เปิดใจ “กีฟ” ภูมิใจ “บูม” สมัครทหาร อวยพรทั้งน้ำตาเชื่อ 6 เดือนสัมพันธ์ยังดี
หลังจากที่นักแสดงหนุ่มวิกหมอชิต “บูม กิตตน์ก้อง ขำกฤษ” ได้เดินทางไปสมัครเป็นทหารอากาศเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 ตามที่ตั้งใจไว้ว่าอยากรับใช้ชาติ โดยจะเข้ากรมในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ และล่าสุดได้มีโอกาสพูดคุยกับสาวคนสนิทของหนุ่มบูม อย่างสาว “กีฟ อรลีฬห์ โสตถิวันวงศ์” เธอก็ได้เผยความรู้สึกถึงเรื่องนี้ให้ฟังว่า
ก่อนหน้านี้มีก็คุยกันมาตลอดค่ะ เรารู้มาตั้งนานแล้วว่าพี่เขาจะเข้าสมัครทหาร ตอนแรกก็ตกใจนะคะ เพราะรู้สึกว่าความคิดเขาไม่เหมือนคนทั่วๆ ไป แล้วก็กังวลด้วยว่าทำอาชีพแบบนี้แล้วหายหน้าไป 6 เดือนจะมีปัญหาบ้างหรือเปล่า คนอื่นจะพูดว่ายังไง คนอื่นที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้อาจจะไม่เข้าใจว่าพอรับละครไปแล้วต้องมายกเลิกงาน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เพราะว่าทุกอย่างที่ได้รับมาถือว่าเป็นโอกาสทั้งนั้น
เรื่องงานของเขาความจริงแล้วเขาตั้งใจว่าจะไปตั้งแต่ปีที่แล้ว เพียงแต่ว่าละครถ่ายไม่ทัน เขาเลยแจ้งทางกองละครไปแล้วว่าผลัดไปเป็นอีกปีก็ได้ แต่ว่าคงจะไม่เลื่อนอีกแล้ว ทางช่องเลยแพลนละครเอาไว้ให้เพื่อปิดให้ทันเข้ากรมวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งก็ไม่มีปัญหา เพราะว่าตอนนี้ปิดกล้องไปแล้วเรื่องนึง เหลืออีกเรื่องนึงที่กำลังเร่งปิดกล้องให้ทันอยู่
แต่เพราะว่าเห็นความตั้งใจของเขา เขาเล่าว่าเขาตั้งใจจะเป็นมาตั้งนานแล้ว เลือกที่จะไม่เรียนรด.ตั้งแต่แรก เพราะว่าตั้งใจจะมาสมัครเป็นทหาร เพราะว่าคุณพ่อของเขาเป็นทหาร ทำให้เรารู้สึกว่ามันคือความกล้าของเขาที่เขาอยากจะเป็น
ในวันที่เขาไปสมัคร ตอนนั้นคือตื่นเต้นมาก เขาเองก็ตื่นเต้น เราเลยลงรูปให้กำลังใจหน่อยจะได้มีแฟนคลับคนอื่นเข้ามาให้กำลังใจด้วย แต่ถ้าพูดจริงๆ ตอนนั้นก็พิมพ์ไปร้องไห้ไป เพราะมันรู้สึกหวิวๆ ว่าพอเขาไม่อยู่เราจะต้องเหงาแน่ๆ เลย เพราะปกติเราก็เจอกันอยู่ตลอด แล้วอยู่ๆ เขาก็จะหายไป 6 เดือน ซึ่งมันไม่น่าจะเหลือเวลาไปเที่ยวกันแล้วค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าตอนนี้กองละครของเขาเร่งถ่ายมากเลย ติดกันยาว 7 วัน ก็ไม่น่าจะมีเวลาแล้ว ก็จะเน้นคุยกัน 6 เดือนที่เขาเข้ากรมระยะเวลาไม่น่าจะทำให้ใจเราเปลี่ยนไป แล้วก็คิดเอาไว้ด้วยว่าจะเอาเวลานี้ไปโหมงานหรือทำอะไรซักอย่างตลอดเวลาให้ตัวเองยุ่ง จะได้ไม่คิดอะไรมาก เพราะมั่นใจว่าจะต้องเหงาอย่างแน่นอนที่อยู่คนเดียวโดยไม่มีเขา
มีกระแสชื่นชมเขา เราก็รู้สึกภูมิใจที่เขายอมเสียสละเวลาทำงาน และเวลาส่วนตัวเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ซึ่งถือว่าเป็นความคิดที่น่าชื่นชม