“โย่ง” เลิกบุหรี่ฉลองครบรอบแต่ง “ก้อย” ลุ้นทายาท! หากปีนี้ไม่มีคงหันปรึกษาหมอ
หลังจากที่คู่รักสุดติสท์ อย่างหนุ่ม "โย่ง อนุสรณ์" และสาว "ก้อย วลัยลักษณ์" ได้เข้าพิธีวิวาห์กันไปเมื่อวันที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ก็ครบรอบ 4 ปีที่ทั้งสองดูแลรักกันมาอย่างดี อีกทั้งในปีนี้ทางฝ่ายชายก็ยังได้ให้ของขวัญสุดพิเศษแก่สาวก้อยด้วยการเลิกบุหรี่อีกด้วย งานนี้เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับทั้งสองก็ได้เล่าถึงเรื่องนี้ให้ฟังว่า
โย่ง : จริงๆ เราก็ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายนะครับ เราก็ยังไม่ทำอะไรที่มันเกินตัวมาก อะไรที่เป็นความสุข เราก็จะหามาเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรที่น้อยเกินไป หรือมากเกินไป ที่ผ่านมาก็มีไปนั่งทานข้าวกัน ก็เป็นปาร์ตี้เล็กๆ ของเรา คนชมว่าเป็นคู่ที่เรียบง่ายแต่หวานมากก็ขอบคุณครับ มันก็เป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าความเรียบง่ายมันเป็นอะไรที่ดีสุดครับ มันไม่ต้องปรุงแต่งอะไรมาก อะไรที่มันเรียบง่าย มันก็จะอยู่ได้นาน
ก้อย : จริงๆ ต้องบอกว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษมาก ไม่ได้ไปทานข้าวที่ไหน คือปกติมากเลยค่ะ เพราะว่าเมื่อวานก็มีงาน ก็ต้องทำงานปกติ เพียงแต่ว่าสิ่งที่มันพิเศษที่สุดหลังจากนั้น คือว่าโย่งเค้าให้ของขวัญเป็นการเลิกบุหรี่ ซึ่งจริงๆ เค้าก็ตั้งใจว่าจะเลิกมานานมากแล้ว แต่เหมือนช่วงเดือนที่แล้ว เค้าแบบตั้งใจจริงๆ แล้วก็ทำ จนเค้าแบบโอเค เลิกได้ เค้าก็เลยเหมือนให้เป็นของขวัญแต่งงานปีนี้ ซึ่งมันก็ดีมาก มันก็เป็นความรู้สึกที่มีค่ามากกว่าเค้าซื้อของขวัญแพงๆ ให้อีก มันเป็นความรู้สึกที่อิ่มมากๆ มีความสุข จริงๆ แล้วเราทั้งคู่ค่อนข้างที่จะเห็นความสำคัญของการได้อยู่ด้วยกันมากๆ มีโอกาสก็มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ เป็นเพราะว่าเราสองคนอยากใช้ทุกวินาทีของเราอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด พอเค้าให้ของขวัญเป็นเรื่องนี้ มันเลยทำให้เรามีความสุขมาก
โย่ง : จริงๆ เหมือนกับเค้าก็เคยขอมา แล้วผมก็อยากเลิกอยู่แล้วเหมือนกัน ผมก็เคยถามเค้าอยู่ตลอดเวลา ว่าวันพิเศษอยากได้ของขวัญอะไรไหม กระเป๋าไหม อยากได้นู่น ได้นี่ไหม เค้าก็ขอมา ว่าอยากให้เลิกบุหรี่ แต่อันนี้คือขอมานานมาก แต่มันก็ยังทำไม่ได้ เหมือนผลัดมาตลอด แล้วพอปีนี้เราก็ตั้งใจอยากจะมีลูกจริงๆ อยากให้ร่างกายมันแข็งแรงขึ้น แล้วก็เหมือนกับเราก็มานั่งคิดดูว่า มันมีอะไรที่เราให้สัญญากับใครแล้วยังไม่ได้ทำบ้าง ก็มีข้อนี้อยู่ เราก็เลยไม่อยากให้มันค้างคา จริงๆ ก็สัญญากับเค้าไว้นานมาก ก็เลยตัดสินใจว่าเริ่มเลย
ก้อย : ก็รู้ว่ามันยากมาก แล้วก็อึดอัดมาก เพราะแรกๆ เค้าก็มีหงุดหงิดบ้าง แต่เค้าก็พยายามหาวิธีผ่อนคลาย เล่นเกม ฟังเพลง เขียนหนังสือ ซึ่งแต่ละสิ่งที่เค้าทำ คือเราก็รู้ว่าเค้ามีความพยายาม แล้วเค้าก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ แล้วก็ทำให้เรารู้สึกแบบเค้าค่อนข้างมุ่งมั่นมาก แล้วมันต้องใช้ความอดทนค่อนข้างสูง แต่เค้าก็ผ่านมันมาได้ พอหลังจากนั้นคือมันก็สร้างความสุขให้กับทั้งคู่ ก้อยเชื่อว่ามันก็เป็นเหมือนแรงบันดาลใจของเค้า เราก็พยายามให้กำลังใจเค้า ก็รู้ว่าเค้าก็โอเค อดทน แล้วก็พยายามทำให้มันสำเร็จ คือตัวเค้าเองเค้าก็มีความตั้งใจอยู่แล้วด้วย คือมันคงไม่มีอะไรสำคัญเท่ากำลังใจ แล้วเราเหมือนมีให้กัน เลยทำให้เค้ารู้สึกว่าถึงมันจะยาก แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี
โย่ง : ทำได้แล้วก็รู้สึกดีครับ รู้สึกว่าได้ทำในสิ่งที่ติดค้างมานาน แล้วก็จริงๆ เราก็กลัวไปเองว่าเราอาจจะทำไม่ได้ อาจจะต้องทรมาน หรืออาจจะต้องเป็นอะไรที่มันต้องฝืนใจตัวเอง แต่พอเอาเข้าจริง คือมันดีครับ มันดีต่อสุขภาพมาก มันรู้สึกดีขึ้น หายใจดีขึ้น แล้วที่ดีที่สุดก็คือเห็นเค้ามีความสุขขึ้น เราก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรติดค้างเค้าอยู่ ไม่มีอะไรที่ทำให้เค้ารู้สึกกังวล เพราะปกติเราสองคนจะห่วงกันเรื่องสุขภาพมาก คือตอนนี้ผมก็เป็นนักกีฬาอยู่แล้ว แต่ก้อยเค้าก็ห่วงเรื่องสูบบุหรี่ เพราะว่าถ้าเล่นกีฬาหนักๆ แล้วสูบบุหรี่ มันก็จะมีปัญหาเรื่องหัวใจ เค้าก็จะเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา พูดอยู่ทุกวันที่ซ้อม ที่วิ่ง ที่ขี่ม้า ก็เห็นเวลาเค้ากังวล เราก็รู้สึกไม่อยากให้เค้าเศร้า ไม่อยากให้เค้าทุกข์ เราก็เลยยอมฝืนใจตัวเองดีกว่า เค้าจะได้มีความสุข
ก้อย : ส่วนเซอร์ไพรส์ของทางเราก็มีคุยกันเล่นๆ ว่าถ้าทำได้จะหอมทุกวัน หอมตลอดเวลา ซึ่งจริงๆ เราก็ใช้วิธีแสดงออกด้วยความรักกันแบบนี้ปกติ คือการให้กำลังใจกัน หอมแก้มกัน เราทำให้กันเป็นปกติ แต่ว่าก็บอกเค้าว่าถ้าทำได้จะหอมบ่อยขึ้น เค้าก็บอกว่าที่ทำได้เพราะหอมบ่อยขึ้นนะ มันก็ยิ่งทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
โย่ง : เรื่องแพลนมีลูกเราก็วางแผนกันมานานครับ แต่ว่าปีนี้เราตั้งใจว่าจะลองหลวมๆ ดู ไม่ต้องไปวางแผนกันมาก ไม่ต้องไปซีเรียสกับมันมาก ปล่อยสบายๆ ก็รู้สึกว่าลุ้นอยู่เหมือนกัน ก็ลุ้นประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ครับ ก็น่าจะรออีกสักเดือนนึง ให้มันแน่นอนก่อน ก็คิดว่าถ้ามีก็คงดีครับ แต่สุดท้ายจริง ถ้าไม่มีจริงๆ ตามวิธีธรรมชาติ ก็คงต้องคิดว่าเค้าอาจจะไม่อยากมาอยู่กับเราก็ได้ แต่ไปตรวจสุขภาพมาแล้วก็ปกติดี แข็งแรงด้วยครับ
ก้อย : เราก็แพลนกันมาเรื่อยๆ แต่ด้วยเวลาทำงาน และอะไรหลายๆ อย่าง ก็เลยเหมือนผลัดกันมาเรื่อยๆ แต่ปีนี้ก็เริ่มคุยกันจริงจัง เริ่มกำหนดวัน เริ่มนับวันกันจริงจังแล้ว ก็คิดว่าถ้าภายในปีนี้ยังไม่มี ก็อาจจะต้องปรึกษาคุณหมอ แต่สิ่งที่เราทำอันดับแรกก็คือการตรวจร่างกาย แล้วก็เตรียมพร้อมทุกๆ อย่าง พร้อมออกกำลังกาย แล้วตอนนี้คุณโย่งเป็นนักกีฬาโปโลด้วย ซึ่งก็ยิ่งดี เพราะทำให้เค้าตื่นเช้ามาก ตื่นประมาณหกโมงค่ะ แล้วก็ต้องออกไปขี่ม้าทุกเช้า มันเลยทำให้เราได้มีโอกาสตามออกไป ได้ออกกำลังกาย ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เลยทำให้เรารู้สึกแข็งแรง พอตรวจร่างกายแล้ว ร่างกายเราแข็งแรงด้วยกันทั้งคู่ ตอนนี้คงต้องรอจังหวะ แล้วก็รอโอกาส ก็คิดว่าไม่อยากเครียดค่ะ ก็สบายๆ แล้วก็พยายามทำทุกอย่างให้ผ่อนคลาย เมื่อไหร่ที่เค้าจะมาก็คงเป็นโอกาสที่ดีแล้วนะ