เปิดหมดเปลือก “พิชญ์” ตอบทุกประเด็นดราม่า “ต่ำตมไม่หยุด”
“พิชญ์ กาไชย” เปิดใจเคลียร์แฮชแท็กต่ำตมไม่หยุดเผยไม่เกี่ยวกับ “โฟร์ ศกลรัตน์ วรอุไร” รับหยิบท่อนคำพูดของโฟว์ในรายการมาเล่นจริง เปรยขอโทษหากทำให้เข้าใจผิด เผยเกรงใจพี่ฉอดที่ต้องมาโดนด้วย ปัดหลังจากเป็นกระแสไม่มีงานคู่ “โฟร์” ติดต่อเข้ามาแต่หากมีคงไม่รับ ยันไม่เคยมีการคบซ้อน
กลายเป็นประเด็นดราม่าไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับแฮชแท็กต่ำตมไม่หยุดหลังสาว “โฟร์ ศกลรัตน์” ไปเปิดใจเรื่องความรักในอดีต ก่อนที่แฟนเก่าอย่าง “พิชญ์ กาไชย” ที่ทำให้ทุกคนฮือฮาและต่างพูดถึงจนเกิดการขุดขุยและโยงสาวที่มีเอี่ยวเป็นมือที่สามของหนุ่ม “พิชญ์” กับสาว “โฟร์” ที่เธอได้พูดในรายการรวมไปถึงคำพูดของสาว “โฟร์” ที่หนุ่ม “พิชญ์” หยิบมาแซวเล่นจนหลายคนมองเป็นว่าหนุ่ม “พิชญ์” นั้นตั้งใจจะแขวะอดีตแฟนสาววันนี้เมื่อได้เจอเจ้าตัว จึงต้องเข้าไปถามถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าเป็นอย่างไรเขาเผยจุดเริ่มต้นของแฮชแท็กดังว่า
สำหรับแฮชแท็กจริงๆ แล้ววันนั้นนั่งเล่นเกมส์อยู่แล้วมีคนส่งรูป “โฟร์” ที่ให้สัมภาษณ์มา แล้วไอ้ที่ต่ำตมไม่หยุดมันคือในโปรไฟล์ทวิตเตอร์ พี่ “โอ๊ต ปราโมทย์” เขียนว่า "ในนี้ต่ำตมมากนะจ๊ะ"และก็เป็นคำที่พูดกันในกลุ่มอยู่แล้ว กับ “โฟร์” ก็เพิ่งคุยกันเมื่อสองเดือนก่อน ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าพอโพสต์ไปแล้วคนจะคิดยังงั้นรวมไปถึง “โฟร์” ในตอนนี้ก็อาจจะคิดว่าเราว่าเขาหรือเปล่าแต่ยังไงก็ยืนยังว่าไม่ได้ว่าเขา ส่วนไปคำพูดที่บอกว่าเราก็เพอร์เฟคท์ระดับหนึ่งมันเป็นการนำมาพูดเล่นเพราะเราก็คิดว่าเมื่อสองเดือนก่อนเรายังคุยกับ “โฟร์” อยู่เราก็แซวเขาเล่นๆเราไม่ได้จะว่าเขาว่าเขาเอาเรื่องนั้นมาพูด แต่ทั้งนี้ก็ต้องขอโทษจริงๆ ตอนโพสต์เราก็คิดว่าจะพูดกันเล่น “โฟร์” เขาก็น่าจะรู้จีกเราอยู่แล้วด้วยเราก็ไม่รู้ว่ามีคนรอบข้างด้วยเพราะเดี๋ยวนี้โลกโซเชียลมันแรง
สำหรับตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับ “โฟร์” เพราะยังไม่ได้เจอกันครั้งที่แล้วที่คุยก็คุยเรื่องงานกันทางโทรศัพท์ ทั้งนี้ก็กลัวเขาโกรธเหมือนกันพอตอนนี้มีคนมาสัมภาษณ์ก็เลยบอกหมดเลย ส่วนเรื่องที่เขาไปออกรายการไม่ได้พูดไม่ได้บอกอะไรเลยโดนส่วนตัวตอนนี้ยังไม่ได้ดูรายการนั้นเลยจริงๆ ตนเองเข้าใจว่าการทำรายการมันจะต้องมีการเล่าเรื่องถ่ายทำเยอะมันขึ้นอยู่ที่ว่ารายการจะตัดส่วนไหนมาออก กับ “โฟร์” คิดจะเคลียร์แน่นอนถ้ามีโอกาสกับข่าวนี้เราก็ไม่ได้เครียดอะไรตอนที่เกิดเรื่องเราก็ไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนี้
กับผลกระทบตอนนั้นก็แบตโทรศัพท์หมดเร็วมากเพราะมีเพื่อนๆ เขามาถามเขามาให้กำลังใจกันเยอะ และการที่คนโยง “มิ้นท์” มาเกี่ยวนั้นเราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกันเลยทั้งมีผมก็ยังไม่ได้ดูรายการนั้นและก็ไม่อยากไปรื้อฝื้นหรือไปขุดอะไรเพราะมันก็ผ่านมาหกปีแล้ว จริงๆ ทุกคนสามารถเล่าเรื่องของตัวเองได้ทุกคนก็จะมีมุมของตัวเอง “มิ้นท์” เขาก็ไลน์มาถามเราก็บอกแล้วแต่เขาก็รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไง ทั้งนี้ก็ไม่ได้คิดจะโกรธ “โฟร์” เพราะโกรธก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาอีกทั้งเราก็คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรื่องการยอมรับเรื่องที่ “โฟร์” เล่านั้นเราก็ยังไม่ได้ดูและก็ไม่คิดจะดูบวกกับเราเป็นผู้ชายด้วยจะมานั่งว่าผู้หญิงมันก็ไม่ควร เรื่องการคบซ้อนยืนยันได้เลยว่าไม่มี
ส่วนเรื่องที่โยงไปถึงพี่ “ฉอด” ไม่ทราบเลยเราก็เกรงใจพี่ “ฉอด” ที่ต้องมาโดนด้วย หากจะไปออกรายการของพี่ “ฉอด” เราก็คิดว่ามันคงจะแปลกๆ ที่จะไปนั่งเล่าเรื่องความรักของเรา ด้านการคุยการขอโทษพี่ “ฉอด” ยังไม่มี ส่วนข่าวที่ว่าเราไปกินข้าวกับ “มีน” กลางห้างไม่จริง “พลอย” เขาก็ไม่ได้ถามอะไรแต่ก็ส่งข่าวมาให้ดูทุกคนก็ขำหมด กับข่าวนี้จะกระทบต่อความสัมพันธ์ไหมจริงๆ หากเราเพิ่งเลิกลากับใครเมื่อปีที่แล้วมาเล่าเขาจะโกรธก็ไม่อะไรแต่นี้มันเป็นเรื่องนานมากหกปีแล้ว
กับที่คนโยง “มด” มาเกี่ยวด้วยก็งงว่าเลิกกับ “โฟร์” แล้วต้องมาต่อ “มด” เลยเหรอ ทั้งนี้ “พลอย” และเราก็ไม่เครียดอะไรที่บ้านไม่มีถามอะไรคิดว่าทุกวันนี้มันต้องมีเรื่องอะไรที่จะเคลื่อนโซเชียลขับเคลื่อนสื่อต่างๆ เพราะว่าหากเราทำบุญวันเกิดคงไม่มีใครมาถามแบบนี้
หลังจากเกิดแฮชแท็กนี้ไม่มีงานคู่เรากับ “โฟร์” ติดต่อมาเลยแต่หากมีก็คงไม่รับเพราะว่าไม่อยากเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นกระแสมาหาเงิน ทุกวันนี้มองหน้ากับ “โฟร์” ได้ไม่มีปัญหาเราพยายามทำทุกอย่างให้เป็นธรรมชาติอย่างเราหากจะเมนท์รูปนี้ของเขาก็ทำได้ตอนนี้ยังไม่ได้ลองดูเลยว่าเขาอันฟอลโลว์เราหรือยัง กับแฮชแท็กก็ยังเล่นตัวเองอยู่ในไอจีเนื่องจากเป็นคนแบบนี้บวกกับเราไม่ได้ไปว่าอะไรเขาเราก็สามารถเล่นได้แต่ในทวิตเตอร์ก็คงพอแล้ว
สุดท้ายอยากบอกว่าถ้า “โฟร์” คิดว่าเราไปว่าก็ต้องขอโทษด้วยเราไม่ได้ตั้งใจมาว่าแต่โอเคเราหยิบยกตรงนั้นมาเล่นไหมก็ใช่แต่ไอ้แฮชแท็กนั้นไม่ได้หมายถึงใครเลย