เรื่องย่อละคร "ตามรักคืนใจ"

เรื่องย่อละคร "ตามรักคืนใจ"

1

เรื่องย่อละคร "ตามรักคืนใจ"

     ความรัก...คือสิ่งที่เธอต้องการมาตลอดชีวิต...เมื่อความรักหล่นหายมานานสิบห้าปี มันก็ถึงเวลาแล้วที่เธอต้องทำทุกทางเพื่อ...ตามรักคืนใจ

     นารา วรรณพานิช หรือ หนูนา หลานสาวของนายวรรณ วรรณพาณิช ประธานธนาคารอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในวงการธุรกิจการเงินและสังคมว่าเป็นมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง เพราะฐานะที่ร่ำรวยทำให้นาราถูกเลี้ยงอย่างคุณหนู ไม่เคยหยิบจับอะไร และการใช้ชีวิตของเธอก็อยู่ในกรอบ มีระเบียบแบบแผนตามที่นายวรรณผู้เป็นตาวางไว้ คนภายนอกอาจอิจฉาที่นาราเป็นหลานสาวนายธนาคาร ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ได้เรียนในสถาบันการศึกษาที่ดี แต่ภายในตระกูลวรรณพานิช นาราเปรียบเสมือนลูกเป็ดขี้เหร่ตระกูล ไม่ใช่หงส์อย่างคนอื่น โดยมีลุงเอก พี่ชายของแม่ และป้าสะใภ้ทั้งสองที่เอาแต่ตั้งแง่รังเกียจนารา ถึงแม้เลือดในตัวครึ่งหนึ่งจะเป็นของวรรณพานิช แต่เลือดอีกครึ่งหนึ่งกลับเป็นของชาวสวนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า!

     เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน รัศมีแม่ของนาราซึ่งเป็นลูกสาวคนสุดท้องของนายวรรณ ได้พบรักกับรามหนุ่มชาวสวน ตอนนั้นรัศมีวาดฝันความรักของตัวเองเหมือนนิยายที่จะต้องแฮปปี้เอนดิ้ง คิดว่าการได้พบผู้ชายหน้าตาดี  เป็นชาวสวนแสนเท่จะทำให้เธอมีความสุข รัศมีตกหลุมรักรามตั้งแต่แรกเห็น ทว่ารามเจียมเนื้อเจียมตัวไม่กล้าเด็ดดอกฟ้า แต่ดอกฟ้าอย่างรัศมีกลับโน้มลงมาหา พยายามโปรยเสน่ห์ทำให้รามตกหลุมรักในที่สุด ความรักของรามและรัศมีสุกงอมในเวลารวดเร็วท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของคนในตระกูลวรรณพานิช โดยเฉพาะนายวรรณ ได้ห้ามลูกสาวอย่างเด็ดขาดแต่เมื่อคนอย่างรัศมีต้องการอะไรก็ไม่มีใครห้ามเธอได้

     ในวันที่รัศมีขนกระเป๋าออกจากบ้านเพื่อไปอยู่กับราม วรรณประกาศว่าถ้ารัศมีก้าวออกจากบ้านก็ห้ามกลับมาเหยียบที่บ้านอีก ด้วยความหลงที่บังตาทำให้รัศมีก้าวออกไปจากบ้านหลังนั้นโดยไม่หันกลับมา และไปใช้ชีวิตอยู่กับราม

     ชีวิตคู่ช่างแรกของรามและรัศมีเต็มไปด้วยความสุข รามทำทุกอย่างเพื่อให้รัศมีมีความสุข ทั้งสองมีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน นั่นก็คือนารา ทว่าชีวิตคู่คือความจริง เมื่อรัศมีผู้ใช้ชีวิตแบบคุณหนูมาอยู่อย่างลำบาก ส่วนรามก็ต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาปรนเปรอความฟุ่มเฟือยของรัศมี ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันมากขึ้น จากที่เคยพอใจชีวิตแบบชาวสวน รัศมีก็คิดถึงแสงสี เริ่มไม่พอใจกับชีวิตแสนธรรมดาอย่างที่รามชอบ และเป็นช่วงเดียวกับที่สวนของรามมีปัญหาทำให้ขาดทุนไม่มีรายได้ก้อนใหญ่เข้าประจวบเหมาะกับแม่ของรามที่ดูแลบ้านก็เสียชีวิต รัศมีที่ไม่เคยแตะงานบ้าง ก็ไม่คิดที่จะทำหน้าที่นั้น จนพ่อของรามทนไม่ไหวกับนิสัยของลูกสะใภ้ จึงบวชเป็นพระ ปล่อยให้ราม นาราและรัศมีอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก  จากที่เคยอยู่สบาย รัศมีก็เริ่มรู้สึกว่าชีวิตของเธอลำบากเหลือเกิน

     เด็กหญิงนาราใช้ชีวิตแบบเด็กในสวนในไร่ทั่วไป มองเห็นพ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำ หน้าที่การดูแลนาราก็เป็นของราม รัศมีไม่เคยหยิบจับอะไรเลย  เด็กหญิงนารามีความสุขตามประสาเด็ก แต่แล้วความสุขของนาราก็หายไปเมื่ออายุห้าขวบ วันหนึ่งรัศมีบอกกับนาราว่าพ่อของเธอได้ตายไปแล้ว ทำให้นาราเสียใจอย่างหนัก รัศมีทิ้งบ้านสวนและพานารากลับมาที่บ้านวรรณพานิช ตอนแรกวรรณไม่ยอมรับนารา แต่เพราะนารามีใบหน้าที่คล้ายกับภรรยาที่เสียไปทำให้วรรณค่อยๆ ลดทิฐิและยอมให้นาราเข้ามาอยู่ในบ้าน โดยวรรณยื่นข้อแม้ว่าหลานสาวคนนี้เขาจะเลี้ยงด้วยมือตัวเองซึ่งรัศมีที่ชอบชีวิตที่มีอิสระ ตกลงอย่างง่ายดาย และวรรณก็ทำให้นาราได้ใช้นามสกุลวรรณพานิชแทนนามสกุลของราม   

     เหตุผลที่วรรณอยากเลี้ยงหลานคนนี้ด้วยตัวเองก็เพราะ วรรณไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแบบลูกสาว ที่เอาแต่ใจตัวเอง ทำอะไรไม่ยั้งคิดจนสร้างเรื่องเดือดร้อนเป็นประจำ วรรณเลี้ยงดูนาราให้อยู่ในกรอบ มีระเบียบ และกระทำทุกอย่างตามสิ่งที่ดีและสมควรทำ ซึ่งนาราก็ไม่ได้ทำให้วรรณผิดหวัง

     เวลาผ่านไปไม่ว่าจะกี่ปีเลือดอีกครึ่งหนึ่งในตัวของนาราที่มาจากพ่อที่เป็นชาวไร่ชาวสวน ทำให้นาราถูกกระแหนะกระแหนจากป้าสะใภ้ทั้งสองนั่นคือ เพชรสี ภรรยาของลุงเอกชาติ และชไมพร ภรรยาของลุงโทณรงค์ ถึงชาติกำเนิดของเธอเป็นประจำ และพฤติกรรมของรัศมีที่ตอนนี้เป็นสาวสังคมที่นิยมการแต่งตัวและใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ คิดว่าตัวเองเป็นหงส์ผู้สง่างามเพราะความสวยของเธอยังเฉิดฉายและทำให้คนสนใจได้เสมอ รัศมีคบผู้ชายมากหน้าหลายตาและสร้างความวุ่นวายให้กับวรรณเป็นประจำ ทำให้บรรดาญาติและวรรณไม่ชอบใจนัก แต่รัศมีก็หาได้สนใจไม่ เมื่อไม่พอใจแม่ นาราจึงกลายเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ที่ต้องรับคำนินทาของคนอื่นเอาไว้

 

     อดิสร ลูกชายของ พ่อเลี้ยงศักดา ผู้มีอิทธิพลทางภาคเหนือซึ่งทั้งสองพ่อลูกเข้ามาตีสนิทกับพี่ชายของรัศมีเพราะอยากกู้เงินทุนจากวรรณเพื่อไปทำธุรกิจรีสอร์ทและโรงแรมที่ภาคเหนือ  แต่วรรณรู้ทันว่าอดิสรและพ่อเลี้ยงศักดาทำธุรกิจผิดกฎหมายจึงปฏิเสธไป  

     เมื่อนาราอายุครบยี่สิบเอ็ดปี เรียนจบจากปริญญาตรีจากสถาบันชื่อดัง กำลังเตรียมตัวไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจุฑารัตน์เพื่อนสนิทที่เป็นนักข่าวให้ดูรูปในการสกู๊ปข่าวที่ ไร่สัตตบุษย์  นาราเห็นคนงานในภาพมีรูปร่างหน้าตาเหมือนพ่อที่ตายไป และเมื่อกลับบ้านก็ได้เห็นจดหมายฉบับหนึ่งที่จ่าหน้าซองส่งมาถึงรัศมีเป็นประจำแต่รัศมีก็ไม่เคยสนใจจะเปิดอ่าน  นาราเปิดอ่านก็พบว่าเป็นจดหมายจากพ่อ นาราจึงไปถามแม่ จนในที่สุดความจริงก็เปิดเผยว่าพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่

     นาราต้องการที่จะไปพิสูจน์ว่า ผู้ชายที่เห็นในรูปคือพ่อหรือไหม  เธออยากรู้ว่าทำไมตลอดเวลาที่ผ่านมาสิบห้าปี พ่อถึงออกจากชีวิตเธอ ทำไมพ่อถึงทิ้งเธอไป และยังมีหลายคำถามที่เธอต้องการคำตอบ เธอขออนุญาตกับวรรณว่าจะใช้เวลาช่วงที่เหลือก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาไปตามหาพ่อ ซึ่งวรรณนั้นไม่อยากให้หลานสาวได้พบกับพ่อ เพราะมีความจริงบางอย่างที่เขาปิดบังนาราไว้ และความจริงนี้อาจทำให้นาราเสียใจมาก เหตุผลอีกอย่างคือวรรณกลัวจะเสียหลานสาวที่ตัวเองเลี้ยงดูราวกับลูก ไปให้กับราม แต่เมื่อนารายืนยันว่าเธอต้องการคุยกับพ่อในฐานะลูก และจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เธอยังเป็นหลานตาคนเดิม และเดินทางไปเรียนต่ออย่างที่ได้วางแผนเอาไว้ นาราโน้มน้าวด้วยการบอกว่า

     วรรณก็เคยเป็นพ่อ น่าจะเข้าใจหัวอกพ่อดี วรรณรู้นิสัยหลานสาวที่ตนเลี้ยงมากับมือว่าถ้านาราต้องการทำอะไร ไม่มีอะไรมาห้ามได้ วรรณจึงปล่อยให้นาราไปเผชิญกับความจริงที่รออยู่

     การเดินทางไปไร่สัตตบุษย์ครั้งนี้ รัศมีไม่เห็นด้วย เพราะมันเป็นการขุดอดีตที่เหมือนขยะขึ้นมาส่งกลิ่นเหม็น อดีตที่จะประจานให้เธอกลายเป็นหงส์ปีกหักและอาจไม่มีที่ยืนในสังคมได้สวยงามเหมือนเดิม รัศมีขู่ว่าถ้านาราออกจากบ้านไปตามหาพ่อก็ไม่ต้องกลับมาอีก แต่นาราไม่สนใจ เดินออกจากบ้านเพียงกระเป๋าเสื้อผ้าและเงินไม่กี่บาท รัศมีตัดช่องทางการให้เงินของนาราทุกอย่าง ยึดรถ ตัดบัตรเครดิต ยกเลิกบัตรเอทีเอ็ม ทำให้นาราต้องเดินทางอย่างลำบาก แต่อุปสรรคเท่านี้ไม่ได้ทำให้นาราล้มเลิกความตั้งใจ เธอเดินทางไปยังไร่สัตตบุษย์ด้วยการขอข้อมูลจากจุฑารัตน์ เพื่อนสาวคนสนิท แต่ก็ไม่บอกเพื่อนว่าเดินทางไปทำไม

 

     เมื่อถึงไร่สัตตบุษย์หรือที่ชาวบ้านรู้จักในชื่อว่า ‘ไร่บัวขาว’ นาราสลัดคราบคุณหนูหลานสาวมหาเศรษฐีกลายเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา วันแรกที่เหยียบไร่บัวขาวด้วยความหิวจากการเดินทางที่ลำบากทำให้เธอหมดแรง เธอได้รับความช่วยเหลือจากสีหนาท หรือที่ชาวไร่เรียกว่า นายสิงห์ เจ้าของไร่บัวขาว แต่อะไรไม่ทำให้เธอตื่นเต้นเท่ากับการที่นาราลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นคนที่มากับสีหนาท...ใบหน้าที่เธอไม่เคยลืม ใบหน้าของราม พ่อของเธอนั่นเอง!

     เมื่อได้พบหน้าราม จากความตั้งใจที่อยากจะถามสิ่งที่คาใจ พอเห็นรามเปลี่ยนไปมาก ความกลัวทำให้เธอไม่กล้าแสดงตัวว่าเป็นลูกสาวของพ่อ กลัวว่าพ่อจะไม่ยอมรับ พอนายสิงห์ถามว่าเธอชื่ออะไร และเข้ามาในไร่ทำไม นาราจึงบอกว่าตัวเองชื่อหนูนาและอยากจะมาสมัครเป็นคนงานในไร่บัวขาว

     สีหนาทสำรวจรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณของนาราที่บอบบางเกินกว่าจะเป็นสาวชาวไร่ บอกว่าอย่างนาราน่าจะเหมาะกับงานโรงแรมซึ่งเป็นธุรกิจอีกอย่างของสีหนาทมากกว่า แต่นาราปฏิเสธบอกว่าเธออยากเป็นชาวไร่ เพราะความสงสัยและแรงดึงดูดบางอย่างจากนัยน์ตากลมๆ ที่มองอย่างอ้อนวอนทำให้สีหนาทปรึกษารามที่เป็นหัวหน้าคนงานว่าในไร่บัวขาวมีตำแหน่งงานว่างไหม ตัวรามเองก็รู้สึกถูกชะตากับหนูนาก็ลองหาตำแหน่งว่างให้

     เมื่อสีหนาทเจ้าของไร่อนุญาตให้นาราได้ทำงานที่ไร่บัวขาวเธอจึงใช้ชื่อในการทำงานว่า หนูนา ทองการค้า แต่นาราไม่สามารถเปิดเผยบัตรประชาชนได้จึงบอกว่าลืมบัตรประชาชนไว้ที่กรุงเทพ ปิดบังสิ่งที่ชี้ว่าตัวเองเป็นใคร และนำที่อยู่ของจุฑารัตน์มาเป็นที่อยู่อ้างอิง การที่นาราปิดบังตัวจริงเอาไว้ก็ทำให้รามและสิงหนาทที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของนาราอดสงสัยไม่ได้ว่านาราเป็นใครและเข้ามาในไร่เพราะอะไร เพราะในไร่บัวขาวมักจะมีหนอนบ่อนไส้เข้ามาในไร่เพื่อขโมยไม้สัก

 

     รามให้นาราไปพักกับคนงานที่ชื่อแป้น ซึ่งแป้นเองก็ดูแลนาราและคอยสอนงานไร่ให้กับนารา นาราสอบถามข้อมูลเกี่ยวราม จึงได้รู้มาว่าตอนนี้รามอยู่คนเดียว ไม่มีครอบครัว นาราคิดช่วงนี้จะต้องหาทางใกล้ชิดกับพ่อให้เร็วที่สุดและเปิดเผยว่าตัวเองเป็นใคร

     การทำงานเป็นชาวไร่วันแรกของนาราเต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะนาราไม่เคยทำงานหนัก ไม่เคยต้องทำงานกลางแดด สีหนาทเองก็จับตาดูนาราด้วยความสงสัยแต่พอเห็นนารากำลังจะเป็นลมเพราะแดดที่แรง ก็สละหมวกประจำตัวให้ แสดงความเอื้ออาทรจนคนงานคนอื่นต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน โดยเฉพาะ พวง คนงานหญิงที่พยายามยั่วยวนนายสิงห์มานานแต่นายสิงห์ไม่ชายตาแล  ยิ่งรามแสดงความห่วงใยนาราอีกคน พวงเลยแสดงความอิจฉาริษยากับนาราชัดเจนด้วยการพูดจากระทบกระเทียบนาราตลอดเวลา แต่แป้นก็คอยปกป้องนาราเอาไว้

     นาราที่ไม่เคยจับจอบและไม่เคยทำงานหนัก เมื่อต้องลงมือทำ ทำให้มือของนาราเป็นแผล นาราเลยถูกสั่งให้ไปทำงานอื่นแต่ก็ทำงานผิดพลาดจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้คนงานต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาจนโมโหนารา แต่แป้นก็คอยปลอบใจว่าคนงานทุกคนโมโหเพราะหิว พอหายหิวก็ดีขึ้น แต่การทำงานพลาดคราวนี้พวงก็ซ้ำเติมนาราเต็มที่

     สีหนาทคิดว่านาราไม่เหมาะสมกับงานที่ไร่บัวขาว และสงสัยว่าก่อนหน้านี้นาราทำงานอะไร นาราเลยโกหกว่าก่อนหน้านี้ทำงานเป็นแม่บ้าน ไม่เคยทำงานไร่มาก่อน แต่ใฝ่ฝันว่าอยากทำงานไร่เลยเดินทางมาที่ไร่บัวขาว แต่สีหนาทไม่เชื่อนาราเท่าไร แต่ก็ทำเป็นเออออรับทราบ พยายามจะให้นาราไปทำงานที่โรงแรมที่มีขนิษฐาลูกพี่ลูกน้องของสีหนาทดูแลอยู่แต่นาราปฏิเสธเสียงแข็ง

     ขนิษฐา  มีความเห็นเหมือนกันสีหนาทว่านาราเหมาะกับงานโรงแรมที่เธอเป็นคนดูแลอยู่มากกว่า แต่เมื่อเห็นนาราอยากทำงานในไร่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สิ่งที่น่าสงสัยคือท่าทางของสีหนาทที่ดูสนใจนาราเป็นพิเศษและรามเองก็ดูเอ็นดูนารามาก ท่าทางของรามทำให้ขนิษฐาที่หลงรักน้ารามข้างเดียวรู้สึกน้อยใจราม ที่เขาสนใจนาราแต่ไม่เคยสนใจเธอเลย

 

     วันหยุดนาราไม่ยอมเข้าเมืองเหมือนคนงานคนอื่น เธอไปหารามที่บ้านพัก เพราะอยากอยู่ใกล้พ่อ เธอพยายามหาโอกาสที่จะคุยกับรามเรื่องของเธอกับเขา แต่ขนิษฐาเข้ามาขัดจังหวะ บอกว่าอยากจะพานาราไปดูงานที่โรงแรมเผื่อนาราจะเปลี่ยนใจไปทำงานที่โรงแรมมากกว่าที่ไร่  ใจจริงขนิษฐาอยากจะแยกนาราให้อยู่ห่างจากราม เพราะไม่ชอบใจเมื่อเห็นท่าทางสนิทสนมของทั้งสองคน

     เมื่อไปถึงโรงแรมขนิษฐาพานาราดูโรงแรมนาราก็ต้องรีบซ่อนตัวเมื่ออดิสรมาหาขนิษฐา นารากลัวว่าอดิสรเจอเธอและทำให้ความลับที่ซ่อนเอาไว้แตกออกมา ตอนนั้นสีหนาทและรามมาโรงแรม พอทราบว่าอดิสรมาหาขนิษฐา สีหนาทก็โมโหและตามเข้าไปไล่อดิสรออกมาและขู่ไม่ให้อดิสรมายุ่งกับขนิษฐาอีก อดิสรโมโหและฝากเอาไว้ก่อน ทำให้นารารู้ว่าสีหนาทกับอดิศรไม่ถูกกัน และทำให้นาราได้รู้ว่าอดิศรและพ่อเลี้ยงศักดาทำธุรกิจผิดกฎหมายและค้าไม้เถื่อน

     การทำงานในไร่ของนาราเริ่มต้นอีกครั้ง ทว่าในคราวนี้นาราได้ไปทำงานในโรงครัว วันแรกๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร นาราทำงานได้ดี จนวันหนึ่งนาราได้ทำหน้าที่หุงข้าวเพราะนาราไม่เคยหุงข้าวทำให้โรงครัวไหม้ เกิดความเสียหายอย่างหนัก และมื้อนั้นคนงานเลยต้องหิวท้องรอหลายชั่วโมงเพื่อให้แม่ครัวหุงข้าวหม้อใหม่  ความเสียหายครั้งนี้ใหญ่จนสีหนาทต้องเรียกตัวนารามาพบอีกครั้ง ตอนแรกนาราคิดว่าเขาจะไล่เธอออก แต่สีหนาทกลับบอกว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปนาราจะต้องมาทำงานที่เรือนใหญ่ มาอยู่ใกล้ตาเขาเพื่อจะได้ไม่ไปทำความเดือดร้อนที่ไหนอีก

     การที่นาราไม่ถูกไล่ออก แถมยังได้ไปทำงานที่เรือนใหญ่ ทำให้คนงานวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากโดยมีพวงเป็นแกนนำ แต่ก็มีแป้นคอยขัดขวางพวงไม่ให้พูดสนุกปากเกินไป การที่นาราได้ทำงานที่เรือนใหญ่ งานที่นาราได้ทำก็คืองานถูพื้น โดยมีนายสิงห์มาคุมด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นสิงหนาทก็ให้คนไปตามสืบเรื่องของหนูนา ทองการค้า ว่าเป็นใครมาจากไหน ทำไมถึงได้อยากใกล้ชิดรามมากจนทำให้เขาเข้าใจผิดว่านาราต้องการปั่นหัวราม  แต่นาราก็ยืนยันหนักแน่นว่า รักน้ารามเหมือนพ่อคนหนึ่งเท่านั้น เพียงแค่ได้ยินว่านาราคิดกับน้ารามแบบพ่อ สิงหนาทก็อารมณ์ดีและสบายใจมาก

 

     นาราได้เลื่อนตำแหน่งจากแม่บ้านกลายเป็นผู้ช่วยของสิงหนาท ซึ่งความคล่องแคล่วในการทำงาน ทั้งด้านการจัดการเรื่องเอกสาร ความสามารถทางด้านภาษาของนาราทำให้สิงหนาทสงสัยว่านาราเป็นใครกันแน่ จนในที่สุดความจริงก็ปรากฏเมื่อคนของเขารายงานว่า หนูนา ทองการค้า ไม่มีตัวตน ทองการค้าเป็นนามสกุลของจุฑารัตน์ และที่อยู่ที่ให้ไปเป็นของจุฑารัตน์เช่นกัน เมื่อสืบต่อไปเรื่อยๆ ก็พบว่าหนูนาที่ใกล้ชิดกับจุฑารัตน์มีเพียงหนูนา หรือคุณนารา วรรณพานิชเท่านั้น และเมื่อสิงหนาทตามสืบเมื่อนาราใช้โทรศัพท์ของร้านค้าโทรกลับไปหาวรรณเพื่อแจ้งให้คุณตาทราบว่าขอเวลาในการทำความเข้าใจกับพ่อสิบวัน ซึ่งวรรณก็เข้าใจหลานและให้เวลาหลาน เขาเชื่อในตัวนาราว่าถ้าสัญญาอะไรแล้วจะทำตามสัญญา ผิดกับรัศมีเมื่อรู้ว่านาราอยู่ใกล้กับรามก็โมโหวรรณที่ปล่อยให้นาราไปตามหาราม ต่อไปต้องเกิดเรื่องเดือดร้อนกับรัศมีแน่นอน วรรณบอกว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด และนาราเหมือนกับรัศมีที่ถ้าจะทำอะไรแล้วก็ห้ามไม่ได้ สู้ให้นาราทำอะไรอยู่ในสายตาดีกว่าให้นาราหนีไป แล้วไม่รู้ความเคลื่อนไหว

     ในขณะนั้นอดิศรกำลังวางแผนการร้ายกับไร่บัวขาว เขาส่ง เรือง เข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้ในคราบของคนงานและเรืองก็เป็นแฟนของพวง คอยจับตาความเคลื่อนไหวของสิงหนาทเพื่อรายงานให้อดิศรให้ทราบว่าไร่บัวขาวจะทำการตัดไม้และขนไม้เมื่อไหร่จะได้ทำการปล้นไม้มาเป็นของตัวเองซึ่งเรื่องการปล้นไม้และสถานการณ์เกี่ยวกับไม้สัก  สิงหนาทได้ถ่ายทอดให้นาราฟัง เพื่อให้ระวังในการทำงานมากขึ้น

     เมื่อนาราได้กลายเป็นเป็นผู้ช่วยของสิงหนาท เธอก็ต้องตามนายสิงห์เป็นเงาตามตัว หลังจากที่สิงหนาททราบว่านาราเป็นใครและมาที่ไร่บัวขาวเพื่อตามหาราม เขาก็เก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับและดูว่านาราจะทำอย่างไรต่อไป  ระหว่างนั้นทั้งนาราและสิงหนาทก็ประสบอุบัติเหตุจนรถไม่สามารถขับต่อจนต้องทิ้งรถไว้ ทั้งสองลงจากรถ หลบไปอยู่ข้างทาง รถของอดิสรขับผ่านมาเห็นรถสีหนาทจอดอยู่ จึงยิงปืนใส่ด้วยความสะใจ เหตุการณ์นั้นทำให้นาราตกใจมาก เพราะถ้าเธอกับเขาอยู่บนรถอาจถูกยิงไปแล้ว สีหนาทปกป้องนารา ทำให้นาราอุ่นใจและรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีสิงหนาทอยู่ใกล้

     ขนิษฐาเป็นห่วงสิงหนาทที่หายไปกับนาราทั้งคืนเลยขอให้รามตามหาสิงหนาท รามรับปากว่าจะตามหาสิงหนาท คอยปลอบไม่ให้ขนิษฐาตกใจ ในช่วงเวลาที่ขนิษฐาต้องการที่พึ่ง รามมักจะทำให้ขนิษฐาอุ่นใจเสมอ แต่ด้วยอายุที่ห่างกันและความเจียมเนื้อเจียมตัวของรามทำให้ขนิษฐาไม่สามารถแสดงออกความรักของตัวเองออกมาได้ จึงได้แต่เฝ้ารักและแอบมองเขาอยู่แบบนี้

 

     รามตามหาสิงหนาทและนาราเจอตอนเช้า เหตุการณ์ที่รถของสิงหนาทถูกยิงทำให้สารวัตรกชเข้ามาตรวจสอบ แต่สิงหนาทให้นาราปิดไว้เป็นความลับ ใครถามอะไรก็บอกว่าเป็นการยิงผิดตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอดิสรเพราะถ้าอดิสรส่งหนอนบ่อนไส้เข้ามาจะได้ไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น

     การหายตัวไปของสิงหนาทและนาราทำให้คนงานในไร่สนใจ แต่นาราก็บอกคนงานแต่เพียงว่าเกิดอุบัติเหตุทว่าพวงกับใส่สีตีข่าวอย่างสนุกปาก แต่คราวนี้นาราไม่ยอมเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเป็นความตายของเธอกับสิงหนาท การลุกขึ้นมาโต้ตอบคราวนี้ทำให้พวงได้เห็นว่านาราไม่ใช่คนยอมคนและยอมล่าถอยไป

     ภาพความห่วงใยของรามที่มีต่อนารากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ขนิษฐาไม่พอใจ แต่ก็เก็บความรู้สึกเอาไว้และสิ่งที่ขนิษฐาทำได้ก็คือการหลบหน้าราม แต่รามกลับทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิมนั่นก็คือการไปรับไปส่งขนิษฐาจากโรงแรมกลับมาที่ไร่ แม้ขนิษฐาจะพยายามหลบหน้าแต่รามกลับเข้ามาวนเวียนกับขนิษฐามากขึ้นจนหญิงสาวทนไม่ได้ระเบิดอารมณ์ใส่ราม บอกความรู้สึกที่มีต่อรามออกไปว่าเธอรักราม รักมานาน แต่ว่ารามไม่เคยสนใจเธอเลย รามที่รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยไม่มีค่า อดีตที่ผ่านมาทำให้เขาคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสมกับใครเลย แต่ขนิษฐากลับมองว่ารามต่างหากที่อยู่ห่างจากเธอ อยู่ไกลเกินเอื้อม และตัวเธอเองที่ไม่มีค่าอะไรเลย รามที่มีอดีตอันเจ็บปวดไม่สามารถบอกความจริงกับขนิษฐาได้ จึงได้แต่นิ่งเงียบ และลึกๆ ในใจของรามเขายังมีความรู้สึกว่ายังมีโซ่ที่ยึดไว้กับอดีต และยังมีพันธะอยู่กับรัศมี ทำให้เขาไม่มีอิสรภาพในการที่จะเปิดใจรับใครได้ไหม แต่การระเบิดอารมณ์ของขนิษฐา สิงหนาทก็เห็นและรับรู้ทุกอย่าง เขาพยายามบอกกับรามว่าจริงๆ แล้ว รามเป็นคนมีค่าสำหรับเขาและน้องสาว  สิงหนาทไม่เคยรังเกียจรามและเขาก็รู้อดีตของรามมาตลอด พยายามบอกให้รามปลดปล่อยตัวเองจากอดีตเพื่ออยู่กับปัจจุบัน

 

     สิงหนาทที่รู้ความลับของนาราว่าเป็นลูกสาวของราม ก็คอยดูแลนาราว่าจะทำอย่างไรต่อไป และเขาก็แสดงออกชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรกับหญิงสาว ซึ่งตัวเองนาราเองก็รู้สึกดีเมื่ออยู่ใกล้กับสิงหนาท ส่วนขนิษฐา พยายามอยู่ห่างจากรามด้วยการไปค้างคืนที่โรงแรมบ้าง กลับดึกบ้าง เมื่อใจอ่อนแอ ร่างกายของขนิษฐาก็อ่อนแอตามไปด้วย

     สารวัตรกชแจ้งว่าสายของเขารายงานมาว่าอดิสรจะทำการขนไม้เถื่อน ตำรวจได้วางแผนจับกุม สิงหนาทและรามที่ชำนาญพื้นที่จึงขอไปช่วยราชการในการนำทางไปให้ และนาราก็รู้เรื่องนี้โดยบังเอิญ เธอพยายามห้ามสิงหนาทและรามไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องอันตราย แต่ทั้งสองคนก็ไม่ฟัง นาราจึงได้แต่รอคอยอย่างร้อนรน

     การจับกุมอดิสรและพวก เป็นไปอย่างยากลำบาก มีการต่อสู้ด้วยปืน ฝ่ายตำรวจและอดิศรตอบโต้กันไปมา จนรามถูกยิงได้รับบาดเจ็บและอดิสรหนีไปได้ คืนนั้นนาราที่รอคอยการกลับมาของสิงหนาทและรามด้วยใจที่ไม่เป็นสุข

     และเมื่อสิงหนาทกลับมาคนเดียวก็ยิ่งทำให้นาราร้อนใจ พอถามเขา เขาก็บอกนาราว่ารามเจ็บหนัก จนนาราไม่สามารถควบคุมสติตัวเองจนบอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวของน้าราม สิงหนาทที่ได้ยินความจริงจากปากนาราก็เฉลยว่า

รามไม่ได้เป็นอะไรมาก และเขาก็รู้ว่านาราเป็นใครมานานแล้ว เพียงแต่รอให้นาราบอกกับเขาเท่านั้นเอง พอนารารู้ว่าถูกหลอกก็งอน แต่ประหลาดใจมากกว่าก็ที่สิงหนาทรู้ว่าเธอเป็นใคร  สิงหนาทเลยบอกว่านาราเป็นคนโกหกไม่เป็น มีพิรุธจนเขาสงสัย แต่เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกราม อยากให้นาราเข้าไปคุยกับรามด้วยตัวเอง

     สิงหนาทให้กำลังใจนาราที่จะเข้าไปเปิดเผยตัวเองกับรามว่าเป็นใคร นาราอุ่นใจที่มีเขาเป็นกำลังใจ และก่อนที่จะเข้าไปคุยกับราม นารากลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างสิงหนาทกับเธอจะเปลี่ยนไปเมื่อความจริงเปิดเผยทุกอย่าง สิงหนาท

     บอกว่าเขาเป็นเหมือนเดิม อยู่ที่ว่านาราจะให้ทุกอย่างเป็นไปแบบไหน เขาตามใจเธอ นาราจึงบอกว่าเธออยากเป็นหนูนา ทองการค้า มากกว่า นารา วรรณพานิช สิงหนาทบอกว่าไม่ว่าเธอเป็นใครเขาก็รัก...

     นาราร่วมรวมความกล้าตัดสินใจเปิดเผยว่าตัวเองเป็นกับราม ด้วยการเล่าให้ฟังเรื่องในอดีตระหว่างที่เธอกับพ่อใช้ชีวิตสมัยที่อยู่บ้านสวนด้วยกัน รามนิ่งไป ไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าหนูนาที่อยู่ตรงหน้าคือยัยหนูของเขา นาราทวงถามว่าทำไมรามถึงทิ้งเธอกับแม่ไป และทำให้เธอเข้าใจมาตลอดว่าพ่อตายไปแล้ว

     รามดีใจที่ได้เจอลูก และยอมเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตให้ฟังว่า หลังจากใช้ชีวิตกับรัศมี ไร่สวนที่ทำ ก็ประสบปัญหาจนไม่มีเงินมาซื้อในสิ่งที่รัศมีต้องการ ทำให้เขาต้องยักยอกเงินจากสหกรณ์เพื่อให้รัศมีได้ใช้ ในที่สุดถูกจับกำลังจะโดนดำเนินคดี แต่ความจริงอีกอย่างที่ทำให้รามขาดสติก็คือรัศมีมีชู้ และชู้คนนั้นรามก็รู้จัก เพราะความโมโหและความเมาทำให้รามเผลอฆ่าชู้ของรัศมี จนเขาต้องติดคุกแปดปี นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้รามหายออกไปจากชีวิตของนารากับรัศมี

     รามเล่าว่า เมื่อเขาออกมาจากคุก ก็หางานทำไปเรื่อยๆ และติดตามข่าวคราวของนารา จนในที่สุดก็มาทำงานที่ไร่บัวขาว เพราะสิงหนาทไม่เคยสนใจอดีตของเขาที่เป็นคนคุกมาก่อน สิ่งที่รามทำได้คือการติดตามข่าวของนาราอยู่ห่างๆ เพราะไม่อยากให้นาราแปดเปื้อนและได้ชื่อว่ามีพ่อเป็นคนขี้คุก นาราบอกว่าไม่ว่าพ่อจะเป็นอย่างไร เขาก็คือพ่อของเธอ และเธอก็ดีใจที่พ่อยังคิดถึงและรักเธอ  สองพ่อลูกกอดกันและพูดคุยกันให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันมาสิบห้าปี

 

     สิงหนาทแสดงความยินดีเมื่อลูกกับพ่อพูดคุยกันเข้าใจ แต่สิงหนาทก็น้อยใจเมื่อรู้ว่านาราจะต้องเดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาหลังจากที่วีซ่าเรียบร้อย แต่นาราก็พยายามงอนง้อจนเขาหายงอน และก็รับรู้ว่านาราเองก็รู้สึกดีต่อเขาเหมือนกัน

     ในขณะที่นาราและรามมีความสุข คนที่กำลังเป็นทุกข์คือขนิษฐาที่รู้ข่าวการจับกุมอดิศรผ่านหนังสือพิมพ์ และเพิ่งรู้ว่ารามได้รับบาดเจ็บ ขนิษฐาตกใจ กลับมาที่ไร่ด้วยท่าทางร้อนรน แต่พอเห็นนารา รามใกล้ชิดกัน แล้วยิ้มอย่างมีความสุขก็น้อยใจ และภาพสะเทือนใจตรงหน้าทำให้ขนิษฐาหมดสติเพราะร่างกายที่อ่อนแออยู่ก่อนหน้านี้

     นารา ราม สีหนาทตกใจที่ขนิษฐาหมดสติไปต่อหน้าต่อตา  นาราคอยดูแลขนิษฐา และเมื่อขนิษฐาฟื้นสิ่งที่ถามคำแรกคือความปลอดภัยของราม พอนาราบอกรามปลอดภัยดี ขนิษฐารับทราบด้วยความน้อยใจที่ไม่มีใครบอกข่าวนี้กับเธอและขอร้องให้นาราเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนาราเล่าจบ ขนิษฐาก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญ แต่นาราก็พยายามปลอบใจว่าทุกคนปิดบังเรื่องการจับกุมอดิสรเพราะไม่อยากให้เป็นห่วง และนาราก็เล่าเรื่องของตัวเองกับรามให้ขนิษฐาฟังเพราะอยากให้ขนิษฐารับรู้ แต่กลับเป็นการย้ำให้คนฟังรู้สึกว่ารามยิ่งห่างไกลจากเธอมากขึ้นเรื่อยๆ  สิงหนาทที่คอยสังเกตอาการน้องสาวก็เข้ามาบอกว่าเรื่องอดีตของรามมันเป็นเพียงอดีตเท่านั้น ถ้าขนิษฐายอมรับอดีตของรามได้ ทุกอย่างจะดีเอง แต่ขนิษฐาบอกว่าถ้าเธอจะยอมรับอดีตของราม แต่รามคงไม่ยอมรับความรู้สึกของเธอ

     ข่าวที่รามบาดเจ็บและการจับกุมอดิสรเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ทางวรรณและรัศมีเห็นภาพรามจากหนังสือพิมพ์ รัศมีก็โวยวายอยากให้ลูกกลับมา แต่วรรณเชื่อใจหลานอีกไม่นานหลานจะต้องกลับมากรุงเทพตามคำพูดที่หลานเคยบอกเอาไว้ ทำให้รัศมีไม่พอใจ

     เมื่อถึงกำหนดที่นาราจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพ วันนั้นเกิดเหตุระเบิดที่ท้ายไร่ ทำให้สิงหนาทและรามต้องรีบไปดู แต่จริงๆ แล้วเป็นแผนล่อสิงห์ออกจากถ้ำ เพราะช่วงนั้นนาราถูกเรืองลักพาตัวตามคำสั่งของอดิสรที่อยากแก้แค้นสิงหนาทที่ทำให้เขาต้องถูกตำรวจไล่ล่าแบบนี้ และเมื่อเห็นหน้าคนที่เรืองบอกว่าเป็นคนรักของสิงหนาทว่าเป็นนารา หลานสาวประธานธนาคารก็ยิ่งชอบใจ และคิดจะทำร้ายนารา แต่ก่อนอื่นต้องใช้นาราล่อให้สิงหนาทกับรามมาติดกับเสียก่อน เพราะเขาต้องการเล่นงานคนทั้งสอง

 

     เมื่อหลานสาวไม่กลับมาตามกำหนด วรรณก็เป็นห่วง ขนิษฐาโทรศัพท์ไปแจ้งให้วรรณทราบเรื่องนาราถูกจับ ทำให้วรรณและรัศมีเดินทางขึ้นมาที่ไร่บัวขาวทันที

     สิงหนาท รามและสารวัตรกช บุกเข้าไปช่วยนารา แต่กว่าจะช่วยได้ก็ต้องเจอทั้งปืน ระเบิด ส่วนนาราเองก็ไม่อยู่นิ่งเฉย พยายามหนีเอาตัวรอด และการหนีทำให้เธอมีชีวิตรอดออกมาจนเจอกับสิงหนาทและราม ส่วนอดิศรก็ตายในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นทางตำรวจก็ตามไปจับกุมพ่อเลี้ยงศักดาที่เป็นอีกคนที่ทำผิดกฎหมาย

     เมื่อคนร้ายถูกจับ สถานการณ์ในไร่บัวขาวก็กลับสู่ปกติ แต่การเผชิญหน้ากันระหว่างวรรณ รัศมีและราม ยังทำให้ทุกอย่างยังไม่สงบดีนัก รัศมีตั้งท่ารังเกียจรามชัดเจน จนในที่สุดรัศมีก็ประกาศว่าตัวเองไม่เกี่ยวข้องอะไรกับราม

     คำประกาศของรัศมีเหมือนเป็นปลดบ่วงในใจของรามออก รามเป็นอิสระ ไม่มีพันธะใดๆ อีกต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับรัศมีกลายเป็นเพียงอดีต เขาสามารถเดินหน้าได้ต่อพร้อมกับนาราลูกสาวของเขา

     รามเองก็เข้าไปคุยกับวรรณ เรื่องนาราว่าไม่คิดจะแย่งชิงนารามาจากวรรณ และทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกัน

     สิงหนาทเห็นโอกาสที่วรรณและรามอยู่ตรงหน้าเลยเอ่ยปากขอดูแลนาราด้วยท่าทางยโส วรรณเองก็บอกว่าเรื่องแบบนี้เขาไม่คิดจะบังคับนารา เพราะได้รับบทเรียนจากการเลี้ยงรัศมีมากพอแล้ว จึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคตเพราะนาราจะต้องไปเรียนต่ออีกสองปี แต่สิงหนาทก็ยังยืนยันหนักแน่นว่าเขาจะดูแลนาราให้ดีที่สุด

 

     วรรณหัวเราะด้วยใจที่ผ่อนคลายเมื่อคนที่เขาเคยรังเกียจอย่างราม ชาวไร่ชาวสวนที่ดูต่ำต้อย วันนี้กลับทำให้เขายอมรับได้ แถมทำท่าจะได้ลูกเขยเป็นชาวไร่เพิ่มอีกคน บาดแผลในอดีตของรามได้จางหาย ตอนนี้รามก็พร้อมจะเดินหน้าต่อ ส่งสิงหนาทเองก็พร้อมจะสร้างอนาคตไปพร้อมกับนารา

     นาราที่พอรู้ความในใจของขนิษฐาที่มีต่อราม  เธอเข้าไปคุยกับขนิษฐาว่าถ้าขนิษฐารักพ่อของเธอจริงเธอจะยินดีมาก และพร้อมกับฝากฝังรามไว้ ซึ่งขนิษฐาเองก็ยินดี อยู่ที่รามจะยอมรับเธอไหม

     เมื่อรามเป็นอิสระ เขาก็พร้อมจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เขาเดินเข้ามาบอกขนิษฐาว่าตอนนี้ถ้าเขาจะเริ่มต้นกับใครสักคน คนคนนั้นต้องเป็นขนิษฐาผู้หญิงที่ไม่รังเกียจคนมีอดีตอย่างเขาและเขาเองก็เห็นว่ารักของเธอมีความสำคัญเสมอ เพียงแต่มีปัจจัยหลายๆ ทำให้เขาต้องเจียมตัว แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรผูกมัดเขาแล้ว ขนิษฐาดีใจมากที่รามยอมรับความรักของเธอ

     เมื่อถึงวันที่นาราต้องเดินทางกลับกรุงเทพ สิงหนาทสัญญากับนาราว่าวันที่เธอเดินทางไปอเมริกาเขาจะไปส่งด้วยตัวเอง และเขาจะรอเธอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน นาราก็สัญญากับสิงหนาทเช่นกันว่าเมื่อเรียนจบจะกลับมารับตำแหน่งนายหญิงของไร่บัวขาว ตำแหน่งนี้สิงหนาทบอกว่าเก็บไว้ให้เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น

     นารายิ้มอย่างมีความสุข เมื่อเห็นรามมีขนิษฐาอยู่เคียงข้าง และเธอก็ได้รักของพ่อกลับคืน โดยมีรักของวรรณคอยประคับประคองให้เธอกลายเป็นนาราในวันนี้ รัก...ที่เธอพยายามตามหามาตลอด ตอนนี้ได้กลับมาอยู่ในหัวใจของเธอ และเธอสัญญาว่าจะรักษามันอย่างดี

     ยามมา...เธอมาเพื่อตามหนึ่งความรักครั้งเก่าคืนสู่หัวใจตัวเอง ทว่ายามกลับ เธอได้รับความรักจากหัวใจถึงสองดวงกลับไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments