เจาะลึกประเด็น “บีม-ชาช่า” โดนฉกบัตร ATM สูญเงินเกือบสองแสน

เจาะลึกประเด็น “บีม-ชาช่า” โดนฉกบัตร ATM สูญเงินเกือบสองแสน

     “ชาช่า ทามาดะ” ควง “บีม ศรัณยู ประชากริช” แถลงข่าวกรณีถูกขโมยบัตร ATM จนสูญเงินเกือบสองแสนบาท พร้อมดำเนินคดีล่าตัวคนร้าย

     เรียกว่าเป็นประเด็นครั้งใหญ่ที่สาว “ชาช่า ทามาดะ” แฟนสาวของหนุ่ม “บีม ศรัณยู” ได้ถูกผู้ไม่หวังดีขโมยบัตร ATM และกดเงินจนหมดบัญชี ซึ่งทั้งสองก็ได้ดำเนินการตามหาคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้ออกมาเปิดใจเล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ทราบเรื่องราว โดยทั้งสองเล่าว่า

ชาช่า : ตอนแรกวันนั้นกำลังขับรถไปออกกำลังกาย และอยู่ดีๆ ก็มีเมสเซสเตือนขึ้นมาว่าเงินได้ออกไป 500 บาท เราก็ข้องใจว่าเงินออกไปได้ยังไง จากนั้นเงินก็ออกไปทีละ 20,000 บาท จนหมดบัญชี เราก็ตกใจ เลยขับรถกลับเพื่อที่จะไปแจ้งความระหว่างทางก็โทรไปที่ธนาคารกสิกรเพื่อจะอายัติ และเราก็ถามว่าคนที่กดกดที่ไหนทางธนาคารเขาก็ส่งมา เขาก็ให้รหัสรูปมาว่าเอาไปกดแถวตลาดนำชัย และเขาก็ให้รหัสตู้มา พอเราทราบเราก็เลยขับรถไปรับ “บีม” เพื่อให้ไปเจ้าความที่ สน.ลุมพินีด้วยกัน

บีม : พอไปแจ้งความเราก็ได้ลงบันทึกประจำวัน และก็นำเอกสารบันทึกประจำวันไปที่ธนาคารกสิกร รวมถึงธนชาติและก็กรุงไทย

ชาช่า : พอเราได้ใบแจ้งความ เราก็นำไปให้ที่ธนาคารกสิกร เราก็อยากได้เป็นลายลักอักษรเราไปรู้ว่าทางตำรวจหรือธนาคารต้องใช้หรือเปล่า และเราก็ไปที่ธนาคารกสิกร และกรุงไทยเพื่อที่จะไปขอดูกล้องวงจรปิด เราต้องมีเอกสารอะไรบ้าง ทางธนาคารก็บอกเราต้องมีหนังสือรับรองที่เป็นตราครุฑ ซึ่งน่าจะเป็นในลักษณะที่บัตรโดนขโมยไป วันที่เกิดเหตุการณ์ตัวเราไม่ทราบเลยว่าบัตรหาย อาจเป็นเพราะบัตรนี้ไม่ค่อยได้ใช้ นานๆ ทีจะกดเงินจากบัตรนี้ ด้วยความที่เราไม่ค่อยได้ใช้ เราก็เลยตอบไม่ได้ว่าหายไปตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีเงินก็ถูกกดออกไปหมดแล้วยอดก็ 195,500 บาท บัตรจริงๆ เป็นของกสิกร แต่คนร้ายนำไปกดที่กรุงไทยและธนชาติ

บีม : คือเราไปที่ สน.ลุมพินี เพื่อขอใบรับรองที่มีตราครุฑ เพื่อที่จะนำไปขอดูกล้องวงจรปิด ทางร้อยเวรตอนแรกก็ไม่กล้าออกหนังสือรับรองให้ เนื่องจากกลัวอำนาจหน้าที่เขาไม่พอ เขาเลยแนะนำให้ผมขับรถไปที่ สน.ลาดกระบัง เพื่อที่จะแจ้งความที่นั่น พอไปถึงที่นั่นเขาก็บอกไม่สามารถออกหนังสือให้ได้เช่นกัน

ชาช่า : ก็เลยต้องกลับไปที่ สน. เดิมอีก วันนั้นที่ให้ทำได้ก็คือโทรเช็กกับทางธนาคาร ซึ่งทำไปตอนแรกแล้ว

บีม : ตอนนั้นต้องใช้เวลาจริงๆ ตั้งแต่เที่ยงจนถึง 3 ทุ่มสรุปไม่ได้อะไรเลย

ชาช่า : คือตอนที่ไปที่ธนาคารทางธนาคารพูดดี จะมีอยู่นิดนึงตรงที่เราขอบัตรคิว เราก็รอประมาณ 40 นาทีสุดท้าย เราก็คอลที่คอลเซ็นเตอร์อย่างเดียว หลังจากนั้นก็มีฝ่ายอิเล็กทรอนิกส์ติดต่อมา ต้องบอกก่อนว่าแต่ละธนาคารเขาจะมีการทำงานไม่เหมือนกัน คือถ้าใครบัตรหายต้องติดต่อเองว่าต้องใช้เอกสารอะไร ความคืบหน้าตอนนี้ก็ตำรวจพยายามหาตัวคนร้ายต่อไป ในส่วนของธนาคารเขาก็ชดเฉยเงินคืนมาแล้วตามจำนวน ทางธนาคารเขาดูเคสของเรามาก่อนแล้ว และยินดีที่จะชดเชยก่อนที่จะมีการแถลงข่าวอีก

บีม : คนร้ายกดรหัสได้ตรงตัวเลย ซึ่งคนที่รู้รหัสของช่าแทบจะไม่มีเลย เพราะว่ารหัสเป็นรหัสที่คิดขึ้นมาเอง

ชาช่า : จริงๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นคนใกล้ตัว แต่ตอนนี้ไม่น่าจะใช่คนใกล้ตัวแน่นอน เพราะว่าไม่ค่อยได้เจอใครนอกจากเพื่อน ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เพื่อนจะรู้รหัส น่าจะเป็นการตั้งใจดูเรากดรหัสมากกว่า และก็รอจังหวะ เราคิดว่าเป็นแบบนั้น

บีม : ตอนนี้เราไม่สามารถบอกได้ว่าเห็นส่วนไหนอะไรยังไง เพราะเดี๋ยวคนร้ายจะรู้ตัว อันนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการตามล่า

ชาช่า : การคืนเงินกลัวว่าคนมองเป็นสิทธิพิเศษของดารา ถึงได้บอกว่าธนาคารไม่ได้เพิ่งมาคุยกับเราว่าจะคืนเงินให้หลังจากที่ทราบว่าจะมีการแถลงข่าว คือทราบมาอยู่แล้วว่าทางธนาคารมีการเตรียมคืนเงินให้เรา ไม่รู้ว่าแต่ละธนาคารเขามีการพิจารณายังไงอันนี้ก็ตอบไม่ได้ค่ะ

บีม : หลังจากนี้ก็ยังต้องทำเนินคดีตามตัวคนร้ายต่อไปครับ เพราะเราก็กลัวความไม่ปลอดภัยของตัวเรา