“บัวขาว บัญชาเมฆ” ทุ่มทั้งตัวและหัวใจนักสู้กับการแสดงภาพยนตร์เต็มตัวเรื่องแรกใน “ทองดีฟันขาว”
แนะนำตัว
สวัสดีครับ ผม “บัวขาว บัญชาเมฆ” รับบทเป็น “จ้อย” หรือ “ทองดีฟันขาว” ตามชื่อหนังเลยครับ เรื่องนี้เป็นหนังที่ผมรับบทนำเต็มตัวเรื่องแรกครับ
บทบาท-คาแรคเตอร์
“จ้อย” หรือ “ทองดี” จะเป็นคนพูดน้อยต่อยหนักแต่ก็มีอารมณ์ขัน เขาจะชื่นชอบในเรื่องหมัดมวยเป็นชีวิตจิตใจ ไม่หาเรื่องใครก่อน แต่ถ้ามีคนมาหาเรื่องก็จะไม่ยอมเช่นกัน ทองดีเป็นนักสู้มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อในการเรียนรู้และฝึกฝนในวิชามวยต่างๆ จนโชคชะตาและความสามารถทำให้เขาได้เป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสิน
คาแรคเตอร์นี้ก็จะเกี่ยวกับการแสวงหาหรือการค้นหา คือ อยากจะเป็นนักต่อสู้ อยากจะเรียนมวย อยากจะมีวิชาของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก คาแรคเตอร์ก็จะเป็นคนบู๊ๆ เป็นคนรักอิสระ ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบอยู่ภายใต้ใคร มีความคิดของตัวเอง อยากเรียนรู้ศึกษาวิชาต่างๆ ไปเรื่อย พูดน้อยๆ สนใจเกี่ยวกับการต่อสู้มากกว่า ทุกคนในสมัยนั้นจะชอบเคี้ยวหมากกันก็เลยทำให้ฟันดำ ในส่วนของทองดีจะเป็นคนไม่ชอบกินหมากเคี้ยวหมาก ฟันก็จะขาว เลยได้ฉายาว่า “ทองดีฟันขาว” ตามชื่อเรื่อง
เรื่องราวชีวิตของทองดีฟันขาว
ครับ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องราวชีวิตนักสู้ของ “จ้อย” หรือ “ทองดี” ที่ต้องระหกระเหินจากครอบครัวตั้งแต่เด็กจนต้องออกเดินทางหาเงินเลี้ยงตัวเอง และเรียนรู้ฝึกฝนวิชาหมัดมวยจากครูมวยตามเมืองต่างๆ ทำให้เขาต้องต่อสู้เรียนรู้ชีวิตจนได้พบกับทั้งมิตรและศัตรูจนนำไปสู่จุดพลิกผันของชีวิตครั้งใหญ่เมื่อเขาได้เป็นทหารเอกคู่ใจแห่งพระเจ้าตากสิน
คือเริ่มต้นตั้งแต่เด็กๆ ก็จะชื่อ “จ้อย” ก่อน เป็นเด็กในเมืองพิชัย พอโตมาเราก็จะเปลี่ยนชื่อเป็น “ทองดี” แต่จะรู้จักกันในฉายา “ทองดีฟันขาว” เพราะว่าฟันขาวแตกต่างจากทุกคน เพราะเราจะไม่กินหมาก พ่อเราก็เป็นครูมวย รู้เกี่ยวกับวิชามวย แต่ไม่สอนวิชามวยให้ อยากให้ศึกษาเล่าเรียนไป แต่ในส่วนของทองดีก็คือ สนใจในการต่อสู้มากกว่า อยากเรียนวิชาหมัดมวย แต่พ่อไม่อยากให้เดินตามรอยพ่อ ไม่อยากจะให้มาเป็นเด็กอันธพาลเกเรไปชกต่อยกับชาวบ้านเค้า แต่ทองดีก็โดน “เชิด” ลูกเจ้าเมืองรังแกเสมอ จนวันหนึ่งเกิดเรื่องชกต่อยกันจนเชิดบาดเจ็บ เราก็เดือดร้อนอยู่ไม่ได้ละ ก็เลยต้องหนีออกจากหมู่บ้าน หนีจากพ่อแม่ไป ก็เลยต้องสนใจศึกษาเกี่ยวกับวิชามวยต่างๆเพื่อที่จะทำให้ตัวเองเก่งขึ้นมาเลยเป็นการเริ่มต้นหาวิชาความรู้เกี่ยวกับมวย, ดาบ, เหาะเหินตีลังกาไปเรื่อยๆ ต้องเดินทางไปแต่ละสำนักแต่ละค่ายที่ได้ยินว่ามีสอนวิชาต่างๆต้องร่อนเร่ไปเรื่อย โดยในใจของทองดี คือ ถ้าอยากจะเก่งเหนือใคร ก็ต้องไปหาครูที่เก่งกว่าเขาทางนั้น แล้วก็ต้องศึกษาว่าครูคนไหนที่เก่งด้านไหนก็จะต้องไปเรียนกับครูคนนั้นตามที่ได้ยินมาว่าเค้าเก่งจริงๆ
หลังจากที่เราแสวงหาได้เรียนวิชาต่างๆ จนตัวเองคิดว่ามีวิชามวยในตัว จากที่ไปศึกษาจากครูมวยทั่วทุกสารทิศละ ก็ได้ยินว่าเค้าจะมีการเปรียบมวยขึ้นชกเพื่อพิสูจน์ความเก่งของแต่ละคน แต่ละภาค แต่ละที่ ไหนๆ เราก็ได้เรียนวิชามวยต่างๆ มาก็น่าจะไปประลองดูว่าจะเป็นยังไง ซึ่งจะต้องไปประลองหน้าพระที่นั่งของท่านพระยาตากด้วย ตรงนี้ก็เลยทำให้เราสนใจขึ้นมาครับ