เจาะลึกนางทาส 2551 VS 2559 ใครแซบสุดมาดูกัน!
เจาะลึกละครรีเมคฟอร์มยักษ์ “นางทาส” 2551 และ 2559 เปิดทุกคาแรคเตอร์ นักแสดง เทียบให้เห็นกันชัดๆ ทั้งสองเวอร์ชั่น งานนี้ใครแซบสุดมาดูกัน!
ในช่วงนี้คงไม่มีกระแสละครเรื่องไหนแรงเท่า “นางทาส” อีกแล้ว เพราะตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์ก็ถูกจับตามองเป็นอย่างมากจากสังคม เนื่องจากละครเรื่องดังกล่าวเป็นละครพีเรียดฟอร์มยักษ์ที่มีชื่อเสียงมากและถูกนำมารีเมคหลายครั้งด้วยกัน ตั้งแต่ปี 2524 ที่ทางช่องวิกน้อยสีเอามาทำเป็นละครลงจอแก้วครั้งแรก หลังจากนั้นทางวิกหมอชิตก็เอามารีเมคอีก 2 ครั้งด้วยกัน ในปี 2536 และในปี 2551 โดยปัจจุบันทางช่องวิกน้อยสีก็ซื้อลิขสิทธิ์เรื่องดังกล่าวกลับมาทำอีกครั้ง (2559) แต่ด้วยความที่ว่าในช่วงปี 2551 ทางวิกหมอชิตได้ถ่ายทอดความเป็นนางทาสในแบบฉบับของตัวเองออกมาได้ลึกซึ้ง กินใจเป็นอย่างมาก ทำให้ครั้งนี้ที่วิกน้อยสีนำมารีเมคอีกครั้งถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ ด้วยความที่ช่วงปีไม่ห่างกันมาก อีกทั้งยังมีโซเชียลมีเดียเป็นสื่อกลางในการพูดคุยกันของคนที่รับชม ทำให้กระแสถูกนำมาเปรียบเทียบและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย เพียงแค่ละครออนแอร์ตอนแรกไปก็ถูกวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งกระแสของการคัดเลือกนักแสดง และการดำเนินเรื่อง ซึ่งภายหลังผู้บริหารทีวีซีน ทีมทำละครเรื่องดังกล่าวก็ได้ออกมาไขทุกข้อสงสัยในการเลือกนักแสดงและทำงานไปแล้ว
โดยในละครเรื่องดังกล่าว จะมีตัวละครเด่นที่หลายคนให้ความสนใจกันไม่กี่ตัวละคร ได้แก่ อีเย็น (นางเอก) , ท่านเจ้าคุณ (พระเอก) , คุณหญิงแย้ม (ภรรยาเอกของท่านเจ้าคุณ) , คุณสาลี่ (อนุภรรยาของท่านเจ้าคุณ) และคุณบุญมี (อนุภรรยาของท่านเจ้าคุณ)
ซึ่งวันนี้ "ดาราเดลี่" ก็จะพาชาว "ddsocial" ไปดูกันว่าในเวอร์ชั่นปี 2551 และปีปัจจุบัน 2559 ใครรับบทเป็นตัวละครหลักกันบ้าง และแต่ละตัวละครในสองเวอร์ชั่น มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร เนื่องจากเวอร์ชั่นนี้มีการนำบทละครมาตีความใหม่โดยทีวีซีน
บทบาทที่คนจับตามองมากเป็นพิเศษในละครเรื่องนี้ แน่นอนก็ต้องเป็นบทบาท "อีเย็น" นางทาสนางเอกของเรื่อง
เวอร์ชั่น 2559 ถ่ายทอดบทบาท "มทิรา ตันติประสุต" หรือ “แยม” นางเอกแห่งวิกน้อยสี ซึ่งในครั้งนี้เธอก็ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตั้งแต่วันแรกที่ออนแอร์ในเรื่องของบุคลิก และอินเนอร์
ซึ่งเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ในปี 2551 ก็ได้นางเอกตัวท็อปของวิกหมอชิตอย่าง "สุวนันท์ คงยิ่ง" หรือ "กบ" มาถ่ายทอดบทบาท ซึ่งเธอก็ทำไว้ดีมาก ทั้งในเรื่องของการแสดง และการสร้างภาพจำ
และตัวละครถัดไปที่เป็นต้นเรื่องให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไปอย่างสมเหตุสมผล คือบทบาทของ "ท่านเจ้าคุณ" หรือ "พระยาสีหโยธิน"
เวอร์ชั่นปี 2559 นี้ ถ่ายทอดบทโดย "ณัฐวุฒิ สกิดใจ" โดยในบทบาทนี้หนุ่มป๋อก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี สำหรับคาแรคเตอร์ของท่านเจ้าคุณผู้ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ท่านเจ้าคุณในเวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่หนุ่มเจ้าชู้ เพียงแต่เมื่อคุณหญิงหาอนุภรรยามาให้ก็รับไว้เพราะเกรงใจภรรยา ยกเว้นเพียงแต่ “อีเย็น” ที่ท่านเจ้าคุณรับไว้ด้วยความเสน่หา
และในเวอร์ชั่น 2551 ก็รับบทบาทโดย "วีรภาพ สุภาพไพบูลย์" ซึ่งก็สร้างภาพจำไว้ได้ดีเช่นกัน ถึงขนาดที่ว่าในขณะนั้นไปที่ไหน คนก็มักติดปากเรียกว่าท่านเจ้าคุณ
บทบาทต่อมาที่จะขาดไม่ได้เลยคือบทบาทของ "คุณหญิงแย้ม" เอกภรรยาของท่านเจ้าคุณ
ซึ่งในปี 2559 นี้รับบทบาทโดย "วุ้นเส้น วิริฒิพา" ซึ่งคาแรคเตอร์ในเรื่องนี้นั้น ทางบริษัทผู้จัดได้บอกไว้ว่าคุณหญิงแย้มในเวอร์ชั่นนี้ไม่ธรรมดา และเป็นตัวละครที่พีคมากๆ ของเรื่องเลยทีเดียว ให้ติดตามรอชม ด้วยความที่เป็นผู้รากมากดี ทำให้ไม่สามารถที่จะไปต่อกรกับอนุภรรยาของท่านเจ้าคุณอย่าง “สาลี่” ได้ จึงได้หาอนุภรรยาให้ท่านเจ้าคุณอีก เพื่อมาช่วยต่อกรกับ “สาลี่”
แต่คุณหญิงแย้มในเวอร์ชั่น 2551 นั้นรับบทโดย “ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์” นักแสดงตัวแม่แห่งวิกมากสี ด้วยคาแรคเตอร์และบุคลิกที่ถ่ายทอดออกมาได้สมจริง ทำให้หลายๆ คนติดภาพคุณหญิงที่จิตใจดีงาม เด็ดเดี่ยว ปกครองคนในบ้านอย่างเป็นธรรม สมกับตำแหน่งและวงศ์ตระกูล
บทบาทต่อมาที่ขาดไม่ได้เลยคือ “สาลี่” หนึ่งในอนุภรรยาของท่านเจ้าคุณ บทบาทนี้ก็นับว่าเป็นบทบาทที่สำคัญ ต้องส่งต่อความเกลียด ความริษยาผ่านทางตัวละคร ทางสายตาเป็นอย่างมาก
ซึ่งในปี 2559 นี้ คนที่ถ่ายทอดบทบาทสาลี่ ก็คือ “หยาดทิพย์ ราชปาล” หรือ “หยาด” โดยในเวอร์ชั่นนี้เธอก็เล่นได้ดีมากจนได้รับคำชม ถึงขนาดที่นักข่าวไปสัมภาษณ์เธอว่ารู้สึกยังไงที่เธอเป็นคนเดียวที่ได้รับคำชมในเวอร์ชั่นนี้
และในปี 2551 บทบาท “สาลี่” ก็รับบทโดย “จีรนันท์ มะโนแจ่ม” หรือ “ยุ้ย” ซึ่งในขณะนั้นบทบาทของเธอก็ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก เพราะเธอเล่นออกมาจากลักษณะท่าทาง แววตา และอินเนอร์เลยทีเดียว นับว่าเป็นบทบาทที่ประสบผลสำเร็จและเป็นบทบาทมาสเตอร์พีชของเธอ
และบทบาทสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ “บุญมี” อีกหนึ่งอนุภรรยาของท่านเจ้าคุณ หนึ่งในบทที่ต้องส่งต่อความแค้น และอิจฉาริษยาให้คนดูอินจัด
ซึ่งในปีนี้ (2559) ก็ได้นักแสดงหน้าใหม่ “รวีวรรณ บุญประชม” หรือ “โยเกิร์ต” นางแบบหวานใจพิธีกรคนเก่ง “พีเค ปิยะวัฒน์” โดยในเวอร์ชั่นนี้ “บุญมี” ก็ได้เสนอตัวขอเป็นอนุภรรยาของท่านเจ้าคุณ แต่ไม่ใช่ด้วยความสมัครรักใคร่ เพียงแต่ต้องการทำลายให้ย่อยยับ เนื่องจากท่านเจ้าคุณเคยฆ่าพ่อของเธอในขณะออกราชการ (พ่อของเธอเป็นพ่อค้าฝิ่น) เธอจึงยอมแลกตัวมาแก้แค้น บุญมีในเวอร์ชั่นนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษเพราะว่าเป็นละครเรื่องแรกของสาว “โยเกิร์ต” ในฐานะนักแสดง นับว่าลงละครเรื่องแรกก็ได้รับบทบาทสุดหินเลยทีเดียว
โดยในปี 2551 ผู้ที่ได้รับบทบาทบุญมีก็คือ “บัณฑิตา ฐานวิเศษ” หรือ “เมย์” ที่เธอได้พลิกคาแรคเตอร์มาเล่นร้ายในละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ซึ่งในบทเธอก็รับบทเป็นอีกหนึ่งอนุภรรยาของคุณหลวง ที่ต้องถ่ายทอดความริษยา ชิงชัง แย่งชิง และเธอก็ทำออกมาได้ดีจนได้รับกระแสชื่นชมเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามละครเรื่องนี้ก็ถูกนำมาตีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นทั้งทางผู้จัด นักแสดง และทีมงานก็อยากให้ผู้ชมทุกคนเปิดใจ ลบภาพในเวอร์ชั่นเดิมๆ โดยคุณปิ่นก็ได้ยืนยันว่าในเวอร์ชั่นนี้แม้จะถูกตีความมาแตกต่างจากของเดิม แต่รับรองว่าสามารถให้อะไรคนดูได้เยอะมากจริงๆ