“แม่บ้านมีหนวด” เผยสาเหตุเลือกรับงาน ไม่ซีเรียสคนมองเรื่องมาก
“บิว อิษณัฐ ชลมูณี” หรือ “แม่บ้านมีหนวด” เผยสาเหตุเลือกรับงาน พร้อมอัพเดทผลงานตอนนี้
อีกหนึ่งนักแสดงอย่าง “บิว อิษณัฐ” หรือที่รู้จักกันในนาม “แม่บ้านมีหนวด” ที่แจ้งเกิดกับชุดสุดอลังการ ล่าสุดเขาได้มาร่วมงาน “daradaily The Great Awards ครั้งที่ 6” เขาก็ได้เผยถึงผลงานตอนนี้ และยังเคลียร์สาเหตุที่หลายคนมองว่าเขาเป็นคนเลือกรับงานให้ฟังว่า
“สำหรับผลงานวันที่ 6 เดือนหน้านี้มีละคร ‘สงครามเพลง’ กำลังจะออนแอร์ สำหรับผลงานอื่นๆ หรือผลงานละครก็ติดตามได้ที่แฟนเพจเหมือนเดิม ตอนนี้มีเรียนอยู่ด้วย แต่ก็รับงานบ้างไม่ได้เยอะมาก มีรายการทั่วไปที่ยังคงมีอยู่ ผลงานก็พยายามรับเรื่อยๆ 2-3 ปีนี้จะวุ่นๆ แต่หลังจากนี้ก็โอเคแล้ว เต็มตัวมากขึ้น
ส่วนเรื่องปังขึ้นไหม ตอนนี้มันมีเด็กๆ เกิดใหม่ขึ้นมาเยอะ แต่ว่าข้อดีคือเรายังคงอยู่ได้ เรารู้สึกว่าเรายังโอเคอยู่ได้ รู้สึกว่าเราโอเคเราก็ต้องทำสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ แต่คือจริงๆ ตนมีอาชีพอีกอาชีพที่มันจริงๆ แล้วมันอยู่อีกฝั่งนึง เราก็ทำตรงนั้นประกอบกับอันนี้ที่เป็นงานอดิเรกไป ก็ทำควบคู่กันไปไม่แย่ต่อภาพลักษณ์มาก ก็โอเคทำได้ แต่อันไหนที่มันแบบแย่ๆ มากก็ต้องพักไว้ก่อน การจัดระบบระเบียบเรื่องงาน จริงๆ เป็นคนที่ซีเรียสเรื่องการเลือกงานค่อนข้างเยอะมาก เพราะอย่างครีมผิวขาวหรือยาลดความอ้วน ตนไม่สามารถทำได้ คืออยากจะขอโทษทุกคนผ่านทางนี้ไปด้วยเลยแล้วกัน ไม่ได้หยิ่ง แต่มองผลิตภัณฑ์ว่ามันเหมาะกับเราจริงหรือเปล่า เราเลยรู้สึกว่าเอาตรงนั้นดีกว่าเป็นสำคัญ
ด้านค่าตัวถ้าสู้ไม่ไหวก็ไม่ต้องตามมา ดิฉันไม่ได้จน ไม่ได้ซีเรียส ชุดที่ใส่วันนี้ก็หลักแสน ไม่ซีเรียสถ้าค่าตัวไม่ถึง ไม่สู้ก็ไม่เป็นไร ดิฉันก็อยู่บ้านสบายๆ ส่วนเรื่องคนมองเรื่องมาก จริงๆ ตั้งแต่วันแรกเลย ณ ปัจจุบันนี้ก็ยังคงเรื่องมากอยู่ เพราะตนไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าทุกอย่างที่ผ่านมามันง่าย คือทุกอย่างตนตั้งใจทำ แล้วอีกอย่างคือมันเป็นงานที่เราครีเอทีฟ ไม่ได้เป็นงานที่แบบทำอะไรก็ได้แล้วแต่ เราเลยรู้สึกว่าทุกอย่างมันมีมูลค่า มันมีค่าของความคิด ใครที่เห็นค่าเรานั่นแหละตรงนั้นค่อยว่ากันอีกที เลือกงานไหม จริงๆ ก็ต้องเลือก อย่างที่บอกไป คือบางอย่างมันไม่ได้เหมาะกับเรา เอาอันที่เราใช้จริง อะไรที่เราทำจริงเราเอาอันนั้นเป็นหลักดีกว่า เราไม่อยากหลอกตัวเอง แล้วไม่อยากหลอกคนที่ตามฟอลโลว์เราด้วย เพราะเรารู้สึกว่ากลุ่มนั้นมันเป็นกลุ่มที่ทำให้เรามีชื่อเสียง เรารักกลุ่มที่รักเรา เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลตรงนี้ให้ดี
กับงานละคร ส่วนมากออกแนวเพื่อนมาบังคับมากกว่า เพื่อนที่รู้จักกันก็แบบมาเล่นให้หน่อย ก็จะขำๆ มากกว่า คือด้วยความที่เรียนอยู่ด้วย ซึ่งเรื่องบางเรื่องก็ไม่อาจจะไปได้ เพราะต้องดูเรื่องของเวลา ส่วนที่เอาเราเป็นไอดอล เอาในสิ่งที่มันเป็นประโยชน์ไปเป็นทัศนคติ ไปปรับใช้ในแง่คิดของการทำงาน ในแง่คิดของการใช้ชีวิต ก็เอาเรื่องดีๆ ไปดีกว่า ส่วนในเรื่องแย่ๆ ก็ทิ้งมันไป มันก็อาจมีเรื่องแย่ๆ บ้าง คนเรามันไม่มีดี 100% ก็รู้สึกดีนะ แต่ก็ต้องเลือกบริโภค เลือกใช้อะไรที่มันเป็นประโยชน์ดีกว่า
หลังจากนี้ก็จะมีซิทคอม แล้วมี ‘สงครามเพลง’ ที่ออนแอร์ไป ส่วนพวกรายการจะเป็นรายการท่องเที่ยว ซึ่งเที่ยวทั่วเมืองไทยแล้วก็ต่างประเทศ อันนี้จะเป็นช่องแชนแนลของตัวเอง แต่ว่ากำลังถ่ายทำอยู่ เดี๋ยวเดือนหน้าจะไปอยู่ญี่ปุ่นเดือนนึง คือเปิดเป็นประเทศแรกเลยคือประเทศญี่ปุ่น”