แบ่งเค้กไม่ลงตัว ชนวนนักแสดงชิ่งหนี
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลังจากที่มีข่าวว่าศิลปินหลายคนในสังกัด “นาดาวบางกอก” ซึ่งเป็นบริษัทดูแลศิลปินในสังกัด GTH (ปัจจุบันคือ GDH) ทยอยตบเท้าย้ายค่าย ทั้งเป็นนักแสดงอิสระ และเซ็นสัญญากับทั้งช่อง 3 และช่อง 7
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือนักแสดงสาว “พีค ภัทรศยา” ที่ไม่กี่วันก่อน ได้เปิดใจแถลงข่าวในการมาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 ว่า
“ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับช่อง 7 เป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากรู้สึกว่าสนุกกับการทำงานละคร และอยากทำให้ต่อเนื่อง ส่วนงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่งานละคร สามารถรับได้แต่ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ถามว่าข้อเสนอเรื่องค่าตัวสูงกว่านักแสดงท่านอื่นหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด แต่ก็ถือว่าเหมาะสมสำหรับตนเองแล้ว และวันนี้ก็รู้สึกดีใจที่ช่องให้เกียรติโดยการจัดแถลงข่าว ซึ่งตนเองก็ตั้งใจว่าจะทำงานให้เต็มที่และดีที่สุดเช่นกัน
ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญากับช่อง 7 ก็ได้มีการปรึกษากับผู้ใหญ่ทาง GDH แล้ว ซึ่งทุกท่านก็ยินดีไม่ได้ว่าอะไร ท่านสนับสนุนทุกการตัดสินใจของเรา ยืนยันสาเหตุที่เซ็นสัญญาไม่เกี่ยวกับที่เก่าไม่ป้อนงานให้เหมือนเมื่อก่อน เพราะที่ผ่านมา ก็ได้ร่วมงานมาตลอดอยู่แล้ว และเราก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกันดูแลกันเหมือนเดิม อีกอย่างที่นั่นเขาดูแลกันเป็นสัญญาใจมาตลอด แต่พอดีช่วงนี้เราอยากเล่นละครจริงจัง และก็อยากทำงานแสดงให้เต็มที่ ก็เลยรู้สึกว่าที่นี่น่าจะสนุกและก็เป็นโอกาสดีสำหรับตนเองเช่นกัน เนื่องจากเราก็ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ “
ซึ่งงานนี้มีข้อมูลเชิงลึกจากแหล่งข่าววงใน เปิดเผยกับทีมข่าว “ดาราเดลี่”ว่า ส่วนหนึ่งที่นักแสดงหลายคน ตัดสินใจเดินออกมาเมื่อหมดสัญญากับ “นาดาวบางกอก” และ “ GTH” เหตุผลหลักหนึ่งประการคือเรื่อง “ผลประโยชน์” โดยแว่วมาว่า ค่าตัวการออกงานอีเวนท์ของศิลปินจะอยู่ตั้งแต่ 60,000 – 150,000 บาท แล้วแต่ความมีชื่อเสียงของศิลปิน แต่ทว่าเงินที่ได้รับนั้นจะถูกหักเข้าบริษัทถึง 40 % บวกกับค่าคนดูแลศิลปินอีกงานละ 10% ดังนั้นศิลปินจะได้รับเพียง 50 % เท่านั้น
ยกตัวอย่างหากมีรายได้ 100,000 บาท จะถูกหักเข้าบริษัท 40,000 บาท ให้คนดูแลศิลปิน 10,000 บาท เงินจะถึงตัวศิลปินเพียง 50,000
ส่วนงานโฆษณานั้น จะมีอัตราส่วนคือ หักเข้าบริษัท 40 % ส่วนศิลปินจะได้รับค่าจ้างที่ 60 %
ผิดกับการศิลปินที่ไม่ได้สังกัดค่าย จะได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่านี้ โดยส่วนใหญ่จะหักให้ผู้จัดการส่วนตัว 20 -30 % ส่วนศิลปินเองจะได้ที่ 80-70 %
หากเรื่องนี้เป็นความจริงอย่างที่แหล่งข่าวยกชึ้นมาเล่าให้เราฟังนั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนคิดหนัก จนต้องตัดสินใจเดินออกมา