เปิดลิสต์ 6 นักร้องชายไซส์ XL ที่เสียงร้องสะกดคนฟังต้องเคลิ้มตาม
6 นักร้องชายไซส์ XL เสียงร้องสะกด สุขุมนุ่มลึก ที่คนฟังต้องเคลิ้มตาม
ปัจจุบันมีนักร้องแจ้งเกิดกันมากมาย ซึ่งแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์ที่ต่างกันออกไป และมองในอีกมุมหนึ่งยังมีนักร้องที่หุ่นดูอบอุ่นแต่เสียงร้องของเขาสามารถกระชากใจคนฟังจนหลายๆ คนเคลิ้มตามได้ ด้วยเสียงเป็นเอกลักษณ์ และความสามารถเฉพาะตัวในการขึ้นโชว์ ไม่ว่าจะเป็นลีลา มุกตลก และด้วยหุ่นของพวกเขาก็ดูน่ากอด เป็นที่จดจำ อีกทั้งน้ำเสียงก็แรงไม่ตกแม้ว่าจะขึ้นร้อง เต้น สักกี่เพลง ทาง “ดาราเดลี่” จะพาไปส่องนักร้องชายที่หุ่นอวบน่ากอด แถมเสียงยังไพเราะน่าฟังจะมีใครกันบ้างไปดูกัน
เริ่มกันที่คนแรกกับหนุ่ม “โดม จารุวัฒน์ เชี่ยวอร่าม” แชมป์จากเวทีค้นฟ้าคว้าดาว ด้วยพลังเสียงของเขาที่สามารถสะกดผู้ฟังได้ทั้งฮอลล์ หลังจากที่ออกจากบ้านเขาก็ได้มีผลงานเพลงปล่อยออกมาให้เราได้ฟัง ซึ่งแต่ละเพลงของเขาคงคุ้นหูดี และเนื้อหาของเพลงกินใจ บวกกับการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านเสียงเพลงของหนุ่ม “โดม” ก็สามารถสะกดผู้ฟัง พร้อมร้องตามกันได้หลายเพลง เช่น คำอธิษฐานด้วยน้ำตา, เรื่องจริงเรื่องสุดท้าย, รักแท้อยู่เหนือกาลเวลา
ต่อกันที่ “เบน ชลาทิศ ตันติวุฒิ” นักร้องที่ขึ้นชื่อเรื่องการร้องเพลงแนวสบาย ฟังง่ายด้วยเสียงของเขาที่ออกหวาน ยิ่งพลังเสียงของเขาก็ดีเกินร้อย เขาได้ฝากผลงานเพลงที่เป็นที่รู้จักดีอย่าง “โอ๊ย โอ๊ย” เพลงประกอบละครเรื่อง “แจ๋วใจร้าย กับ คุณชายเทวดา” ด้วยเนื้อหาในเพลงที่สื่อถึงความรักที่ต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้คนเดียว เขาสื่ออารมณ์ออกมาได้กินใจไม่ว่าใครฟังจะต้องหลงรักในน้ำเสียง แถมเขายังมีความตลกสามารถสร้างสีสันให้ได้ทุกงาน
ส่วนคนต่อไปเจ้าของเสียงทุ่มสุดนุ่มลึก “กิต The voice Season 2” หนุ่มที่มีเสียงเพลงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ด้วยเสียงต่ำที่มีเสน่ห์ จนทำให้เขาสร้างแรงดึงดูดให้กับผู้ชมทั้งประเทศ เขาได้เป็นที่รู้จักจากเวทีเดอะวอยซ์ แต่ก่อนหน้านี้เขาก็เป็นที่รู้จักในวงการละครเวที เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อละครเวทีก็ว่าได้ เพราะเขาเคยเป็นผู้ดูแลการร้องเพลงให้กับนักแสดงนำในละครเวทีอย่าง Miss Saigon, เลือดขัตติยา และอยู่เบื้องหลังการพากย์เสียงตัวละครจากภาพยนตร์ชื่อดังถึง 2 เรื่องด้วยกันอย่าง “Beauty and the beast โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” โดยเขาได้พากย์เป็น “เดอะบีสท์” และ “The Jungle Book” พากย์เป็น “บาลู” แถมเขาได้แสดงละครเวทีที่ออกแนวโรแมนติก คอมเมดี้ อย่าง “วันสละโสดกับโจทก์เก่าๆ” ซึ่งเขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีทีเดียว
ถึงคิวของนักร้องร่างอบอุ่นอีกคน “บอย ตรัย ภูมิรัตน” ที่เขามีเพลงฮิตติดหูอย่างเพลง “จะได้เจออีกไหม” ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “Friendship เธอกับฉัน” ด้วยเนื้อหาเพลงที่ฟังสบายๆ บวกกับเสียงของเขาที่นุ่ม ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายได้ และยังมีเพลง “กลับมา" ที่เนื้อหาเพลงจะดูเศร้าๆ แต่เขาก็สามารถร้องสื่ออารมณ์ด้วยน้ำเสียงเล็กๆ และเพราะกินใจไม่แพ้กัน
มาถึงหนุ่มแรปเปอร์ร่างใหญ่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” หรือ “กอล์ฟ ณัฐวุฒิ ศรีหมอก” เป็นที่รู้จักในวงกว้างในเพลง "ราตรีสวัสดิ์" ที่ร่วมร้องกับ "ธีร์ ไชยเดช” เนื้อหาเพลงที่กล่าวถึงทหารที่ทำหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่กระแสดังมากในโลกโซเชียล และหลังจากนั้นเขาก็ได้ไปร่วมแจมกับศิลปินคนอื่นอีกหลายคนอย่างเพลง พูดไม่คิด, รอฉันอยู่ตรงนั้น, เหงาเท่าอวกาศ และในช่วงที่เขากำลังจะกลายเป็นพ่อคน เขาได้แต่งเพลงออกมาเพื่อสื่อถึงลูกสาวที่กำลังจะเกิดมาอย่างเพลง “ชูใจ” โดยเนื้อหาเป็นเกี่ยวกับความรักที่มีต่อลูกและอยากให้น้องเกิดมาเป็นคนดีและสามารถอยู่โลกนี้ได้อย่างมีความสุข ซึ่งเพลงนี้หลังจากที่ปล่อยออกมากระแสจากคนฟังก็ดีไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นนักร้องฮิพฮอพเบอร์ต้นๆ ของประเทศที่ความสามารถล้นเหลือจริงๆ
ปิดท้ายกันที่หนุ่มสุดกวน “โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน” ที่ตอนนี้ได้เป็นบุคคลที่ฮอตที่สุดในโลกโซเชียลเลยก็ว่าได้ ด้วยคาแรกเตอร์ในตัวเขาเป็นคนตลกและพูดตรงมาก ทำให้กระแสในทวิตเตอร์ยอดฟอลโลว์พุ่งเพียงในเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ถ้าย้อนกลับไปในช่วงแรกเขาเป็นหนุ่มที่ร้องเพลงรักออกมาได้เพราะกินใจ เรียกได้ว่าถ้าใครได้ฟังเขาร้องจะต้องหลงในเสียงนุ่มๆ ของเขาอย่างแน่นอน อย่างเช่นเพลง “ที่รัก” เป็นเพลงที่ร้องประกอบละครเรื่อง “เกมร้าย เกมรัก” ซึ่งเพลงนี้ด้วยเนื้อหาที่ฟังแล้วยิ้มตามไปกับเพลงได้ และเป็นเพลงที่ดังมากในช่วงนั้น เรียกได้ว่าเป็นเพลงแจ้งเกิดขอเขาเลยก็ว่าได้ ยังมีอีกหลายเพลงที่เขาได้ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาให้ได้ฟังกันไม่ว่าจะเป็น กะทันหัน, การเดินทางของหัวใจ และเพลงล่าสุดของเขาอย่างเพลง “เมื่อวาน” ที่เป็นเพลงแนวความรักที่ค่อนข้างจะเศร้า ด้วยเสียงที่นุ่มและดูอบอุ่นเขาสามารถสื่อสารออกมาได้ดี ยิ่งถ้าใครฟังแล้วอินมากๆ อาจจะเสียน้ำตากับเพลงนี้ก็ได้
