เปิดคำสัญญาสุดซึ้ง "บีม-ชาช่า" 5 ปีที่ร่วมดูแลรักจนถึงวันวิวาห์
จูงมือเข้าประตูวิวาห์กันไปอีกคู่ สำหรับคู่รักสุดหวานของวงการบันเทิง "บีม ศรัณยู" และ "ชาช่า ทามาดะ" หรือ "ชาช่า ภักค์ไพบูลย์" ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมาทั้งคู่ได้จัดพิธีหมั้นที่เบเนดิกสตูดิโอ ท่ามกลางความยินดีของครอบครัวและเพื่อนๆ
ต่อมาวันนี้ (20 ธ.ค.) ทั้งคู่ได้จัดงานฉลองแต่งงาน ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และได้เผยความรู้สึกครั้งนี้ให้ฟังว่า
"ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเรา ตั้งแต่วันหมั้นจนถึงวันนี้ รู้สึกตื่นเต้นคนละแบบกับงานวันหมั้น วันนี้คนเยอะตื่นเต้นมาก ก่อนหน้านี้เราปรับตัวเข้าหากันและต้องปรับกันไปตลอดชีวิต 5 ปี ที่ศึกษากันมา บีมนิสัยพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ พยายามปรับและเปลี่ยนตัวเองตลอด ในที่สุดบีมก็เปลี่ยนตัวเองได้ รู้สึกดีเวลามีคนมาบอกว่าเปลี่ยนบีมจากหนุ่มคลาสโนว่าได้
บีม บอกอีกว่า พยายามเปลี่ยนทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนนี้ ตั้งแต่คบกันมาไม่ได้ราบรื่นเสมอ เขาเป็นคนอดทน ให้โอกาสคน เป็นคนจิตใจดีมากๆ รู้สึกว่าเขาเป็นของจริงที่ไม่ได้สร้างภาพ
ชาช่า บอกต่ออีกว่า ที่ตัดสินใจฝากชีวิตไว้ที่บีม เพราะนับถือมีความพยายามของเขา พยายามทำเพื่อเรา ทำให้รู้สึกว่าเขาพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวจริงๆ
ส่วนคำมั่นสัญญาของทั้งสอง บีมพูดว่า ผมแสดงความมั่นใจให้เขาเห็นตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ อนาคตต่อไปจะไม่ทำให้ผิดหวังและเสียใจ จะเป็นแสงสว่างจับมือเดินไปถึงปลายทางด้วยกัน
ด้านชาช่าพูดต่อว่า ครั้งแรกที่สัญญาว่าเมื่อไหร่ก็ตามจะอยู่เคียงข้างเสมอ 5 ปีที่ผ่านมายังรักษาสัญญาไว้ตลอด หลังจากนี้ต่อไปพร้อมจะอยู่ข้างเขาตลอดไป
ส่วนเรื่องน้องต้องให้ชาช่าดูตัวเองก่อน ตอนนี้อยู่ในช่วงบำรุง พร้อมเมื่อไหร่ก็มีเลย หลังจากนี้ต้องเข้าปรึกษาหมอทั้งสองคน ถ้าทุกอย่างโอเคก็จะปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติ
ต่อด้วยเรื่องสถานที่ฮันนีมูน สิ้นปีนี้จะไปเที่ยวนิวยอร์ก แต่น่าจะยังไม่ใช่ฮันนีมูนแบบเต็มรูปแบบ วางแผนเอาไว้ไปแอฟริกากลางปีหน้าด้วย
เรื่องสินสอดให้แบบสมฐานะ เพราะผู้ใหญ่เปิดไฟเขียวให้ตลอด งานวันนี้ถือว่าลงทุนค่อนข้างเยอะ ได้ไอเดียและได้ทีมงานที่ดีด้วย ดีใจที่ทุกฝ่ายช่วยให้งานครั้งนี้ออกมาสมบูรณ์
สำหรับเรือนหอเสร็จจากนี้ต้องเข้าไปอยู่บ้านเจ้าบ่าวก่อน แต่คอนโดที่ดูไว้ยังเป็นโครงการอยู่ น่าจะย้ายมาเมื่อโครงการเสร็จ
ปิดท้ายด้วยเรื่องทะเบียนสมรส ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส น่าจะเป็นหลังกลับจากอเมริกาก่อน เพราะกลัวมีปัญหาเรื่องทางเดินทาง