"เบน" เมินดราม่ารายการ "ล้างตู้เย็น" เผยยังไร้แพลนจดทะเบียนกับหวานใจ
"เบน ชลาทิศ ตันติวุฒิ" เมินเจอดราม่ารายการ "ล้างตู้เย็น" หลังจากใช้คำที่ไม่เหมาะสม ด้านความรักแฮปปี้เหมือนเดิมแต่ขอพักเรื่องจดทะเบียนไว้ก่อน
ทำเอานักร้องนักแสดงมากความสามารถ "เบน ชลาทิศ" ออกอาการเซ็งไม่น้อยที่อยู่ๆรายการ "ล้างตู้เย็น" รายการทำอาหารรูปแบบใหม่ที่เจ้าตัวเป็นพิธีกรดำเนินรายการ ถูกคนดูส่วนมากออกมาคอมเม้นท์ในเชิงต่อว่าว่าเป็นรายการที่ใช้คำไม่เหมาะสมและหยาบคายเกินไป จนเจ้าตัวต้องออกมาโพสระบายผ่านเฟสบุคส่วนตัว ล่าสุดหนุ่มเบนได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อว่า
ดราม่ารายการล้างตู้เย็นก็ตามที่เราโพสต์เลย คือคอนเซ็ปต์รายการที่เราทำเราได้คุยกันว่าจะทำรายการอาหารที่ไม่ต้องซีเรียสเป็นอารมณ์ครอบครัวกันเองมันก็เลยจะมีปัญหาเรื่องคำหยาบในการพูดจา เรียกว่าเป็นความสนิทสนมของคนทำรายการ แต่จริงๆทุกอีพีเราก็ขึ้นหัวทุกครั้งอยู่แล้วว่าเหมาะกับเยาวชนอายุ 20 ปีขึ้นไปแต่ก็เข้าใจว่าจะมีคอมเม้นท์ของพี่ๆที่หวังดีรวมไปถึงเพื่อนๆน้องๆหลายคนก็โพสบอกว่ามันมีคำหยาบคายเยอะไป ไม่อยากให้พูดคำหยาบซึ่งมันก็ต้องดูตามกาละเทศะว่ามันเป็นแค่เฉพาะรายการนี้ เราก็เห็นฟีดแบคถ้าเขาดูแล้วมีความสุขเราก็ดีใจแฮปปี้ เราก็พยายามดูทุกคอมเม้นท์อยู่แล้วว่าคนเขาคิดยังไงกับรายการเรา คอมเม้นท์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องที่เราใช้คำหยาบซึ่งเราก็อยากจะเอาใจทุกคนนะ แต่ว่าด้วยรูปแบบรายการเราเปลี่ยนไม่ได้เพราะฉะนั้นมันก็จะเป็นรายการทำอาหารทั่วไปเหมือนที่เราเคยเห็น
ถามว่าท้อใจมั้ยก็ไม่ท้อเลย จริงๆ เราเข้าใจแต่อันนี้ก็เห็นภาพชัดเจนว่าเราตั้งใจทำให้เพื่อนสนิทดู คนที่ดูแล้วเข้าใจก็จะเข้าใจกัน แต่คนที่คอมเม้นท์ว่าใช้คำหยาบอาจจะไม่ได้สนิทกับเรา คอมเม้นท์ดีๆก็มีครับเหมือนเป็นกำลังใจในการทำงานของเรา มันก็เป็นอีกงานนึงที่เวลาเดินไปไหนก็มีฟีดแบคจากคนดูจากประชาชนก็แสดงว่ามันเป็นรายการที่ไปตอบสนองความต้องการของเขาแต่สำหรับใครที่ดูแล้วมันยังไม่ใช่ คิดว่ามันดูเป็นคำหยาบมากเกินไปก็ต้องขออภัยจริงๆแต่ก็คงไม่ได้จะแก้ไขอะไร
ส่วนเรื่องแต่งงานกับหวานใจนอกวงการที่เจ้าตัวเคยออกมาพูดไว้เมื่อหลายปีก่อนว่าอยากจะจูงมือกันเข้าห้องหอเหมือนกับคู่อื่นๆบ้างแต่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นจริงสักทีนั้นเจ้าตัวก็เผยเพิ่มเติมว่า "จริงๆเรื่องนี้เราเคยพูดไว้นานแล้วแต่มันติดปัญหาตรงที่ว่าตอนนี้คุณแม่ป่วยซึ่งมันต้องใช้เงินเยอะ ปัจจุบันความพร้อมที่จะไปอยู่ตรงจุดนั้นมันทำให้มุมมองเราเปลี่ยน เวลาที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยจากที่เราคิดว่าเงินเรามีพอ แล้วมันไม่มากพอก็ต้องวางแผนใหม่ ตอนนี้ก็ไม่ได้วางแผนจะจดทะเบียนหรืออะไรแต่ว่าความอยากเรายังอยากมีลูกเป็นของตัวเอง คือเราก็คาดหวังว่ากฏหมายจะมาถึงจุดที่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสถานะเท่ากันได้ ความรักตอนนี้ก็ยังแฮปปี้เหมือนเดิมมีความสุขดีในทุกๆวัน ก็รู้สึกโชคดีที่เราได้เจอเขา เรื่องจดทะเบียนตอนนี้ก็ขอพักไว้ก่อนถ้าจะทำหรือมีแพลนอะไรจะมาบอก
แพลนเที่ยวออสเตรเลียกับแฟนคือจริงๆมันเป็นช่วงที่เราทำงาน 7 วันมานานพอสมควร พอมันมีช่วงที่เราพักได้ก็เลยอยากจะพาเขาไปเที่ยว เราเองก็ได้พักผ่อนด้วยก็อาจจะไปช่วยที่คนเขาหยุดกัน"