่างที่เป็นของพุธกันยาไว้ในห้องห้องหนึ่งอย่างดี  ตั้งแต่เล็กจนโตบ่อยครั้งที่ศวัสพบบุรีอยู่ในห้องนั้น  เขารู้ว่าพ่อรักแม่ไม่เปลี่ยนแปลง  ศวัสรู้สึกอึดอัดกับความรักและคำมั่นสัญญาของพ่อที่มีต่อแม่มาก  คำมั่นสัญญาที่เป็นเหมือนเครื่องพันธนาการของชีวิตให้จมอยู่กับอดีต  ไม่คำนึงถึงปัจจุบันและไม่มีความหวังในอนาคตแล้วจะมีความ สุขได้อย่างไร

     สองสามวันต่อมากองถ่ายละครเริ่มงาน  ผู้คนมากมายทั้งทีมงาน  ดารา และแฟนคลับที่มามุงดูดาราขวัญใจของพวกเขา  ศวัสมองความวุ่นวายในบ้านอย่างไม่พอใจ เขาสั่งให้ เยาวภา แม่บ้านที่ทำงานด้วยกันมานานคอยจับตาดูคนพวกนี้ให้ดี   หอมน้ำรู้สึกว่าการเป็นนักศึกษาฝึกงานเหนื่อย      ทั้งกายทั้งใจ  ต้องรองรับอารมณ์ทั้งดาราเรื่องมากอย่าง เพลินพิศ  ผู้กำกับอารมณ์ร้อนอย่างสมเจตน์  และเจ้าของบ้านหน้าดุอย่างศวัส  แม้กระนั้นความที่เธออยากทำงานเบื้องหลังหอมน้ำก็ทำใจให้สนุกกับงานได้  บ้านหลังนี้สวยจริงๆ สวยทุกมุม สวนข้างบ้านร่มรื่น หอมน้ำชอบไปนั่งเล่นที่บ่อปลาคาร์พโดยไม่รู้ว่าที่นั่นเป็นมุมโปรดของศวัสเช่นกัน 

     วันหนึ่ง  ทับทิม ซึ่งเป็นฝ่ายเสื้อผ้าต้องซ่อมชุดของนางเอกโดยต้องเย็บมุกเม็ดเล็กติดกับปลายแขนเสื้อสีสวยหวานเธอให้หอมน้ำไปหยิบกล่องอุปกรณ์เย็บผ้าที่วางไว้ใต้บันได หญิงสาวรีบไปทันที   ตรงนั้นมีกล่องเหมือนๆกันซ้อนอยู่หลายใบ  หอมน้ำจึงหยิบกล่องออกเปิดดูจนพบกล่องเก็บเม็ดมุกที่ต้องการ  หญิงสาวตัดสินใจเดินอ้อมทางข้างบ้านเพื่อเลี่ยงฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่เดินออกมาไม่ไกลเธอสังเกตเห็นมุกเม็ดเล็กเหมือนในกล่องตกอยู่ที่สนามหอมน้ำก้มลงเก็บ  มุกเม็ดนั้นเปื้อนดินหญิงสาวกำลังจะหยิบผ้ามาเช็ด  แต่เยาวภาแม่บ้านหน้าดุที่ก้าวมาขวางหน้าถามเสียงเข้มว่าทำอะไรทำให้หอมน้ำเปลี่ยนใจเธอชูมุกที่เปื้อนดินให้เยาวภาดูก่อนจะตอบสั้นๆว่าจะเอาไปเย็บติดเสื้อนางเอก  หอมน้ำก้าวเร็วๆกลับเข้าบ้าน   เสียงเร่งของทับทิมทำให้เธอเดินเร็วขึ้นจนเสียหลักหงายหลังล้มลงบนพื้นไม้ที่ขัดมัน   มุกในมือกระเด็นลอยเข้าปากที่อ้าปากร้องอย่างตกใจ  หอมน้ำกลืนมุกลงคอพอดีที่ศีรษะลงกระแทกพื้นอย่างแรงจนเธอหมดสติอยู่ตรงนั้นเอง  กลิ่นแอมโมเนียและเสียงเรียกของสินีนุชทำให้หอมน้ำรู้สึกตัว  เธอลืมตาขึ้นช้าๆกวาดตามองรอบตัวแล้วอยากจะเป็นลมอีกรอบ  เมื่อเห็นว่านอกจากสินีนุชแล้วยังมีทีมงานคนอื่นๆอีกหลายคน  แต่ที่ร้ายที่สุดคือศวัสยืนหน้าเข้มตาดุอยู่อีกคน  สินีนุชบอกว่าเขาเป็นหมอก็น่าจะตรวจอาการเธอได้ในเบื้องต้น  แต่หอมน้ำไม่รู้สึกอย่างนั้นถ้าจะให้ศวัสรักษาเธอยอมไปที่อื่นดีกว่า  หญิงสาวโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก  หลังจากวันนั้นหอมน้ำมักจะเห็นหญิงสาวสวยมากเดินเพ่นพ่านอยู่ในบ้านโดยที่เธอเข้าใจว่าเป็นตัวประกอบ  หอมน้ำเคยตามผู้หญิงคนนั้นขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านซึ่งถูกสั่งห้ามทีมงานขึ้นเด็ดขาด  ผู้หญิงคนนั้นหายไปเพียงเลี้ยวขึ้นบันไดบ้าน  หอมน้ำลังเลว่าจะทำอย่างไรดี  ศวัสก็ออกมาจากห้องส่วนตัวเขามองหอมน้ำอย่างหวาดระแวงและไม่เชื่อว่าจะมีใครแอบขึ้นมาบนนี้นอกจากหอมน้ำ  แต่เมื่อเธอยืนยันว่ามีจริงๆศวัสก็สั่งให้หญิงสาวคอยอยู่ที่หน้าบันไดส่วนเขาค่อยๆเดินตรวจดูทุกห้องแต่ไม่พบใคร  ศวัสโกรธมากเขามั่นใจว่าหอมน้ำต้องเป็นขโมย  หญิงสาวทำหน้างงเมื่อศวัสบอกว่าเขาไม่พบใคร  ชายหนุ่มกึ่งลากกึ่งจูงหอมน้ำมาหาสมเจตน์พูดสั้นๆว่าให้อบรมเธอด้วยว่าอย่าวุ่นวายนักก่อนจะออกจากบ้านไป

     สมเจตน์อบรมหอมน้ำอย่างรุนแรง  นอกจากเรื่องวุ่นวายแล้วหอมน้ำยังโดนสงสัยว่าจะเป็นขโมยอีกด้วย  แต่หญิงสาวไม่ได้ใส่ใจนักเธอเชื่อว่าเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นจริงๆถ้าไม่ใช่ตัวประกอบก็ต้องเป็นใครสักคนแถวนี้ที่แฝงเข้ามา  หอมน้ำหมายมั่นปั้นมือว่าจะจับตัวให้ได้ในสักวัน  สินีนุชสงสารเพื่อนมากที่ต้องโดนผู้กำกับจอมโหดดุอย่างนั้น  สินีนุชมั่นใจว่าหอมน้ำไม่มีวันทำตัวเหลวไหลอย่างนั้น  พ่อแม่ของหอมน้ำเป็นพนักงานธนาคารระดับอาวุโสทั้งคู่และอบรมลูกสาวมาดี  สินีนุชนั้นเป็นลูกสาวเศรษฐีใช้แต่ของแบรนด์เนมที่พ่อแม่ซื้อให้อยู่คอนโดหรู  หอมน้ำเองก็มาพักกับเธอบ่อยๆแต่ไม่เคยมีของหายมีแต่จะช่วยเก็บของให้เรียบร้อยอีกต่างหาก  สินีนุชทำอะไรไม่ได้มากนอกจากปลอบใจเพื่อนที่นั่งซึมอย่างน่าสงสาร

     หอมน้ำมาฝึกงานตามปกติโดยไม่รู้ว่าศวัสเริ่มจับตามองเธอมากขึ้น  เขามั่นใจว่าหอมน้ำคือตัวการ  แต่สิ่งที่เขาเห็นคือความสดใสน่ารักขยันทำงานและมีน้ำใจนั่งคุยกับปลาคาร์พของเขาในบ่อนานๆราวกับมันเป็นเพื่อน  บ่ายวันหนึ่งชายหนุ่มกลับบ้านเร็วกว่าปกติเขาเดินอ้อมข้างบ้านพบหอมน้ำนั่งเล่นอยู่ที่บ่อปลา  ชายหนุ่มจึงตามไปสอนเธอให้เรียกปลาขึ้นมาให้ลูบหัว  หอมน้ำตื่นเต้นและชอบมาก   ขณะที่เล่นกับปลาอยู่หอมน้ำก็เห็นหญิงสาวตัวประกอบลึกลับเดินอยู่ในบ้าน   เธอตื่นเต้นมากที่จะจับคนร้ายได้สักที  หญิงสาวคว้ามือศวัสจูงให้ตามเธอมาพลางจุ๊ปากให้เงียบๆ   เมื่อชายหนุ่มสงสัยเธอจึงบอกว่าเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นอีกแล้วและจะไปจับขโมยกัน   ศวัสปล่อยให้หอมน้ำจูงมือไปจนเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นสองพอถึงที่พักบันไดเขาก็หมดความอดทนชายหนุ่มไม่รู้ว่าหอมน้ำจะทำอะไร  เพราะเขาไม่เห็นผู้หญิงคนที่หอมน้ำพาเขาเดินตามสักนิดที่จริงแล้วศวัสไม่เห็นใครเลย    หอมน้ำชะงักเมื่อศวัสรั้งมือไว้เธอหงุดหงิดเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นยืนยิ้มเยาะอยู่ที่หัวบันได  หญิงสาวพยายามบอกศวัสว่าต้องรีบตามก่อนขโมยจะเข้าไปขโมยของ ระหว่างพูดสายตาเหลือบไปเห็นภาพวาดของพุธกันยาที่ประดับอยู่บนผนังตรงที่พักบันได  หอมน้ำอ้าปากค้างหันไปมองสาวสวยที่ยืนยิ้มอยู่ที่หัวบันไดอีกครั้งก่อนจะเหลียวมามองภาพวาด  เธอตกใจจนหมดสติเมื่อเห็นว่าสาวสวยคนนั้นหน้าเหมือนคนในภาพวาดพุธกันยานั่นเอง  ศวัสรีบรับตัวหอมน้ำที่จู่ๆก็ช็อกหมดสติตรงหน้าก่อนที่เธอจะตกบันไดจนบาดเจ็บมากกว่านี้  ชายหนุ่มอุ้มหอมน้ำลงมานอนที่เก้าอี้รับแขกตัวยาวท่ามกลางความตกใจของทีมงาน  สินีนุชรีบเข้ามาดูอาการเพื่อนสนิททันที   เวลาผ่านไปจนศวัสเริ่มเป็นห่วงหอมน้ำหมดสตินานเกินไปแล้ว  ก่อนที่เขาจะตัดสินใจพาเธอไปโรงพยาบาลหอมน้ำก็ได้สติเธอพรวดพราดลุกขึ้นหน้าซีดเผือดละล่ำละลักบอกว่าเธอเห็นพุธกันยา ไม่มีใครเชื่อสักคน  หอมน้ำอธิบายอย่างละเอียดว่าพุธกันยาแต่งตัวอย่างไรแต่ก็ไม่มีใครเชื่อ  ศวัสโกรธมากขึ้นไปกว่าเดิมเขามั่นใจว่าหอมน้ำเป็นจอมโกหกและมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยมาก  ลึกลงไปเขาอดเสียใจไม่ได้ที่สาวสวยน่ารักอย่างหอมน้ำกลับมีนิสัยไม่ดี  ก่อนที่สมเจตน์จะอาละวาดกับหอมน้ำพลเรือตรีบุรีซึ่งยืนฟังอยู่นานโดยที่ไม่มีใครสังเกตเดินเข้ามาและพูดชัดเจนว่าท่านเชื่อหอมน้ำ  และรู้จักผู้หญิงคนนั้นดีว่าเป็นใครท่านยืนยันว่าหอมน้ำพูดจริง  ผู้หญิงคนนั้นมีตัวตนแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นพุธกันยา  หอมน้ำหน้ามุ่ยเธอตัดสินใจจะไปฝึกงานที่อื่น  ลำพังต้องรับมือกับศวัสก็พอสู้แต่กับผีอย่างพุธกันยาหอมน้ำยอมแพ้  บุรีสบตาหอมน้ำอย่างรู้ทันพูดดักคอว่าหอมน้ำคงมาฝึกงานที่นี่ต่อไปไม่หนีไปฝึกงานที่อื่นเพราะมันจะทำให้ทุกคนเชื่อว่าเธอทำผิดจริง  ค่ำมากแล้วเมื่อกองถ่ายเลิก  หอมน้ำกับสินีนุชนั่งแท็กซี่กลับคอนโดมิเนียมหรู   กลางเมือง  สินีนุชได้โอกาสถามเพื่อนเรื่องผีพุธกันยา  หอมน้ำยืนยันว่าเธอเห็นจริงๆ สองสาวคุยเรื่อง                 ผีพุธกันยาจนไม่ได้สังเกตว่าคนขับแท็กซี่ก็สนใจฟังเช่นกัน   คืนนั้นหอมน้ำค้างกับสินีนุชเพราะยังหวาดกับเรื่องที่เกิดขึ้น  สองสาวไม่รู้เลยว่าหลังจากส่งผู้โดยสารแล้วคนขับแท็กซี่ก็โทรศัพท์เข้ารายการวิทยุที่เกี่ยวกับเรื่องลึกลับแล้วเล่าเรื่องผีพุธกันยาอดีตดาราดังที่ล่วงลับอย่างเป็นจริงเป็นจังราวกับเห็นเสียเอง  

     วันรุ่งขึ้นหอมน้ำกลับหอพักลางานหนึ่งวันเพื่อตระเวนทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พุธกันยา       รดน้ำมนต์ป้องกันพุธกันยา  โดยไม่ลืมค้นสายสร้อยแขวนพระองค์เล็กที่พ่อแม่ให้มาสวมติดตัวไปด้วย  นอกจากนั้นเธอยังออกหาที่ฝึกงานใหม่แต่ก็ไม่ว่างสักแห่งเดียว หอมน้ำตกใจเมื่อสินีนุชโทรศัพท์มาเล่าว่าที่กองถ่ายวุ่นวายไปหมดมีคนมามากกว่าปกติเพราะมีข่าวเรื่องผีพุธกันยาจนบ้านหลังนี้จะกลายเป็นบ้านอาถรรพณ์ผีดุไปแล้ว หอมน้ำนึกเสียใจที่หลุดปากเรื่องที่เธอเห็นอดีต        ดาราแม่ของศวัส  หญิงสาวเปิดโทรทัศน์แล้วเดินไปที่ตู้เย็นเล็กๆมุมห้องหยิบน้ำมาดื่มพอหันกลับมาเธอก็ต้องสำลักเมื่อเห็นพุธกันยานั่งดูรายการข่าวบันเทิงอย่างสนใจ  หอมน้ำกลัวจนทำอะไรไม่ถูกพนมมือสวดมนต์ผิดๆถูกๆจนพุธกันยาดุบอกว่าเธอไม่ใช่ผีและไม่ชอบให้ใครเรียกว่าผีด้วย  เธอเป็นวิญญาณต่างหาก  หญิงสาวตั้งสติกำสร้อยพระแน่นถามว่าพุธกันยาต้องการอะไรจากเธอ  พุธกันยาจึงบอกว่าเธออยากให้หอมน้ำช่วยบอกบุรีและศวัสว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย  แต่เป็นเพราะเครียดเลยเผลอกินยาเกินขนาดมันเป็นอุบัติเหตุไม่ใช่เจตนา   อดีตดาราคนดังเล่าเรื่องชีวิตเธอให้หอมน้ำฟังจนเธอเห็นใจยอมรับปากว่าจะช่วยหาวิธีบอกบุรีกับศวัสให้  ระหว่างที่หอมน้ำคุยกับพุธกันยาสินีนุชก็แวะ มาหา  เธอเห็นหอมน้ำทำท่าแปลกๆจึงแหย่เรื่องผีพุธกันยาเพราะเข้าใจว่าเพื่อนคิดไปเอง  พุธกันยาจึงต้องแสดงความสามารถให้สินีนุชเชื่อ  เริ่มจากเปิดปิดโทรทัศน์จนต้องออกแรงยกหมอนข้างให้    ลอยขึ้น  สินีนุชกระโดดเข้าไปกอดหอมน้ำทันที   พุธกันยานึกรำคาญคนขวัญอ่อนเลยออกไปจากที่นั่นสองสาวจึงถอนใจอย่างโล่งอก

     ความจำเป็นบังคับให้หอมน้ำต้องกลับไปฝึกงานที่เดิมอีก  วันหนึ่งเกิดเรื่องใหญ่เมื่อสมเจตน์ปลด แววรุ่ง  ดาราสาวซึ่งเป็นหลานรักของวดีออกจากการเป็นนักแสดงเรื่องนี้เพราะมาสาย แสดงพลาด ไม่สนใจงานแถมยังเบี้ยวคิวไปเที่ยวกับแฟนหนุ่มไฮโซจนสมเจตน์โกรธ  เขาไม่สนใจว่า แววรุ่งจะเป็นหลานของวดีเจ้าของหนังสือพิมพ์ขายดีชื่อชิดขอบบันเทิง  และยังได้ชื่อว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการอีกด้วย   สมเจตน์สั่งให้หานักแสดงใหม่มาแทนแต่ก็หายากไม่มีใครว่าง  ภิญโญมองหอมน้ำแล้วชวนให้เธอลองแคสต์ดู  หอมน้ำไม่ชอบเป็นนักแสดงเธอชอบงานเบื้องหลังมากกว่า      แต่ก็หมดสิทธิปฏิเสธเพราะนอกจากภิญโญแล้วยังมี อุมา  ช่างแต่งหน้า  ทับทิมซึ่งเป็นคอสตูม  รวมทั้งสินีนุชมาคะยั้นคะยอ  สินีนุชบอกว่าให้ลองทำไปเพราะถ้าหอมน้ำเล่นไม่ได้จริงๆสมเจตน์ก็ไม่ต้องการดีกว่าเป็นคนเรื่องมาก  หอมน้ำจำใจไปแต่งหน้าแต่งตัวใหม่เพื่อลองแคสต์  เธอถอดสร้อยพระฝากสินีนุชไว้เพราะไม่เข้ากับชุดที่ต้องสวม  อุมากับทับทิมสามารถทำให้หอมน้ำนักศึกษาสาวสวยใสๆ กลายเป็นสาวสวยสะดุดตาและขึ้นกล้องเสียด้วย  สมเจตน์พอใจกับรูปลักษณ์ของหอมน้ำที่เปลี่ยนไป  แต่พอถึงการแสดงหญิงสาวกลับทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างมากเพราะเล่นไม่ได้  จนกระทั่งโอกาสครั้งสุดท้าย  หอมน้ำหนักใจกลัวสมเจตน์ประหม่าสายตาของศวัสที่มายืนดู  ที่ร้ายกว่านั้นคือกลัวการเรียนไม่จบ  หญิงสาวหันหลังให้ทุกคนเพื่อทำสมาธิหอมน้ำตกใจเมื่อเห็นพุธกันยายื่นหน้ามาจนชิดเธอก่อนจะหมดสติไป  พุธกันยาสิงร่างของหอมน้ำได้อย่างอัศจรรย์   ดาราสาวหลับตานิ่งสูดลมหายใจลึกๆสามครั้งเพื่อทำสมาธิตามความเคยชิน  เมื่อหันกลับมาอีกครั้งสมเจตน์แปลกใจที่หอมน้ำมีท่าทางเปลี่ยนไป  ตาคมสวยเป็นประกายอย่างคนที่เชื่อมั่นในตัวเองหน้าเพรียวสวยเชิดหยิ่งไว้ตัวนิดๆ     สวยสง่าน่าดู   กิริยาหอมน้ำทำให้สมเจตน์คุ้นตาคุ้นใจอย่างบอกไม่ถูก  เมื่อเริ่มแสดงหอมน้ำทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อราวกับเป็นคนละคนจนสมเจตน์พอใจมากสั่งเลิกกองหันมาล้อหอมน้ำว่าพรุ่งนี้เล่นให้ได้อย่างนี้ก็แล้วกันทุกคนในกองถ่ายโล่งใจ  

     สินีนุชยืนรอหอมน้ำที่เข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นานจนผิดสังเกต  จนศวัสกลับมาถึงบ้าน  สินีนุชกำลังจะเข้าไปตามเพื่อนเพราะไม่อยากให้ศวัสโกรธ  หอมน้ำก็ออกมาพอดีเธอวิ่งเข้ามากอดศวัสแน่นเรียกเขาว่าลูกอีกด้วย  สินีนุชพยายามแกะแขนเพื่อนออกจากศวัสแต่หอมน้ำไม่ยอม ส่วนศวัสยืนนิ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอย่างประหลาดที่แทรกเข้ามาเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายในหัวใจมานาน   เขาปล่อยให้หอมน้ำกอดเขาอย่างมีความสุขอยู่อย่างนั้น สินีนุชเอะใจจึงแอบหยิบสร้อยพระของหอมน้ำกำไว้ในมือ แล้วแอบแตะตัวเพื่อนสาว  พุธกันยาจึงต้องออกจากร่างหอมน้ำ  หญิงสาวจึงหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของศวัสนั่นเอง  ศวัสตัดสินใจไปส่งสินีนุชและหอมน้ำที่คอนโด  สินีนุชแอบสวมสร้อยพระให้เพื่อนทันทีที่มีโอกาส  หญิงสาวฟื้นขึ้นพอดีเมื่อถึงคอนโด   ศวัสส่งเพียงข้างล่างเมื่อเห็นว่าหอมน้ำรู้สึกตัวแล้ว   เมื่ออยู่กันตามลำพังสินีนุชจึงถามเพื่อนอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น หอมน้ำจำได้เพียงกำลังจะซ้อมบทให้สมเจตน์ดูหันมาพบพุธกันยาก็วูบไป  สินีนุชจึงเล่าให้เธอฟังว่าเกิดอะไรขึ้นรวมทั้งการเข้าไปกอดศวัสด้วย  หอมน้ำคิดหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีในวันรุ่งขึ้นเพราะรู้ในความสามารถของตัวเองดีเรื่องการแสดงว่าไม่ใช่เรื่องจริงๆ  หญิงสาวงอนสินีนุชกลับหอพักตัวเองเมื่อเพื่อนสนิทพูดว่าตอนแสดงก็ให้พุธกันยาสิงอีกก็หมดเรื่อง

     วันต่อมาหอมน้ำแสดงไม่ได้จริงๆ  หลายเทคก็ไม่ได้เรื่องเธอจำบทไม่ได้จนเพลินพิศดาราสาวเจ้าอารมณ์ที่ต้องเข้าฉากด้วยดูถูกเยาะเย้ยเธอหลายคำต่อหน้า อธิป ดาราหนุ่มอีกคน  และไล่ให้ไปเสิร์ฟน้ำดาราเหมือนเดิมทำให้หอมน้ำโกรธมากจึงบอกเพลินพิศว่าถ้าครั้งต่อไปเธอทำไม่ได้ เธอจะถอนตัวแต่ถ้าทำได้เพลินพิศต้องขอโทษเธอด้วย  หอมน้ำเลี่ยงออกไปข้างบ้านระหว่างที่สมเจตน์สั่งพักพุธกันยาตามไปทันที  หญิงสาวทำท่ายกบทขึ้นท่องแต่จริงๆกำลังตกลงกับพุธกันยาให้สิงเธอแล้วแสดงแทนโดยมีเงื่อนไขว่าหอมน้ำจะยอมให้พุธกันยาใช้ร่างได้ต่อไปหลังจากสั่งคัทต่ออีกครั้งละ   สิบห้านาทีเพื่อเปิดโอกาสให้พุธกันยาได้พูดคุยกับลูกชายและสามีบ้าง  ถ้าพุธกันยาไม่ปฏิบัติตามสัญญาสินีนุชจะมาสวมสร้อยพระให้หอมน้ำทันทีและจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป  พุธกันยาตกลง        

      หอมน้ำจึงเรียกเพื่อนมากระซิบเล่าสัญญาให้ฟังก่อนจะปลดพระองค์เล็กที่กลัดติดไว้ในเสื้อให้สินีนุชเก็บไว้  หอมน้ำหลับตานิ่งเพื่อเปิดโอกาสให้พุธกันยาเข้าสิงการแสดงผ่านไปด้วยดี            ในเทคเดียว อธิปเตือนให้เพลินพิศขอโทษหอมน้ำตามสัญญา   

       เพลินพิศทนไม่ได้ที่เห็นดารารุ่นน้องอย่างณัชชาและหอมน้ำกำลังจะมีชื่อเสียงขึ้นมาแข่งกับตัวเองเธอมั่นใจว่าเธอสวยและเก่งกว่าทั้งสองคนนี้มาก  เพลินพิศชอบคุยกับ กนกรัตน์ จึงรู้ว่าเธอเคยเห็นพุธกันยาในบ้านหลังนี้  วันหนึ่งเพลินพิศจึงแกล้งโดนพุธกันยาสิง  เธออาละวาดด่าทอสาปแช่งคนที่ทำให้เธอต้องตายโดยที่พุธกันยาในร่างหอมน้ำทนไม่ไหวแต่ทำอะไรไม่ได้จึงเลี่ยงออกไปจากตรงนั้นก่อนจะขาดสติและอาละวาดจริงๆ  เพลินพิศเป็นข่าวดังสมความตั้งใจดาราสาวมีงานมากขึ้น และได้รับการดูแลที่ดีขึ้นจาก พิไล แม่ครัวที่เป็นแฟนคลับของพุธกันยา  เพลินพิศหลงระเริงในความดังของตัวเองจนแสดงธาตุแท้ของตัวเองที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว  แถมขี้อิจฉาจนเพื่อนร่วมงาน เริ่มรำคาญ  คนที่รู้ทันเธอคืออธิปนักแสดงหนุ่มที่แสดงด้วยกันบ่อยๆนั่นเอง  แต่อธิปก็มีจุดอ่อนในเรื่องความเจ้าชู้ที่เพลินพิศรู้ดีและพร้อมจะแฉเขาเหมือนกัน

       พุธกันยาทำให้สมเจตน์พอใจหอมน้ำถึงขนาดเพิ่มบทให้อีก  ทำให้วดีเขียนข่าวเหน็บแนม  หอมน้ำจนเธอเสียใจอยากเลิกแสดง  แต่สมเจตน์เตือนให้หอมน้ำนิ่งไว้  วันหนึ่งวดีตามมาเพื่อหาเรื่องหอมน้ำถึงกองถ่าย  พุธกันยาอ้อนวอนขอใช้ร่างหอมน้ำจัดการเพื่อนทรยศก่อนที่หอมน้ำจะใจอ่อน ให้เธอ  สมเจตน์ออกมาพบวดีเขาตอบโต้และต่อว่าเธออย่างตรงไปตรงมาด้วยคำพูดที่รู้กันดีเพียง  สองคน  วดีโกรธมากรีบกลับไปทันที   สมเจตน์จับพิรุธพุธกันยาได้จึงจับตามองตลอดเวลา   วดียังคงหาเรื่องหอมน้ำอีกเขียนข่าวกำกวมในแง่มุมที่ทำให้คนอ่านเข้าใจผิดจนพุธกันยาทนไม่ไหว            เธอสงสารหอมน้ำจึงอาสากับสินีนุชว่าจะจัดการให้โดยสัญญาว่าหอมน้ำจะไม่เดือดร้อนแน่นอน  พุธกันยาใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาวดีโดยใช้ชื่อ สุรี  ช้อยนิ่ม ซึ่งเป็นชื่อเดิมของวดีก่อนจะบอกว่าให้เลิกเขียนข่าวในทางเสียหายกับละครเรื่องเพลิงนารีได้แล้วมิฉะนั้นเธอจะบอกเรื่องประวัติที่น่าอายของวดีที่เคยถูกพ่อเลี้ยงลวนลามอยู่หลายปีให้นักข่าวรู้  รวมทั้งการโกงค่าตัวพุธกันยาหลายแสนบาทด้วย  แล้วจะได้รู้ว่าการเป็นข่าวในเรื่องเสียหายนั้นเป็นอย่างไร   พุธกันยาวางสายไปแล้ว  วดีนั่งหน้าซีดอยู่ที่ห้องทำงานเธอกลัวจับใจ  วิญญาณพุธกันยาเป็นเรื่องจริงเพราะเรื่องนี้มีคนรู้เพียงสามคนคือตัวเธอเองพุธกันยาและสมเจตน์เท่านั้น 

     หอมน้ำหาทางสนิทสนมกับศวัสเพื่อบอกเรื่องพุธกันยา  ความน่ารักสดใสทำให้ศวัสคลายหน้าเคร่งและยิ้มได้อย่างอารมณ์ดี  วันหนึ่งเธอยอมไปเป็นคนไข้ของเขาแต่เมื่อเธอพูดเรื่องพุธกันยา และบอกว่าวิญญาณเธอยังอยู่ในบ้าน  เขากลับดุเธอด้วยคำพูดที่รุนแรงจนหอมน้ำเสียใจ  ก่อนที่เธอจะกลับไปเธอบอกเขาว่าให้ลองเปิดใจสังเกตสิ่งรอบตัวให้ดี  เขาอาจจะได้รู้ว่าเรื่องที่เธอพูดนั้นเป็น ความจริง  หอมน้ำคิดไม่ออกว่าจะช่วยพุธกันยาต่อไปอย่างไร  

     ในเวลาเดียวกันสมเจตน์เริ่มแน่ใจว่าพุธกันยาอยู่ในร่างหอมน้ำจึงแกล้งใช้สินีนุชไปออฟฟิศซึ่งอยู่ ห่างจากที่กองถ่ายมากจนสินีนุชไม่สบายใจเธอเตือนให้หอมน้ำระวังตัวจากพุธกันยา  แต่หอมน้ำเชื่อใจพุธกันยาว่าจะรักษาสัญญา  บ่ายวันนั้นหลังเลิกกองสมเจตน์เรียกหอมน้ำไปคุยเป็นการส่วนตัว  ทีมงานเข้าใจว่าสมเจตน์คงจะชวนเล่นละครเรื่องต่อไป  แต่ว่าเขาคุยกับหอมน้ำโดยเรียกชื่อเธอว่า กัลยาซึ่งเป็นชื่อจริงของพุธกันยา  ดาราสาวจึงต้องยอมรับความจริง  เย็นวันนั้นสมเจตน์พาพุธกันยาไปกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง  สมเจตน์ถามถึงชีวิตหลังความตายของพุธกันยาดาราสาวเล่าอย่างมีความสุขเธอดีใจที่กลับมามีตัวตนมีร่างกายมีลมหายใจอีกครั้ง  สมเจตน์แนะให้พุธกันยาอยู่ในร่างของหอมน้ำต่อไปเขาจะช่วยเธอเองด้วยการส่งสินีนุชเข้าไปทำงานในออฟฟิศพุธกันยาจะได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวให้สมความคิดถึง  ในตอนแรกพุธกันยาปฏิเสธแต่เมื่อเห็นบุรีพา ขวัญอนงค์ มากินข้าวที่ร้านเดียวกันด้วยท่าทางสนิทสนม  บุรีใส่ใจดูแลขวัญอนงค์อย่างสุภาพ  แต่เป็นเพราะพุธกันยาทนไม่ได้เธอหึงจนระงับอารมณ์แทบไม่อยู่เธอเสียใจที่สามีลืมเธอแล้ว  สมเจตน์ได้โอกาสจึงพูดว่าถ้า   พุธกันยายังอยู่บุรีคงไม่เป็นอย่างนี้  พุธกันยากลับหอพักของหอมน้ำเธอฝืนใจรับโทรศัพท์จากสินีนุชหลังจากกระหน่ำโทรหลายครั้งเพื่อไม่ให้สงสัย  เธอคิดหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องที่ละครใกล้จบลงโอกาสที่เธอจะได้อยู่ใกล้บุรีและศวัสก็น้อยลงด้วย  นอกเสียจากทำตามคำแนะนำของสมเจตน์ พุธกันยาตัดสินใจว่าจะแย่งบุรีกลับมา  เธอไปหาเขาที่บ้านซึ่งเป็นบริษัทสร้างศิลป์๒๐๐๐ เพื่อบอกเขาเรื่องนี้  สมเจตน์ดีใจมากคุยกันสักครู่พุธกันยาก็กลับไป  เขารักพุธกันยาและรักมาจนถึงทุกวันนี้ ที่ภรรยาขอหย่าก็เพราะเธอรู้ว่าเขาไม่มีใจรักเธอเลยใจของเขารักพุธกันยาคนเดียว  สมเจตน์วางแผนทันทีเขาจะช่วยพุธกันยาครองร่างของหอมน้ำให้เธอพยายามบอกบุรีและศวัสเขามั่นใจว่าบุรีคงไม่เชื่อ  จากนั้นเขาจะค่อยๆใช้ความรักที่เขามีต่อเธอมากมายดึงพุธกันยาให้มาอยู่ด้วยกัน  สมเจตน์ไม่สนใจว่าเธอจะอยู่ในร่างใครขอเป็นเพียงวิญญาณของพุธกันยาก็พอแล้ว

     วันต่อมาพุธกันยาในร่างหอมน้ำแต่งตัวสวยหวานมาที่บ้านบุรี  เธอซื้อขนมซึ่งเป็นของโปรดของบุรีกับศวัสมาให้พร้อมด้วยต้นมะลิที่พุธกันยาชอบมาก  นอกจากนั้นยังมีของสดอีกหลายอย่างเธอบอกบุรีว่าจะมาทำกับข้าวให้กิน  บุรีและศวัสแปลกใจกับท่าทางแปลกๆของหอมน้ำ  เธอเข้าครัวทำกับข้าวอย่างคุ้นเคย  พอดีว่าขวัญอนงค์ก็ทำกับข้าวมากินกลางวันที่นี่ตามคำชวนของบุรีด้วย        พุธกันยาอารมณ์เสียคอยหาเรื่องแขวะขวัญอนงค์ตลอดเวลาเธอลืมไปว่าเธออยู่ในร่างของหอมน้ำ  ส่วนศวัสสังเกตว่าหอมน้ำสนใจพ่อของเขาจนเกินงาม  คำพูดของเธอแปลกๆราวกับกำลังหึงหวงพ่อของเขากับขวัญอนงค์  ค่ำแล้วเมื่อศวัสไปส่งหอมน้ำที่หอพักระหว่างอยู่ในรถเธอก็พูดถึงความสุขถ้าจะได้อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวเดียวกัน  ส่วนสินีนุชเป็นห่วงหอมน้ำที่ไม่ค่อยยอมรับโทรศัพท์จากเธอ ไม่ยอมมาพบเหมือนเดิมเธอจึงมาดักรอที่หอพักรอจนศวัสกลับไปจึงตรงเข้าไปดึงแขนหอมน้ำไว้ไม่ให้กลับขึ้นไปบนห้อง  พุธกันยาตกใจที่พบสินีนุชเพียงพูดกันคำสองคำสินีนุชก็จับพิรุธพุธกันยาได้  หญิงสาวทวงร่างเพื่อนจากวิญญาณพุธกันยาเธอหยิบสร้อยพระในเป้ขึ้นมา  พุธกันยาวิ่งหนีสินีนุชวิ่งตามกระโดดคว้าร่างเพื่อนจนล้มไปกลิ้งลงป่าหญ้าข้างทางด้วยกัน  สินีนุชโกรธมากปีนขึ้นคร่อมร่างเพื่อนพลางเอะอะโวยวายทวงร่างหอมน้ำกับพุธกันยา  วิญญาณดาราสาวในร่างหอมน้ำสู้ไม่ได้  สินีนุชจึงสวมสร้อยพระให้เพื่อนทันที   พุธกันยาทิ้งร่างหอมน้ำหนีแทบไม่ทัน   สินีนุชประคองร่างเพื่อนที่หมดสติอยู่ในอ้อมแขนพยายามเรียกให้เธอรู้สึกตัว  หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อศวัสถามสินีนุชหน้าเครียดว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งที่ยืนฟังอยู่นานได้เห็นเหตุการณ์และได้ยินคำพูดทุกคำแต่มันยากที่จะเชื่อ   สินีนุชขอร้องให้พาหอมน้ำกลับไปพักที่คอนโดของเธอก่อนแล้วจะเล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง

     ระหว่างที่หอมน้ำนอนหมดสติสินีนุชเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ศวัสฟังอย่างละเอียด ชายหนุ่มคิดถึง คำพูดของหอมน้ำวันที่มาพบเขาที่โรงพยาบาล  และท่าทางของเธอที่มีต่อพ่อของเขาในลักษณะหึงหวง ศวัสเสียใจที่ไม่เชื่อหอมน้ำตั้งแต่แรก  หญิงสาวหมดสติไปนานจนศวัสเป็นห่วงอยากจะพาเธอไปหาหมอแต่สินีนุชให้รออีกสักครู่  คราวนี้พุธกันยาสิงร่างหอมน้ำนานหลายวันคงต้องใช้เวลา หน่อยรอกันอีกพักใหญ่กว่าหอมน้ำจะรู้สึกตัวขึ้นมา  เธอแปลกใจที่พบศวัสอยู่ที่นี่  สินีนุชจึงต้องเล่าให้เพื่อนฟังอีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น  เธอให้หอมน้ำย้ายมาพักที่คอนโดโดยศวัสจะมาอยู่เป็นเพื่อนหลังเลิกงาน  หอมน้ำพูดไม่ออกเธอเสียใจที่พุธกันยาไม่รักษาสัญญา  เรื่องวุ่นวายมากขึ้นเมื่อเพลินพิศประสบอุบัติเหตุรถชนกลางดึก  เมื่อได้สติเธอก็บอกว่าเธอวิ่งหนีผีพุธกันยาที่ตามไปหลอกหลอนเธอถึงบ้านจนต้องวิ่งหนีเตลิดออกมาจนถูกรถชน  พุธกันยากลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง  ไม่กี่วันต่อมา       ขวัญอนงค์ซึ่งกำลังจะขับรถกลับบ้านหลังกองถ่ายเลิกกลางดึกเธอพบว่ามีคนกำลังใช้ก้อนหินก้อนใหญ่ขูดขีดรถของเธอขวัญอนงค์ร้องห้ามเสียงดัง  คนร้ายหันหน้ามาขวัญอนงค์จำได้ว่าเป็นใครเธอจึงโดนคนร้ายใช้ก้อนหินทุบที่ศีรษะจนหมดสติกว่าทีมงานจะมาพบคนร้ายก็หนีไปแล้ว  ขวัญอนงค์ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล  บุรีรู้ข่าวรีบตามมาเฝ้าเธอที่โรงพยาบาลอย่างห่วงใย

     วันรุ่งขึ้นหอมน้ำเตรียมตัวไปถ่ายละครซึ่งเหลือเพียงสองฉากโดยมีศวัสมาช่วยซ้อมบทให้  เธอรู้ข่าวขวัญอนงค์  เมื่อถึงกองถ่ายแล้วสมเจตน์สังเกตเห็นบุคลิกหอมน้ำที่เปลี่ยนไปการแสดงก็ไม่ดีเหมือนเดิม  เขารู้ว่าหอมน้ำได้ร่างคืนแล้ว  สมเจตน์มั่นใจว่าพุธกันยาอยู่แถวนั้นจึงหาทางช่วยจนหอมน้ำต้องถอดพระ  พุธกันยาเข้าสิงทันทีการแสดงผ่านไปอย่างราบรื่นหลังกองถ่ายเลิกทุกคนไปเยี่ยมขวัญอนงค์รวมทั้งพุธกันยาในร่างหอมน้ำด้วย  เธอเสียใจเมื่อเห็นบุรีนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียูที่ ขวัญอนงค์อยู่เพราะอาการโคม่า  ท่าทางเศร้าหมองของบุรีทำให้พุธกันยาเสียใจมาก  ศวัสตามมาที่โรงพยาบาลเพียงเห็นท่าทางของหอมน้ำที่พยายามปลอบใจบุรีเขาก็รู้ว่าร่างนั้นคือพุธกันยา  ชายหนุ่มอาสาไปส่งเธอที่ที่พัก  พุธกันยาหลงเชื่อไปกับเขาแต่โดยดี  ศวัสเตรียมสร้อยพระของเขาไว้แล้วเมื่อขับรถไปส่งหอมน้ำ  ระหว่างทางพุธกันยามีวามสุขและมีกำลังใจที่จะอยู่ในร่างหอมน้ำต่อไปเพื่อให้ได้ครอบครัวเธอกลับมา  แต่เมื่อศวัสเรียกเธอว่าแม่และขอร้องให้เธอคืนร่างให้หอมน้ำพุธกันยาเสียใจมาก  เธอฉวยโอกาสที่รถติดวิ่งหนีออกจากรถก่อนที่ศวัสจะทันได้สวมสร้อยพระให้เธอ

     พุธกันยาหนีไปหาสมเจตน์ที่บ้านเล่าความจริงให้เขาฟัง  สมเจตน์จึงให้เธอไปพักที่คอนโดมิเนียมของเขา  ดังนั้นเมื่อศวัสกับสินีนุชมาตามที่บริษัทสร้างศิลป์๒๐๐๐ ซึ่งเป็นบ้านของเขาด้วยจึงไม่พบพุธกันยาที่นั่น  สมเจตน์รอจนแน่ใจว่าศวัสไปแล้วเขาจึงไปหาพุธกันยาที่คอนโด เขาแปลกใจที่เธอนั่งดื่มเหล้าทั้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  สมเจตน์ตามไปนั่งดื่มด้วยเขาปล่อยให้พุธกันยาระบายความในใจที่เสียใจมากมายเมื่อเห็นบุรีเปลี่ยนไป  ก่อนที่จะบอกให้เธอรู้ว่าเขารักเธอรักมานานและเต็มใจที่จะอยู่กับเธอไม่ว่าจะอยู่ในร่างของใคร  เขาจะทำให้พุธกันยากลับมาโลดแล่นมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงอีกครั้งในร่างของหอมน้ำ  พุธกันยาได้แต่ขอบคุณในความรู้สึกดีๆที่เขามีให้เธอ  แต่เธอให้เขาได้เพียงความเป็นเพื่อนเท่านั้น  พุธกันยาออกจากที่นั่นทันที  สมเจตน์ปล่อยเธอไปเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียพุธกันยาก็ต้องให้เขาช่วยเธออยู่ดี

     วันต่อมาเยาวภาแปลกใจที่หอมน้ำมากดออดเรียกแต่เช้าทั้งที่กองถ่ายนัดบ่าย  แม่บ้านปล่อยหอมน้ำอยู่ตามลำพังเพราะสังเกตว่าเธอเป็นแขกพิเศษของบ้านนี้เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นคนพิเศษ ของบุรีและศวัสเท่านั้น   พุธกันยาในร่างหอมน้ำเดินดูทั่วบ้านเธอหยุดนิ่งที่หน้าภาพเขียนของตัวเองตรงผนังที่พักบันได  เธอยังจำบรรยากาศวันนั้นได้ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน  ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นบันไดต่อไปหญิงสาวก็ถูกใครคนหนึ่งผลักตกบันไดลงมาสลบอยู่ที่พื้น  กว่าที่ทีมงานจะมาพบเวลาก็ผ่านไปนานพอสมควร  ภิญโญรีบสั่งให้เรียกรถพยาบาลมารับหอมน้ำ  เยาวภากับพิไลแม่ครัวกองถ่ายซึ่งยืนหน้าซีดอยู่ในที่เกิดเหตุต่างก็โทษกันไปมาว่าเห็นอีกฝ่ายเป็นคนผลัก  พิไลพูดมั่นใจว่าเยาวภาโกรธที่หอมน้ำรู้ว่าเธอแอบเอาเสื้อผ้าของพุธกันยามาใส่รวมทั้งแอบเอาเครื่องประดับและเสื้อผ้าของพุธกันยาให้ญาติไปขายเสมอเลยเจตนาผลักหอมน้ำตกบันไดเพื่อปกปิดความผิด  เยาวภาปฏิเสธแต่ไม่มีใครเชื่อ   

     สมเจตน์โทรศัพท์มาจากโรงพยาบาลบอกกับภิญโญว่าขวัญอนงค์ฟื้นแล้วเธอบอกว่าคนร้ายคือพิไล  ทีมงานออกตามตัวพิไลแต่ไม่พบแล้ว  พิไลรีบกลับไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านและจดหมายปึกหนึ่งออกจากบ้านไปโดยไม่สนใจเสียงด่าของพ่อ เธอหนีไปเช่าโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งที่ต่างจังหวัดเพื่อซ่อนตัวก่อนหาทางหนีต่อไป พิไลหยิบจดหมายที่ถือมาเปิดออกอ่านอย่างไม่เบื่อ  จดหมายฉบับนั้นเป็นจดหมายของพุธกันยา พิไลเป็นเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัวเธอเป็นแฟนคลับของพุธกันยาจึงเขียนจดหมายหาดาราคนโปรด  พุธกันยาตอบจดหมายและให้กำลังใจพิไลตลอดมา  เมื่อพุธกันยาตายพิไลขาดกำลังใจเธอวาดหวังว่าจะเจอนางเอกหรือนักแสดงน้ำใจงามอย่างพุธกันยาบ้างจึงเข้ามาเป็นแม่ครัวในกองถ่ายเธอทำงานหลายแห่งมากแต่ก็ไม่เคยพบใครเหมือนพุธกันยาเลย  เมื่อเพลินพิศมีอาการผีพุธกันยาเข้าสิงเธอจึงเชื่อหมดหัวใจ  ขยันทำอาหารของโปรดของพุธกันยาไปให้เพลินพิศ   คืนที่เพลินพิศเกิดอุบัติเหตุก็เป็นเพราะพิไลแอบไปดักรอที่บ้านเพลินพิศ  เธออยากพูดคุยกับพุธกันยาอีกครั้งแต่กลับทำให้เพลินพิศกลัววิ่งหนีผีพุธกันยาจนโดนรถชน   สำหรับขวัญอนงค์และหอมน้ำต้องโดนทำร้ายเพราะคิดจะแย่งพลเรือตรีบุรีสามีของพุธกันยา  พิไลจะปกป้องทุกอย่างที่เป็นของรักของพุธกันยาไว้ให้ดีที่สุด  พิไลหนีไปไม่ได้ไกลเธอถูกตำรวจจับเย็นวันนั้นเอง

     หอมน้ำบาดเจ็บสาหัสยังไม่ได้สติศวัสเฝ้าอยู่ไม่ยอมห่าง  วิญญาณของพุธกันยาที่คอยเฝ้าอยู่ด้วยร้อนใจที่หอมน้ำไม่รู้สึกตัวเสียทีเธอรู้ว่าลูกชายรักหอมน้ำมากความทุกข์ใจของศวัสเป็นสิ่งที่เธอทนไม่ได้  พุธกันยารู้ว่าจะไปตามหอมน้ำได้ที่ไหน  เธอตามหอมน้ำที่ดินแดนรอยต่อของวิญญาณหรือผู้ที่รอความตายเธอพบหอมน้ำที่นั่นจริงๆ  พุธกันยารีบพาวิญญาณของหญิงสาวกลับเข้าร่างได้ทันเวลา  

     เวลาผ่านไปหอมน้ำออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว เธอขาหักต้องใช้ไม้ค้ำยันเพื่อหัดเดินศวัสคอยดูแลเธออย่างดี  เขาแสดงตัวเปิดเผยว่าเป็นคนรักของหอมน้ำ  หญิงสาวก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน แล้ววันที่พุธกันยาจะต้องจากไปตามทางของเธอก็มาถึง ศวัสบอกบุรีว่าความรักไม่ใช่การผูกมัด คำมั่นสัญญาไม่ควรจะเป็นพันธนาการล่ามอดีตและปัจจุบันไว้ด้วยกัน  แต่ควรจะเป็นอิสระต่อกันอยู่ด้วยกันด้วยความรัก  ความจริงและความเป็นธรรมชาติมากกว่า ศวัสพาหอมน้ำไปที่ห้องรับแขก เธอบอกว่าพุธกันยากำลังเดินมาหาศวัส  หญิงสาวถามพุธกันยาว่าต้องการใช้ร่างเธอหรือไม่ แต่พุธกันยาปฏิเสธ  เธอเข้าไปกอดลูกชายด้วยความรักบริสุทธิ์ของคนเป็นแม่ ศวัสแม้ไม่เห็นผู้เป็นแม่แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แทรกเข้ามาเต็มหัวใจ  เขาบอกเธอว่าเขารักแม่และจะไม่มีวันลืมแม่ของเขาแน่นอน  บุรีตามลงมาที่ห้องนั้นเป็นคนสุดท้าย  เขามองดอกมะลิที่อยู่ในพานเล็กๆ ลอยจากพานขึ้นมาหนึ่งดอกตรงมาที่เขา  บุรีรับมาใส่กระเป๋าเสื้อไว้รับรู้ได้ด้วยใจว่าพุธกันยาถือมาให้  เขาสัมผัสได้ถึงความเศร้า  ความรักและความอาลัยของพุธกันยา  บุรีบอกว่าเขาให้อิสระกับเธอจะไม่ให้คำมั่นสัญญาใดๆมาพันธนาการไว้ด้วยกันอีก  และเขาสัญญาว่าเขาจะไม่ลืมเธอและรักกัลยาของเขาตลอดไป  วิญญาณของพุธกันยาจึงจากไปตามวิถีทางของตนเองอย่างหมดห่วง เธอมั่นใจว่าขวัญอนงค์คงจะดูแลบุรีให้มีความสุขได้ดีเช่นกัน

     ที่ริมบ่อปลาหอมน้ำนั่งชะโงกหน้าเล่นกับปลาคาร์ฟอยู่ตามลำพัง  ศวัสรีบเข้าไปรั้งตัวเธอขึ้นก่อนที่จะหัวทิ่มลงไปในบ่อเพราะรู้นิสัยเธอดี  ศวัสสารภาพรักกับหอมน้ำเป็นความรักที่ไม่ผูกมัดแต่จะรักเธอไปทุกๆวัน  เขาสวมสร้อยคอประดับจี้มุกเม็ดเดี่ยวน่ารักให้หอมน้ำแล้วบอกว่ามุกเม็ดนี้ทำมาจากต่างหูที่พ่อของเขาทำให้ผู้หญิงที่รักมากก็คือแม่ของเขา   หอมน้ำกำจี้มุกไว้ปลื้มใจมากแต่อดถามไม่ได้ว่าเมื่อเคยเป็นต่างหูแล้วอีกเม็ดหนึ่งหายไปไหน  ศวัสบอกว่าเยาวภาเห็นหอมน้ำเก็บลงกล่องเครื่องประดับไปแล้ว   หญิงสาวอึ้งอยู่ครู่หนึ่งจึงคิดออกว่าเธอเก็บมุกเม็ดหนึ่งได้จากสนามหญ้าแล้วลื่นหกล้มหัวฟาดพื้นโดยกลืนมุกเม็ดนั้นลงคอไป  หอมน้ำรู้แล้วว่าทำไมเธอจึงสื่อสารกับพุธกันยาได้   ศวัสดึงหญิงสาวเข้ามากอดอย่างแสนรัก  เขาไม่คิดเลยว่าหอมน้ำสาวสวยจอมวุ่นและซุ่มซ่ามคนนี้จะเข้ามาเติมเต็มหัวใจที่อ้างว้างมานานของเขาได้  ศวัสมั่นใจว่าความรักของเขากับหอมน้ำจะมีความสุข ไม่ต่างจากพ่อและแม่ของเขา  แม้จะเป็นความรักที่ไม่มีคำมั่นสัญญาใดๆก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments