พูดดีก็เสมอตัว "มิ้นท์" ขอจบเรื่องนี้ ยันไม่เป็นมือที่สาม "โฟร์-พิชญ์"

พูดดีก็เสมอตัว "มิ้นท์" ขอจบเรื่องนี้ ยันไม่เป็นมือที่สาม "โฟร์-พิชญ์"

   "มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา" ขอยืนยันความบริสุทธิ์ ย้ำไม่ได้เป็นมือที่สามอดีตคู่รัก  "โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร" และ “พิชญ์ กาไชย” อย่างแน่นอน พร้อมแจงเหตุการณ์ร้านอาหาร 5 ปีก่อนที่ไปกับฝ่ายชาย โดนบิดเบือนสถานการณ์

   จากกระแสแรงบนโลกโซเซียล #ต่ำตมไม่หยุด ที่เกิดเป็นประเด็นดราม่าอย่างหนักจนโยงไปถึงนางร้ายสาวแห่งวิกพระรามสี่ "มิ้นท์ ณัฐวรา" ถึงกรณีที่เธอนั้นเป็นมือที่สามในความรักของอดีตคู่รักอย่าง "โฟร์ -พิญช์" เมื่อ 5 ปีก่อน เรื่องนี้ถูกพูดถึงอีกครั้งหลังจากที่เธอนั้นได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์แล้วเมื่อตอนที่เรื่องเกิด แต่ถึงอย่างไรหลายกระแสก็ยังสงสัยในความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่อยู่ว่าจริงเท็จอย่างไร และเมื่อสัปดาห์ก่อนเองในงานบวงสรวงสาว "มิ้นท์" ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อจึงยิ่งทำให้เกิดเป็นประเด็นว่าเธอนั้นชิ่งสื่อ ไม่อยากออกมาพูด ครั้งนี้เธอเองก็ไม่ขอเงียบ ขอให้สัมภาษณ์พร้อมชี้แจ้งถึงกรณีทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า

   สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นจากกระแส #ต่ำตมไม่หยุด จริงๆ แล้วตนไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้เลย จากแต่ก่อนนี้ตนมีกระแสเรื่องความสัมพันธ์มือที่สามมาตั้งแต่ 4 - 5 ปีก่อน คือมันถูกโยง มานานแล้ว แต่ตนก็ไม่ได้ออกมาพูด เพราะตนคิดว่าไม่มีอะไรจึงเงียบมาตลอด พอเป็นกระแสขึ้นมาอีก คนก็มีหยิบขึ้นมาพูดอีกและก็วกมาหาตนอีกครั้ง ตนพอทราบเรื่องเพราะคนก็ส่งมาให้อ่านเยอะมาก

   ครั้งนี้ตนก็ขอมาพูดในมุมของตัวเองที่สามารถพูดได้ ยืนยันว่ากับ "พิชญ์" เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้เป็นมือที่ 3 ไม่ได้ทำให้เขาเลิกกัน เหตุการณ์วันนั้นก็เหมือนเป็นการเข้าใจผิด และที่ไม่ออกมาพูดเลย เพราะคิดว่าคนจะคิดไปว่าร้อนตัว อย่างเหตุการณ์ที่โดนหยิบมาพูดอีกนี้ ก็คล้ายๆ กับที่เคยเจอในอดีต แต่คนนำไปพูดไม่หมดมันโดนบิดเบือนไป และไม่ได้อยากออกมาพูดต่อเพื่อเป็นกระแสอีก ตนก็เลยเงียบจนมีกระแสหนีนักข่าวออกมา เลยตัดสินใจออกมาพูดในมุมที่พูดได้ดีกว่าไม่งั้นหากเป็นกระแสอีกก็กลับมาที่ตนอยู่ดี จึงขอพูดเพื่อปกป้องและยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง

   สำหรับการออกมาให้สัมภาษณ์ ยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีคุยกับ "พิชญ์" บ้าง เขาก็บอกว่าไม่ต้องพูดอะไร ปล่อยมันไป และตนก็คิดหนักจนนอนไม่หลับ ไม่รู้จะพูดอย่างไร เพราะพูดดีก็เสมอตัว พูดไม่ดีก็ติดลบ เรื่องมันไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าพูดและโยงไปหาใครๆ อีก เรื่องอาจจะยิ่งใหญ่ขึ้น และเรื่องมันก็นานมากๆ จนแทบจะลืมแล้ว

   สถานการณ์ที่เขาพูดกัน คือพูดไม่หมด เหตุการณ์ที่ไปวันนั้นไปกัน 4 คน ร้านเอาท์ดอร์ ไม่มีสวีทกันแน่นอน คนที่เห็นก็พูดไม่หมด ไม่มีใครออกมาพูดให้ตัวเองออกมาดูไม่ดีหรอก ก็คิดว่าพูดอะไรที่พูดได้ ถามว่า “พิชญ์” ติดต่อมาขอโทษอะไรไหม เจ้าตัวบอกว่า ไม่มี เพราะไม่มีอะไรจะต้องขอโทษกัน  รู้กันอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ตนกับ "พิชญ์" ไม่มีอะไร เป็นเพื่อนกัน เขาก็ไม่อยากให้พูดถึงเขามาก เพราะเดี๋ยวจะเป็นว่าไปเข้าข้างฝ่ายชายอีก

       ส่วนเรื่องความรักกับหนุ่ม  “ต๋อง พอพงษ์ ชินวัตร" ตอนนี้ ถือว่าขึ้นๆ ลงๆ โสดเป็นพักๆ ตามอารมณ์ แต่ยังคุยคนเดียวอยู่ ยอมรับว่าความสัมพันธ์มีทะเลาะกันบ่อย อยู่ในช่วงที่ต้องปรับจูนกัน เรียกได้ว่าขอพัฒนาไปเรื่อยๆ ดีกว่า ไม่รีบร้อนเพราะคิดว่าเราทั้งคู่ยังอายุน้อยอยู่

        ด้านคนรู้ใจ ก็ไม่ได้ว่าอะไรกับประเด็นที่เกิดขึ้น ถึงขนาดแบบสอบสวนว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ได้ทำแบบนั้น ตอนนี้ก็ปรับตัวเข้าหากันทุกๆ วันอยู่แล้ว ไม่หวั่นเรื่องระยะทางถึงไม่ได้เจอกันเหมือนเมื่อก่อน เพราะว่าเขามีโปรเจ็คท์ต่างประเทศ แต่คุยกันทุกวัน ส่วนตัวคิดว่าขอแค่มีคนให้คุยให้ปรึกษาเท่านั้นเวลาทำงานกลับมาเหนื่อยๆ ก็พอ  แต่เวลาทะเลาะกัน ก็อยากจะบ้าตาย อยากจะปาโทรศัพท์ ตอนนี้ก็กำลังพัฒนาเรื่อยๆ