“ตูน” พร้อมโชว์ฝีมือลบคำครหาเด็กเส้น ปัดกิ๊ก “พ้อยท์” แง้มชอบหนุ่มอารมณ์ดี
“ตูน ปาณิสรา ปริญญารักษ์” เจอบทท้าทายใน “สงครามนางงาม 2” ไม่หวั่นคนมองเป็นเด็กเส้น บอกอยากให้คนดูติดตามไปเรื่อยๆ สถานะหัวใจยังว่าง ปัดกิ๊ก “พ้อยท์ ชลวิทย์ มีทองคำ”
เป็นอีกหนึ่งสาวสวยมากความสามารถ “ตูน ปาณิสรา” ที่แจ้งเกิดจากซีรีส์ “มิติผ่านเลนส์” ซึ่งอาจถูกจับตามองเนื่องจากเคยผ่านงานแสดงมาแล้ว โดยครั้งนี้เธอได้รับบทเป็นนางงามนักสืบ ในเรื่อง “สงครามนางงาม 2” ซึ่งเธอบอกว่าบทบาทที่ได้รับแตกต่างจากที่เคยแสดงมา เมื่อมีโอกาสได้เจอสาวตูนก็ได้เล่าถึงการทำงานและอัพเดทเรื่องหัวใจว่า
“เรื่องนี้ต่างจากที่เราเคยเล่นมาค่ะ คือต่างมากก็เลยเหมือนเป็นอุปสรรค ตอนแรกคิดว่าเราจะโอเคกว่าเพื่อนคนอื่น เพราะว่าเราเคยผ่านมาแล้ว แต่ที่ไหนได้ มันกลับกลายเป็นแบบอุปสรรคชิ้นใหญ่เลย เรามีกำแพงอยู่อันนึงที่คอยทำลาย ค่อยๆ ออกมา ต่างจากเพื่อนที่เขามาใหม่ๆ สดๆ คือใครป้อนอะไรให้เขาก็รับมาได้ แต่ของเราคือยากมากค่ะ มันมีฉีกด้วยเพราะตัวละครในเรื่องนี้คือไม่ได้สดใสเหมือนที่เราเคยเล่นมา เหมือนต้องเก็บกดอยู่เหมือนกัน ซึ่งเรามีป้าแล้วป้าก็สั่งให้เราทำสิ่งที่เราไม่ชอบ แต่เราต้องทำเพราะเขาเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก คืออึดอัดมาก แล้วเวลาอยู่ในเรื่องพอเขาเมาท์กันในกองประกวดมีเรื่องนู้นเรื่องนี้เข้ามา ตัวละครตัวนี้จะเมาท์กับคนอื่นไม่ได้ ต้องคอยเก็บว่าเรื่องนี้เรารู้แล้ว มันอึดอัดแล้วก็ยากด้วย แล้วตัวเราไม่เคยใส่รองเท้าส้นสูง ไม่เคยใส่ชุดว่ายน้ำเลย ก็ลำบากกว่าเพื่อนเกือบทุกเรื่องเลย
ที่มีคนแซวว่าพี่ม้า (อรนภา) คือพ่อเรา ก็ตลกค่ะ ยิ่งที่เขาทำรูปมา แต่ก็ดีใจที่ยังมีคนติดตามเรื่องเราอยู่ ยังไงก็ต้องรอลุ้นค่ะ ซึ่งเราเรียนจบปุ๊บก็ได้แสดงเรื่องนี้เลย ตั้งใจอยู่แล้ว เราทำแล้วเราชอบ เราเคยแสดงมา ก็ตั้งใจอยากจะเป็นนักแสดงไม่ได้อยากทำอาชีพอื่น จบมาก็ได้แสดงละครเลยก็โชคดีค่ะ ไม่ต้องมากังวลเรื่องเรียน เพราะเราก็เรียนที่เชียงใหม่ ถ่ายมาจริงๆ ก็ลำบาก เราเป็นคนเชียงใหม่ ตอนนี้อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ตอนที่มาแคสต์ เป็นครั้งแรกเลยที่มากรุงเทพฯ ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ทางไม่รู้อะไรเลย ยังต้องพึ่งรถไฟฟ้าอยู่เลย ก็มาอยู่คนเดียวค่ะ
ส่วนเรื่องเด็กเส้นนั้นก็ไม่ต้องกลัวแล้วค่ะ คิดว่ายังไงคนก็มอง วันแรกที่เราไปแคสต์ ซึ่งเราไม่ว่าง คือเราตั้งใจที่จะลองแล้วเราก็จะไม่บอกเขาว่าเราจะไม่มา แต่เขาดันให้โอกาสเราก็เลยโอเคทำก็ทำ รู้ค่ะว่าเพื่อนต้องมองแน่ เพื่อนที่เข้าด้วยกันกลุ่มเดียวกันที่สนิท ตอนแรกคิดว่ามาจากไหนได้ทำก่อนเพื่อน จนทุกวันนี้ก็มีหลายคนที่คิดว่าเราเป็น ตอนที่กรรมการถามแรงๆ ก็ไม่ได้ซีเรียสนะคะ ยิ่งคำถามเวอร์จิ้นเราก็ตอบได้เพราะมันเป็นความจริง ตอนแรกก็ตกใจว่าทำไมต้องถามแบบนี้ แต่เขาก็ให้เหตุผลตอนท้ายว่าดูเรียบร้อยก็เลยลองถามดู
ด้านฟีดแบ็ค ช่วงแรกมันจะมีเหมือนคนที่แบบเขาแอนตี้เรามาแต่แรกอยู่แล้ว เราแคสติ้งคือก็ยังมีกระแสเด็กเส้นอยู่ถึงทุกวันนี้ช่วงแรกๆ ตัวละครเขาบอกว่ามันเหมือนเด็ก คือไม่เหมาะที่จะเล่นเป็นนางงาม ให้เป็นซีรีส์ดีกว่า ก็ต้องรอดูท้ายๆ เรื่อง ต้องพัฒนาแล้วก็ต้องทำตัวเองให้โตขึ้น จริงๆ ชีวิตจริงก็โตนะ แต่บุคลิกหรืออะไรที่ออกมามันดูเด็ก เขาก็เลยแบบมันเป็นตัวละครเดียวที่ดูไม่เหมือนนางงาม ดูไม่สู้
สำหรับเรื่องความรักก็ไม่มีใครเลย กับ ‘พ้อยท์ ชลวิทย์’ เขาก็แซวเล่น เราเล่นคู่กันก็มีแซวกัน ไม่มีแฟนมานานแล้ว ไม่ได้ปิดกั้นค่ะ รอคนเข้ามาคุยเราไม่ค่อยคุยเยอะแยะ ถ้าคุยก็คือตั้งใจคุยคนเดียว เลยอาจจะทำให้เราไม่มีตัวเลือก ถ้าไม่ใช่ก็โอเคไป สเป็คเรื่องหน้าตามาเป็นรอง แต่อันดับแรกเรื่องการพูดคุย ถ้าคุย คนนี้คุยกับเรารู้เรื่อง ส่วนมากชอบคนอารมณ์ดี
ท้ายสุดก็ฝากด้วยค่ะกับเรื่อง ‘สงครามนางงาม ซีซั่น 2’ รับรองตัวละครแซ่บทุกตัว ฝากตัวละครกิ๊บด้วย ถึงแม้จะเหมือนเด็กก็อย่าเพิ่งตัดสิน รอดูท้ายๆ เรื่องดีกว่าค่ะ”