เปิดเรื่องเล่าความภูมิใจ "ทาทา" ร้องเพลงเอเชียนเกมส์ต่อพระพักตร์ "ในหลวง"

เปิดเรื่องเล่าความภูมิใจ "ทาทา" ร้องเพลงเอเชียนเกมส์ต่อพระพักตร์ "ในหลวง"

    "อมิตา มารี ยัง" หรือ "ทาทา ยัง" รับภูมิใจที่สมัยเด็กได้มีโอกาสร่วมร้องเพลงเอเชียนเกมส์เพื่อพระองค์ท่าน

  

     เป็นอีกหนึ่งนักร้องเสียงทรงพลัง สาว "อมิตา มารี ยัง" หรือ "ทาทา ยัง" ที่เธอเองก็ได้มาร่วมงาน "King Bhumibol of Thailand : The People's King ในหลวงในดวงใจ" เมื่อทาง "ดาราเดลี่" มีโอกาสพูดคุยกับเธอ ซึ่งก็เผยถึงความประทับใจที่เคยได้ถวายงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในช่วงเอเชียนเกมส์ ที่ในวัยเด็กเธอได้ร้องเพลงต่อหน้าพระพักตร์ให้เราได้ฟังว่า

    "ถ้าพูดถึงการถวายงาน ขอพูดถึงช่วงเอเชียนเกมส์ เมื่อสมัยยังเด็กครั้งนั้นได้ร้องเพลงต่อหน้าพระพักตร์ต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ตอนนั้นรู้สึกเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว และครั้งนี้เองก็ได้รับโอกาสร้องเพลงเพื่อพ่ออีกครั้ง เมื่อปีที่แล้วร้องเพลงด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ท่าน ตอนนี้ก็ยังมีอยู่ แต่วันนี้ต้องร้องด้วยความรู้สึกที่ยากขึ้นมาก เพราะว่าไม่มีท่านแล้ว และคิดอยู่อย่างเดียวที่เป็นเกียรติที่สุดของตัวเอง ที่ได้ร้องเพลงนี้เพื่อจะนำเอาสิ่งที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านไปสู่สายตาประชาชนของโลกว่า พ่อหลวงของเราได้ทำอะไรไว้ให้เราบ้าง ทุกวันที่ออกจากบ้าน น้ำที่ใช้ ถนนที่ขับรถ น้ำมัน ทุกอย่างเมื่อมองไปรอบๆ นั่นคือพ่อหลวง นั่นคือพระองค์ท่าน

    ย้อนถึงตอนได้ร้องเพลงในงานเอเชียนเกมส์ตอนเด็ก ตอนนั้นยังจำได้ตลอด เป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต ปกติแสดงอะไรแล้วไม่ค่อยตื่นเต้น แต่ครั้งนั้นเป็นครั้งที่ตื่นเต้นที่สุด เพราะว่าเป็นเกียรติต่อครอบครัวมากที่สุด ฉะนั้นต้องทำออกมาให้ดี และเป็นตัวแทนของชาติ ดังนั้นต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ท่านผิดหวัง

    วันที่ทราบข่าวว่าพระองค์ทรงสวรรคต ตอนนั้นเพิ่งจบคอนเสิร์ตล้านตลับไปได้ไม่นาน ช่วงนั้นก็พักผ่อนและเลี้ยงลูกชาย ในฐานะที่เป็นคุณแม่ สารคดีที่สร้างขึ้นมานี้คิดว่าเป็นสิ่งที่ลูกชายจะต้องได้ดู และหลายๆ คนที่ควรจะได้ดู ส่วนตัวเองภูมิใจที่เป็นจุดเล็กๆ ที่ได้ร่วมงานนี้ เพราะว่าสารคดีนี้จะสอนให้ลูกได้เข้าใจ และคนไทยรวมถึงคนทั่วโลกรู้ซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน รวมถึงสิ่งที่พระองค์ท่านทำไว้ให้กับพวกเรา ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะไม่อยู่แล้วแต่อย่างไรก็ตาม ตลอดชีวิตของเราและครอบครัวจะไม่มีวันลืมพระองค์ท่าน

    สิ่งที่เราพูดเสมอว่าไม่ว่าจะไปต่างประเทศเวลาที่ไปโปรโมทอัลบั้มจะถูกถามเสมอเพราะว่าเป็นลูกครึ่ง จะมีคำถามจากคนต่างชาติว่า คุณคิดว่าเป็นคนไทยหรือคนอเมริกัน เราได้ตอบกลับด้วยคำตอบว่า เป็นคนไทย 100% และเป็นคนอเมริกัน 100% แต่เราภูมิใจที่สุดที่ได้เป็นคนไทยและเกิดบนผืนแผ่นดินไทยเพราะมีพ่อหลวงที่เก่งที่สุด และดีที่สุดกับพวกเราชาวไทย หลังจากนี้จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตามที่พ่อสอน ส่วนตัวเชื่อว่าหลายคนยังเศร้า แต่อยากให้นำสิ่งที่ท่านสร้างไว้ไปสานต่อ อยากให้ทุกคนสานต่อในสิ่งที่พระองค์ท่านทำ ให้ท่านเห็น และให้คนทั้งโลกได้เห็น"