คนสวยใจบุญ “เชอรี่ เข็มอัปสร” นำภาพในหลวง ร.9 ร่วมประมูล
“เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ” นำภาพวาดสีอะคริลิกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมประมูล ได้เงินทำบุญกว่า 50,000 บาท งามทั้งกายและใจ
สำหรับนางเอกตลอดกาลอย่าง “เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ” หลังนำภาพประมูลภายใต้ชื่อ “รัก” ซึ่งเป็นภาพที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความรักของในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จย่า เพื่อส่งต่อให้ผู้อื่น และได้รับเงินประมูลไปกว่า 50,000 บาท พร้อมทั้ง สาวเชอรี่ยังคงทำหน้าที่อนุรักษ์ป่าไม้ตามรอยในหลวง รัชกาลที่ 9 ต่อไป โดย เชอรี่ เผยว่า
ภาพที่ถูกประมูลเป็นภาพวาดที่ตนวาดไว้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพที่ตนรักและหวงมากที่สุด ถือเป็นสีอะคริลิกภาพแรกที่วาดพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย โดยตอนนั้นที่วาดเพราะอยากวาดรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เก็บไว้ และได้วาดไว้หลายรูป แต่อยากวาดรูปในหลวงและสมเด็จย่าด้วย ตนเลยเลือกวาดภาพนี้ ซึ่งชื่อภาพว่า “รัก” ตนรู้สึกว่า ตนชอบความสัมพันธ์ของสองพระองค์ เวลาที่แสดงออก ซึ่งความรักในที่สาธารณะ เหมือนสามัญชนทั่วไป ตนชอบที่สมเด็จย่าได้สอน ได้ฟูมฟักพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จนกลายเป็นพระมหากษัตริย์ที่งดงามขนาดนี้ และยังสื่อความรักที่เรามีต่อพระองค์ด้วย สำหรับภาพนี้ถูกวาดภายใน 2 สัปดาห์ โดยตนก็แก้ไปเรื่อยๆ วาดกว่าจะเสร็จ ต้องแก้สี เพราะยังไม่ใช่สีที่ตนถูกใจ ก็แก้ไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าแก้ไปก็ไม่ได้มากไปกว่านี้ ตนก็เลยหยุด ซึ่งภาพนี้ ภาพต้นแบบเป็นภาพขาว-ดำ แต่ตนอยากให้ภาพนี้เป็นสีซีเปีย มันเป็นสีที่ทำให้ตนรู้สึกเป็นภาพในความทรงจำที่ดี และเป็นภาพที่ตนรักที่สุด แต่พอทางสภากาชาดไทยบอกว่า จะจัดงานนี้ ขอให้ตนวาดรูปพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยบอกช่วงนี้งานยุ่งมาก ตนไม่สามารถวาดภาพใหม่ให้ได้ แต่มีภาพเดิมที่วาดไว้ประมาณ 6-7 ภาพ ภาพนี้ก็แวบเข้ามาในหัว
ซึ่งตอนนี้ยังมีความรู้สึกหวง อยากเก็บไว้เอง เพราะไม่รู้วาดใหม่จะได้แบบเดิมหรือเปล่า ทำให้สองจิตสองใจ พอตนนึกถึงชื่องานว่า “พ่อสอนให้...ให้” ตนก็เลยรู้สึกว่าเราก็จะให้ภาพนี้ ภาพที่ตนรักที่สุด เพื่อผ่านสภากาชาดไทย ไปประมูลรายได้ก็อาจจะสร้างประโยชน์ให้คนอื่นมากขึ้น วันนี้ได้เงินประมูลไป 50,000 บาท ถือเป็นเงินค่อนข้างเยอะ ขอบคุณที่ประมูลไป
นอกจากนี้ สาวเชอรี่ ยังได้เผยถึงการอนุรักษ์ป่าด้วยว่า ตนได้อนุรักษ์ป่าตามรอยในหลวงจากโครงการที่ตนได้ทำ ตนได้ไปเรียนรู้งานจากที่สมเด็จย่าที่ทำไว้ จ.น่าน ตนได้ไปลงพื้นที่ และรู้สึกจะยึดตามแนวทางนี้ ในการแก้ปัญหาป่าไม้ก็ต้องเริ่มจากปากท้องของคน ตนพยายามยึดแนวทางนั้นอยู่ ลั่นยังทำโครงงานนี้อยู่ จะ 2 ปีแล้ว ที่วางแพลนไว้น่าจะเป็นโครงการระยะ 3 ปี สุดท้าย ยังมีหลายโครงการที่เราจะทำต่อ และมีหลายที่ๆ ตนมองว่าจะทำอะไรได้อีกกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราเริ่มจากปลูกต้นไม้ และตอนนี้ต้นไม้ก็โตแล้ว ทุกครั้งที่เราไปดูการเติบโตของต้นไม้ก็เป็นความชื่นใจของพวกเรา และยังจะทำการพัฒนาอาชีพของคนในชุมชนด้วย ลั่นตนมีความสุขที่ได้ทำ ตนไม่ได้หวังว่าต้องเป็นแบบไหน แต่พอเกิดเป็นรูปธรรมมันกลายเป็นความสุข
