ข่าวฮอตประจำปี 2559 ลำดับเหตุการณ์ "ดิว-ไผ่" ผ่านมรสุมอะไรบ้างในปีนี้
เดินทางเข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2559 แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าปีนี้ก็มีข่าวสุดฮอตที่เป็นประเด็นถูกพูดถึงของคนบันเทิงทั้งในประเทศและนอกประเทศมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข่าวที่เรียกเสียงเฮ สร้างสีสันโดนใจ ตลอดถึงเรื่องช็อกวงการ ข่าวเศร้าต่างๆ ที่ทำแฟนคลับสะเทือนขวัญไปพร้อมๆ กัน ทาง "ดาราเดลี่" เลยทำการเลือกข่าวบันเทิงที่เป็นประเด็นมีคนพูดถึงเป็นอย่างมากในวงการบันเทิงปี 2559 มาฝากกัน เพื่อไม่ให้คุณพลาดหรือตกเทรนด์ข่าวในวงการบันเทิงประจำปีนี้
อีกหนึ่งคู่สุดหวานของวงการบันเทิงอย่างสาว "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" และ "ไผ่ ลิกค์" หรือ "ไผ่ วันพอยท์" ที่ทั้งสองมักจะพากันไปเที่ยวเติมความหวานกันบ่อยครั้ง แต่ก็มีข่าวเมาท์หลุดออกมาถึงความสั่นคลอนของความสัมพันธ์ของทั้งคู่อยู่บ่อยครั้ง ทาง "ดาราเดลี่" จึงขอรวบรวมลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ของทั้งคู่ให้ผู้อ่านได้ติดตาม
เริ่มต้นที่วันเกิดครบรอบอายุ 26 ปีมาหมาดๆ สำหรับสาว "ดิว อริสรา" ที่ปีนี้เธองดจัดงานวันเกิด เพราะเพื่อนซี้ "กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์" เตรียมตัวรอคลอด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แฟนหนุ่มของเธอก็เซอร์ไพรส์ด้วยของขวัญเป็นนาฬิการาคาค่อนข้างสูง ซึ่งฝ่ายชายบอกเป็นของที่มีความหมาย โดยฝ่ายชายไม่ค่อยจะทำเซอร์ไพรส์เธอ แต่ครั้งนี้สาว "ดิว" ยอมรับมีความประทับใจ ซึ่งนาฬิกาประมาณ 6-7 หลัก และหลายคนมองว่าเธอกำลังเตรียมมีข่าวดีหรือเปล่า
จากนั้นมีแชทหลุดออกมาถึง 2 รอบ ซึ่งอ้างว่าเป็นการพูดคุยกันระหว่างนักแสดงหน้าใหม่ "เจนี่ เจนิลา" กับหนุ่มไฮโซ "ไผ่ วันพอยท์" แฟนของนักแสดงสาว "ดิว อริสรา" เธอก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ตกใจอะไร แต่ที่ตกใจเพราะไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โต ด้านไผ่เล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมดแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และเราก็ทราบตามที่เขาบอก ช่วงแรกที่รู้ก็ตกใจ แต่ช่วงนั้นมันก็ผ่านไปสักพักแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่ดี ถ้าเราจะห่างกันจริงๆ ก็ด้วยเรื่องการงาน หน้าที่ของเรา เราเรียงลำดับความสำคัญเรื่องงานไว้เป็นอันดับแรก ตามด้วยธุรกิจ ครอบครัว และความรัก ไม่มีเวลาที่จะนำเรื่องนี้เก็บไปคิดดราม่าได้ ยืนยันความสัมพันธ์กับไผ่ยังดี พูดคุยกันตามปกติ
และส่วนตัวเธอแล้วไม่เคยรู้จักกับดาราสาวที่ตกเป็นข่าวมาก่อน และไม่จำเป็นที่จะต้องไปพูดคุยอะไร ส่วนเรื่องราวทั้งหมดนี้ขอไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย
หลังจากนั้นไม่นานก็ดูเหมือนจะเป็นการการันตีความสัมพันธ์ของหนุ่ม "ไผ่" และสาว "ดิว" ว่ายังดีอยู่ ด้วยการที่ทั้งสองนั้นควงคู่กันไปช้อปปิ้งสุดหรู เรียกว่างานนี้ข่าวลือก็ไม่สามารถทำลายรักของทั้งสองได้จริงๆ จนหลายคนมองว่าคบกันเพราะเงิน
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางฝ่ายชายก็ได้โพสต์ภาพแฟนสาวนั่งยิ้ม และให้กำลังใจแฟนสาวว่า "เห็นรอยยิ้มหวานๆ แบบนี้กี่ทีก็ชื่นใจเนอะ ขอบคุณที่เข้าใจ อย่าไปฟังเสียงนกเสียงกาเพราะพี่รับรู้ได้ว่าเราอยู่กันเพราะอะไร มันคือความรักความเข้าใจ พี่คงไม่คบกับใครเพราะเค้าอยู่เพราะเงินแน่ และพี่ก็เชื่อว่าถ้าหนูต้องการเงินคงมีคนที่ให้ได้เยอะกว่า ไม่ได้จะมาพูดเรื่องนี้ให้ใครรับรู้ แต่เห็นใครว่าดิวก็รู้สึกไม่ดีเลย โอกาสคนเราคงมีไม่บ่อย จะรักษาไว้ให้ดีนะคะ @duearisara สัญญานะที่จะทำให้ยิ้มแบบนี้ตลอดไป ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจคู่เรานะครับ และใครที่ไม่โอเคกับคู่เราผมจะทำให้เชื่อให้ได้ นี่คือความรัก"
แต่แล้วก็เกิดประเด็นร้อนในโลกออนไลน์จากเว็บบอร์ดดัง "ด่วน นางร้ายมือตบ กินยาตายประชดผัว แฉคลั่งหนักดักตบมนุษย์เมียน้อยทุกคนที่ผับ" ที่เนื้อหาในกระทู้เล่าถึงนางร้ายถูกหามส่งเข้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง หลังจากที่เธอนั้นกินยานอนหลับประชดรักเกือบ 40 เม็ด เหตุเพราะแฟนหนุ่มคุยกับสาวมากหน้าหลายตา
ซึ่งหลายคนก็พุ่งประเด็นไปที่นางร้ายหน้าสวย "ดิว อริสรา" และแฟนหนุ่ม "ไผ่ วันพอยท์" ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งคู่ก็เคยมีประเด็นดราม่าว่าห่างกันออกมาหนาหู ที่ครั้งนั้นทางฝ่ายหญิงออกมาเผยว่าช่วงนี้ตนทำงานหนักมาก จนไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกับฝ่ายชายเท่าไหร่ ส่วนด้านฝ่ายชายก็มีไลน์ลับหลุดแอบแชทคุยกับนักแสดงสาวน้องใหม่ "เจนี่ เจนิลา" แต่ก็เคลียร์จบ และดูสวีทหวานกันดี มีภาพมุ้งมิ้งออกมาเฟซไทม์หากัน
แต่ไม่รู้ว่ากระทู้ดังกล่าวกับคนที่ชาวเน็ตคาดเดานั้นจะใช่คนเดียวกันหรือเปล่า และล่าสุดยังมีคนจับสังเกตว่าสาว "ดิว" นั้นได้อันฟอลโลว์แฟนหนุ่มใน IG ไปซะแล้ว ซึ่งงานนี้ก็ไม่รู้ว่าความรักของทั้งคู่นั้นยังหวานกันอยู่หรือเปล่า และสาเหตุที่ฝ่ายหญิงอันฟอลโลว์ฝ่ายชายนั้นก็ยังไม่มีใครรู้
หลังจากนั้นทางหนุ่ม "ไผ่ วันพอยท์" เผยว่าข่าวลือดังกล่าวไม่มีมูลความจริง และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ "ดิว" เลยสักนิด ความรักระหว่างตนกับ "ดิว" มีความสุขดี ไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น แต่รับว่านักแสดงสาวเข้าโรงพยาบาลจริง แต่ด้วยอาการอาหารเป็นพิษตั้งแต่เมื่อวาน และแอดมิท 1 คืน ตอนนี้หายดีแล้ว และกลับบ้านเรียบร้อย และจะกลับมาทำงานถ่ายละครในช่วงสุดสัปดาห์นี้ตามปกติ ถ้าแฟนสาวของตนจะทำร้ายตัวเองจริง คงไม่ปล่อยให้เวลาเนิ่นนานขนาดนี้ คงจะทำตั้งแต่เกิดเรื่องไลน์หลุดเมื่อครั้งก่อนแล้ว
ทาง "ดิว" ออกมาเผยว่า ตอนนี้โอเคแล้ว ออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว ได้เห็นข่าวที่ออกมาก็ไล่อ่าน หลายๆ อย่างเขียนเกินจริงมาก ทำให้คนรอบข้างตกใจกันหมด ไลน์มาให้กำลังใจกันเยอะมาก อย่างเรื่องกินยา เราไม่ได้กินยาขนาดนั้น กินแค่ยาแก้ปวดตามปกติ เนื่องจาก "ดิว" ปวดท้อง และมีอาการท้องเสียจากอาหารเป็นพิษ เลยตัดสินใจนอนโรงพยาบาล 1 คืน ซึ่งตอนที่มาหาคุณหมอไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย เลยทำให้ติดต่อใครไม่ได้ แต่ "ไผ่" ก็มาเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานมีนักข่าวโทรมาสัมภาษณ์เขาเหมือนกัน ซึ่งเขาก็ชี้แจงไปแล้วว่า "ดิว" อาหารเป็นพิษ
ส่วนประเด็นเรื่องอันฟอลโลว์อินสตาแกรม "ไผ่" ก็เพิ่งมาสังเกตว่าเราไม่ได้ตามเขาจริงๆ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเพราะตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งก่อน พอมีข่าวเขาก็แอบโกรธๆ เหมือนกันว่า อ้าว ไม่ได้ตามพี่เหรอ แต่ตอนนี้ก็กลับไปฟอลโลว์ "ไผ่" เหมือนเดิมแล้ว แล้วที่คนตั้งข้อสังเกตว่ารูปบางส่วนถูกลบไป ก็อยากชี้แจงว่าจริงๆ รูปคู่ "ดิว" กับ "ไผ่" ก็ยังมีอยู่ แต่ช่วงหลังๆ ทำงานหนักมาก ถ่ายแต่ละครเลยไม่ได้เล่นอินสตาแกรม
ส่วนที่ตนพูดเปรียบผู้ชายเจ้าชู้เหมือนเสือก็ปล่อยเขาไปนั้น ตัว "ไผ่" เองถูกมองว่าซ่อนเล็บหรือถอด แล้วก็อาจจะเข้าไปหาคนอื่นได้ ตามความคิดแต่ละคนเราเลยพูดแบบนี้ล่าสุดก็ดีเพราะเพิ่งไปต่างประเทศกันมา ด้านความสัมพันธ์อีกฝ่ายยังแน่นแฟ้นเหมือนเดิม และไม่ซีเรียสข่าวระหองระแหงเพราะข่าวที่ออกไปก็ไม่ได้เชื่อทุกอย่าง แต่ไม่ได้ระแวง จะเป็นไงก็น้อมรับ อยู่ที่อีกฝ่ายว่าจะทำตัวอย่างไรด้วย บังคับกันไม่ได้อยู่แล้ว
เธอเผยทิ้งท้ายว่า สำหรับอนาคตก็ไม่รู้ว่าจะว่ายังไง ที่ไม่เช็กไม่ได้แปลว่าเชื่อใจ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ไว้ใจแต่ไม่มีเวลาเช็ก เชื่อถ้าฝ่ายชายจริงจังคงไม่ต้องมี เพราะความลับไม่มีในโลก เราไม่เคยจุกจิกจู้จี้ฝ่ายชาย ก็ไม่กล้าตอบอะไรมากเพราะไม่มั่นใจในตัวเอง ยังไงก็ไม่มีใครเพอร์เฟคท์ ถ้าวันนั้นจะเกิดขึ้นมันก็เป็นการตัดสินใจของฝ่ายชาย อัพเดทหัวใจตอนนี้ก็มีความหวานแต่มันอยู่ที่สถานการณ์มากกว่า
ซึ่งถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเจอมรสุมมากมายหลายอย่าง แต่ความรักที่พวกเขามีให้กันก็ไม่ได้จืดจางน้อยลงเลย โดยทุกครั้งที่มีปัญหาเราก็จะสังเกตได้ว่าทั้งสองคนจะออกมาให้กำลังใจกันและกันอยู่เสมอ