"พิมฐา" เปิดใจเล่าการเป็นแบบให้ "อ.ธงชัย" วาดภาพใน "daradaily Double Great for Charity 3"
"พิมฐา ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล" เปิดใจกับการเป็นแบบให้ "อ.ธงชัย" ในงาน "daradaily Double Great for Charity" ซึ่งได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3
กลับมาอีกครั้งกับปรากฏการณ์งานศิลปะที่ยิ่งใหญ่อย่าง "daradaily Double Great for Charity" ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้วในปี 2559 ซึ่งงานดังกล่าวเป็นการนำเอาจิตรกรแห่งวงการศิลปะไทยที่มีชื่อเสียง มาวาดภาพดาราตัวท็อปของวงการบันเทิง เพื่อเป็นการสนับสนุนศิลปะและจิตรกรไทย
โดยครั้งนี้มีความพิเศษมากกว่า 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ในครั้งที่ 1 ได้มีภาพวาดรวม 14 ภาพ ครั้งที่ 2 จำนวน 19 ภาพ แต่ในปีนี้มีจำนวนภาพวาดสูงถึง 23 ภาพ และยังได้ดาราชาวฮ่องกงมาเป็นแบบอีกด้วย ซึ่งคนต่อมาที่เราจะมาพูดถึงการร่วมงานในครั้งนี้ก็คือ เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง "พิมฐา ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล" ได้ออกมาเปิดใจถึงการร่วมงาน "daradaily Double Great for Charity" ครั้งที่ 3 ว่า
ไม่น่าเชื่อเลยว่าอาจารย์จะติดต่อมาด้วยตัวท่านเอง ก็อ่านเหตุผลแล้วว่าตนมีความคิดที่คล้ายกันแล้วรู้สึกเป็นเกียรติเพราะว่าไม่เคยได้รับการติดต่อให้มาเป็นแบบภาพวาดหรืออะไรแบบนี้ คิดว่าศิลปะมันเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าอ่านเหตุผลจากอาจารย์แล้วตนเป็นคนเชียงใหม่เหมือนกันด้วย ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน เรารู้สึกดีใจแล้วก็เป็นเกียรติมาก
ผลงานของอาจารย์ตนรู้ตัวว่ายังเด็กอยู่ ยังไม่ค่อยได้รู้จักซึมซับกับศิลปะมากมายขนาดนี้ แต่ภาพที่อาจารย์ส่งมาให้ดูมันสะกดตามากในความรู้สึก มันเป็นอะไรที่สวยงามมีเอกลักษณ์มาก จริงๆ แล้วศิลปะไทยมีมานานมากแล้ว มีความรู้สึกเป็นการส่วนตัวว่า เด็กสมัยนี้หรือว่าน้องๆ รุ่นใหม่ๆ ห่างไกลกับศิลปะที่เป็นแบบดั้งเดิม ลายไทยอะไรอย่างนี้ แต่ว่ารุ่นตนยังมีโอกาสเหมือนวิชาศิลปะก็ยังให้วาดลายไทยอยู่ รู้สึกว่ารุ่นนี้ไม่ค่อยได้สัมผัสซึมซับมันมาก มันมีหนทางที่เราใช้สื่อ แสดงความสวยที่แท้จริงของมันออกมา มีความเป็นไทย รู้สึกว่าเป็นที่นิยมไปได้ตลอดกาล เพราะว่าจะทำให้คนรุ่นใหม่ซึมซับได้เร็วในรูปแบบไหน
ด้าน อ.ธงชัย ได้เผยถึงการทำงานครั้งนี้ต่อว่า ตนเห็นที่พิมฐาไปวิ่งที่ Coro Field ก็มองว่าเด็กคนนี้น่ารักมาก น่ารักจริงๆ ก็ดูจาก IG เห็นเขามีบุคลิกภาพนิ่งน่ารักดี แล้วก็ทำให้เราคิดฝันจินตนาการได้ เป็นทูตแห่งความงาม
จริงๆ แล้วศิลปะทั่วไปมองที่ศิลปะต้นแบบเป็นนางแบบ นางแบบต้องมาส่งเสริมให้การทำงานศิลปะเป็นผลขึ้นมาโดยมีแรงบันดาลใจมาจากเขา คือมองอย่างนี้ฉะนั้นเวลางานออกมามันจะเป็นภาพที่ไม่ใช่ภาพเหมือนทั่วไป เป็นผลงงานที่เป็นศิลปะแล้วก็มีภาพลักษณ์ออกมา
พอได้เห็นตัวจริงเสียงจริงของพิมฐาแล้ว สิ่งที่น่ารักที่เป็นความจริง มันเป็นความจริงจับต้องได้ ทีแรกคิดว่าไม่สามารถจับต้องเขาได้ เพราะว่าเขาอยู่ในอินเทอร์เน็ตมันเป็นเรื่องของดิจิทัล มันจับต้องไม่ได้เป็นนามธรรมสิ่งที่เห็นก็ลวงตาบ้างไม่ลวงตาบ้างบางทีหน้าสวยในรูปเจอตัวจริงมันไม่ใช่ แต่พิมฐาสวยจริง