เปิดประวัติ “แหวน ฐิติมา” ร็อกเกอร์สาวขวัญใจแฟนเพลงตลอดกาล
เปิดประวัติ “แหวน ฐิติมา สุตสุนทร” ร็อกเกอร์สาวขวัญใจแฟนเพลงตลอดกาล
เป็นอีกหนึ่งนักร้องที่หลายคนชื่นชอบในเสียงร้องของเธอ สำหรับ “แหวน ฐิติมา สุตสุนทร” ที่ต้องเผชิญโรคร้ายมาเป็นเวลานาน ทั้งโรคมะเร็งกระดูก, โรคมะเร็งเต้านม พร้อมกับมีโรคแทรกซ้อนเป็นมะเร็งลำไส้ และล่าสุดเธอได้จากไปอย่างสงบท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและแฟนคลับเป็นอย่างมาก ทาง “ดาราเดลี่” ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวร็อกเกอร์สาว วันนี้จะพาชาว ddsocial ย้อนดูประวัติเธอกัน
“แหวน ฐิติมา สุตสุนทร” เกิดเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2505 ประวัติการศึกษาของเธอมาจากโรงเรียนราชชินีบน และระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีวิทยา ระดับอุดมศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีบุตรสาว 1 คน คือ “ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ที่ตอนนี้เป็นนักแสดงอยู่ในปัจจุบัน
เส้นทางในวงการบันเทิงของเธอนั้นเริ่มต้นมาจากการทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยหลายอย่าง เช่นเป็นนักแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย เป็นนักร้องในวงลูกทุ่ง และได้เป็นดรัมเมเยอร์ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ ในปี 2554 เธอเข้าร่วมประกวดร้องเพลงมณเฑียรทองและได้รับรางวัลชนะเลิศ พร้อมกับได้ร้องเพลงกับวงโอเรียลเต็ลฟังค์ของ “เต๋อ เรวัต พุทธินันท์
เริ่มเข้าสู่วงการเพลงในปี 2527 จากการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง “วัยระเริง” ซึ่งเป็นแพลงแรกที่ได้ก้าวเข้าสู่นักร้องอาชีพ เรียกได้ว่าเธอเป็นนักร้องหญิงร็อคคนแรกของไทย และได้รับการเชิญชวนมาเป็นนักร้องในสังกัด แกรมมี่ จาก “เต๋อ เรวัต” เธอเป็นนักร้องที่สามารถร้องเพลงได้หลากหลายแนว และผลงานชุดแรกของเธอก็เกิดขึ้นในปี 2527 ชุด ฉันเป็นฉันเอง โดยมีเพลงยอดฮิต อย่าง ไดอารี่สีแดง, ผู้หญิงคนนี้, เชิ้ตแขนยาวสีเทา ซึ่งเป็นผลงานที่ถือว่าประสบความรำเร็จอย่างมาก และทำให้เธอโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้
และในเวลาต่อเมื่อเธอได้ประสบกับโรคร้ายที่จะต้องเอาชนะมันให้ได้อย่างโรคมะเร็งกระดูก หลังจากที่เธอต่อสู้กับโรคร้ายมาอย่างยาวนานและในวันนี้ร็อคเกอร์สาวได้จากไปอย่างสงบที่ โรงพยาบาลศิริราช เชื่อว่าเธอจะเป็นนักร้องที่จะอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป ซึ่งมีกำหนดพิธีบำเพ็ญกุศล แหวน ฐิติมา สุตสุนทร มีดังนี้ วันที่ 10 ก.ค. รดน้ำศพ เวลา 14.00 น. สวดอภิธรรม เวลา 17.00 น. ที่วัดธาตุทอง ศาลา 4 สวด ตั้งแต่วันที่ 10-14 ก.ค. และจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 15 ก.ค ทาง “ดาราเดลี่” ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของ “แหวน ฐิติมา” ด้วย