เจาะลึกความรู้สึกของเหล่าคนบันเทิงในเครื่องแบบที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

เจาะลึกความรู้สึกของเหล่าคนบันเทิงในเครื่องแบบที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

0

เจาะลึกความรู้สึกของเหล่าคนบันเทิงในเครื่องแบบที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

       เปิดความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงในเครื่องแบบ ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

        เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจในชีวิตและวงศ์ตระกูลในการทำหน้าที่เป็นทหารพระราชา สำหรับพิธีกรสาวเสียงดี "ปุ๋ย รุ่งทิวา" หรือ "สิบตรีหญิงรุ่งทิวา" สังกัดกรมดุริยางค์ ทหารบก ซึ่งเธอได้เล่าความรู้สึกด้วยเสียงสั่นเครือ และขอตามรอยพระยุคลบาทในหลวง รัชกาลที่ 9 นั่นก็คือการทำความดีเสียสละและอดทน

        ความรู้สึกเมื่อเรียนจบแล้วได้เป็นทหารดีใจมาก ทหารเป็นเสมือน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รู้สึกผูกพัน และอีกอย่างเราไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอเป็นคนห้าวๆ วันที่ได้เป็นจริงๆ ตอนแรกคิดว่ามันเหมือนเป็นความฝัน ตอนเด็กชอบดูหนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับทหารและวันหนึ่งได้เข้ามา ดีใจและภาคภูมิใจมาก ถึงแม้เราจะเป็นแค่สิบตรีหญิงรุ่งทิวา ถึงแม้จะเป็นแค่นักร้อง จะเป็นแค่หน่วยงานหนึ่งที่สร้างสรรค์ในส่วนของงานบันเทิงเเละบทเพลงให้กับประชาชนแต่ไม่เคยที่จะไม่ภาคภูมิใจเลย แต่กลับตื้นตันใจในทุกๆ วัน คิดอย่างเดียวว่างานของเราอาจไม่ได้ถือปืนสู้กับใครแต่ก็จะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนมีความสุข

        ในฐานะที่ทำงานเกี่ยวกับทหารที่รักแผ่นดิน เราได้มาทำงานในด้านนี้โดยตรง คือต้องบอกว่าตัวเรารับข้าราชการและเราเป็นทหารของพระราชาอยู่แล้ว และอีกอย่างถือได้ว่าเป็นทหารของรัชกาลที่ 9 ด้วย เพราะได้บรรจุในช่วงนั้น การเป็นทหารมีโอกาสได้รับใช้ในรั้วในวังบ่อย และพระราชาคือทุกสิ่งทุกอย่างของทหารทุกคน

        ในส่วนเรื่องของการที่ได้รับใช้ท่านโดยตรงนั้นยังไม่เคย แต่วันสำคัญจะต้องไปร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี มีโอกาสได้รับใช้โดยตรง เพราะว่าเป็นทหารดุริยางค์ของทหารบก จริงๆ พระองค์ท่านก็ได้ฝากความหวังให้ทหารช่วยกันรักษาปกป้องหรือไม่ก็ดูแลประเทศชาติ ถ้าถามว่าวันที่เราเสียท่านไปใครก็ถามเราว่ารักพ่อไหม หรือว่าคิดถึงพ่อไหม คำตอบพวกนี้แทบจะออกมาเป็นคำพูดไม่ได้มันอยู่ข้างใน ถึงแม้ว่าจะเป็นทหารดุริยางค์อาจไม่ได้ถือปืนขนาดนั้นแต่พระองค์ท่านก็ให้ความสำคัญกับทุกหน่วย มีความสำคัญเหมือนกันหมด ทหารดุริยางค์ก็เป็นทหารที่คอยดูแล ในวันถวายพระเพลิงวันที่ 26 จะเป็นหน่วยงานของเราโดยตรง

        หลักคำสอนที่อยากจะขอทำตามรอยท่าน เป็นสิ่งที่อยากทำให้ท่านจริงๆ และรู้สึกว่าถ้าท่านมองอยู่ท่านต้องยิ้ม คือการเป็นคนดีและจะเสียสละความสุขส่วนตนเพื่อความสุขส่วนรวม ถ้าท่านได้มองมาคงภูมิใจในลูกของท่านที่ทำแบบนี้ และก็อยากให้ทุกคนได้ทำแบบนี้ด้วย เป็นคนดีของสังคมทำแต่ความดีแค่นั้น ถ้าทุกคนทำยังไงสังคมมันก็จะดีขึ้น ท่านก็คงยืนยิ้มให้ลูกๆ และอีกข้อหนึ่งที่ชอบมากเกี่ยวกับตัวพระองค์ท่านนั้นคือความอดทน ความมีวินัยเป็นอะไรที่สุดยอดมาก และไม่เคยเห็นพระมหากษัตริย์ที่ไหนต้องลำบากและเหนื่อยขนาดนี้เลย

        กลายเป็นแบบอย่างความกล้าหาญ เสียสละ และจงรักภักดี สำหรับ "ผู้พันเบิร์ด พ.อ.วันชนะ สวัสดี" รองผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ตลอดชีวิตได้ทำหน้าที่นายทหารรับใช้ชาติอย่างภาคภูมิใจ โดยถวายสัตย์ปฏิญาณ ตามพระบรมราโชวาทของในหลวง รัชกาลที่ 9 ว่าหน่วยทหารจะต้องนำมาซึ่งความผาสุกของประชาชน และความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ในตัวของผมที่ได้ใกล้พระองค์ท่านที่สุด ก็คือ ผมได้รับพระราชทานกระบี่กับในหลวง รัชกาลที่ 9 ในปี 2541 ตอนนั้นได้เห็นพระพักตร์ท่านใกล้ที่สุด ในความรู้สึกตอนนั้นเรามีความภาคภูมิใจด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นความตั้งใจของตัวผมเอง ในการสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ด้วยความหวังที่ว่าจบแล้วจะรับพระราชทานกระบี่กับพระองค์ อันนั้นคือภาคภูมิใจที่สุด เป็นความสำเร็จขั้นหนึ่งของชีวิต เป็นสิ่งที่ตัวเองตั้งใจทำจนสำเร็จ ได้เห็นพระบารมีของพระองค์ท่าน รวมถึงพระบรมราโชวาทที่ให้ไว้ในครั้งนั้น

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ในการยึดหลักคำสอนของพระองค์ท่าน ผมยึดหลักคำสอนของท่านเป็นลักษณะ 2 ส่วน คือ ส่วนแรก คือ เรื่องการทำงาน ส่วนที่สองเป็นเรื่องครอบครัว ชีวิตส่วนตัว สำหรับพระบรมราโชวาทในปี 2544 ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานให้กับทหารรักษาพระองค์ ในพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณ ที่ลานพระราชวังดุสิต พระบรมราโชวาทตอนนั้นพระองค์ต้องการจะบอกว่าหน่วยทหารจะต้องนำมาซึ่งความผาสุกของประชาชน และความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน แต่ส่วนตัวผมจะยึดจาก "ความเพียร" และ "พอเพียง" นำมาใช้ในชีวิตส่วนตัวและครอบครัวครับ

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        เรื่องความใกล้ชิดหรือรับใช้ใต้ยุคลบาท ผมจะเป็นเหมือนคนไทยทั่วประเทศ คือไม่ได้รับใช้ใกล้ชิดเป็นงาน แต่สิ่งที่เราได้ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็เป็นการตอบสนองงานของพระองค์ท่าน เพราะว่าในวาระโอกาสต่างๆ ที่พระองค์ได้เสด็จในหน่วยทหาร พระบรมราโชวาทที่พระองค์ให้ ก็มักจะเป็นเรื่องของให้ทหารนำมาเพื่อความผาสุกของประชาชน ซึ่งทหารทั้งหน่วยได้พยายามทำให้เกิดความสุขเพื่อเป็นการตอบสนองงานของพระองค์ท่าน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรก็เหมือนได้ใกล้ชิดท่านแล้ว และผมตั้งใจทำความดีเพื่อเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ ซึ่งผมคิดไว้ว่าเป็นหน้าที่สำคัญอีก 3 ประการในการที่จะสืบสานแนวพระราชปณิธานของพระองค์ท่านให้ยืนหยัดอยู่ต่อไป จะศึกษาในสิ่งที่พระองค์ท่านได้สอน ไม่ว่าจะเป็นโครงการต่างๆ คำสอนต่างๆ แล้วส่วนที่ 2 คือ นำสิ่งเหล่านั้นมาทำให้เกิดผล และส่วนที่ 3 ก็คือ บอกและสอนต่อให้คนรุ่นหลังต่อไป เป็นหน้าที่ 3 ประการที่ผมปฏิบัติตามมาเสมอ

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        แบบอย่างความกล้าหาญ เสียสละ และจงรักภักดี ลำดับแรกรู้สึกภาคภูมิใจจริงๆ ที่เราทำมาตลอดทั้งชีวิต คือเราทำไปโดยธรรมชาติ ทำไปโดยไม่ได้คิดว่าเขาจะชื่นชมเรา แต่ผมเองก็ไม่ได้แตกต่างจากคนไทยทั่วไป ผมไม่ได้มีความจงรักภักดีมากไปกว่าคนไทยคนอื่น เพียงแต่ก็แสดงออกจากวาระโอกาสมากกว่าคนอื่นเท่านั้น

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ในส่วนของพระราชพิธีจะเกี่ยวข้องใน 2 ส่วน คือ ดูแลในเรื่องของจราจรและพื้นที่ความปลอดภัย ที่กระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงกลาโหมตั้งอยู่ในพื้นที่ขบวนจะต้องผ่านอยู่แล้ว จะดูแลในเรื่องความปลอดภัย ในจุดที่ 2 จะเกี่ยวข้องในเรื่องของพื้นที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะจะเป็นพื้นที่วางดอกไม้จันทน์ที่นั่นด้วย แต่ในริ้วขบวนไม่ได้ร่วมเดินเลย จะเป็นเจ้าหน้าที่ดูแลความสะดวกภายนอก และพื้นที่วางดอกไม้จันทน์ครับ

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของลูกทุ่งเสียงดี บ่าววี อาร์สยามที่ไม่มีวันลืมเลย คือการได้เป็นทหารของพระราชาและก็ยังเดินตามรอยในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยการน้อมนำเอาพระราชดำริเรื่องความพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงทำประโยชน์ให้กับสังคมอีกด้วย สำหรับลูกทุ่งคนนี้ บ่าววี อาร์สยามหรือ พันจ่าอากาศเอกวีรยุทธิ์ นานช้าก็ได้เปิดใจเผยถึงความรู้สึกภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตกับการได้เป็นทหารของพระราชา หลังเข้ารับราชการเป็นทหารอากาศที่กรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ กองบัญชาการกองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เเละมีโอกาสยืนอารักขาให้รถพระที่นั่ง

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ในครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จราชดำเนิน แต่ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลไม่ได้ชื่นชมพระพักตร์พระองค์ท่าน แต่ลูกทุ่งคนดังก็ถือว่าเป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลที่ครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสถวายงานแด่ในหลวง รัชกาลที่ 9

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ครั้งหนึ่งผมได้เคยอารักขาพ่อหลวง ถึงแม้ว่าจะเป็นจุดที่ไกลๆ มันไกลมาก เพราะผมได้ไปยืนกันรถกันอะไรต่างๆ ตอนนั้นเลยรู้สึกว่าตัวเองมีความภาคภูมิใจมากที่ได้ทำหน้าที่ให้กับพ่อหลวงในครั้งหนึ่ง ซึ่งก็นานมากๆ แล้ว แล้วก็อยากเห็นหน้าพ่อแต่ไม่มีโอกาสได้เห็นเลยในตอนนั้น เพราะตัวเองอยู่ในหน้าที่และภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อ

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ทั้งนี้ บ่าววียังเผยต่ออีกว่า ที่ผ่านมาเจ้าตัวใช้ชีวิตอย่างพอเพียงตามรอยในหลวง รัชกาลที่ 9 ด้วยการเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวกับการจัดสองโครงการตอบแทนคืนกลับสู่สังคม โดยนำแนวทางของพ่อมาเป็นแบบอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับคนที่ลำบากกว่าเรา นี่คือสิ่งที่ภูมิใจและเราต้องทำให้เรามีความสุขและให้พ่อได้มีความสุขด้วย

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        นอกจากจะเกิดในครอบครัวทหาร และถูกปลูกฝังเรื่องรักชาติมาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว "มัดหมี่ พิมดาว" ยังได้สานต่ออุดมการณ์และแนวคิดของครอบครัวในการรับใช้ชาติ โดยปัจจุบันเจ้าตัวรับราชการทหารในยศ "ร้อยโทหญิงพิมดาว พานิชสมัย" สังกัดกรมดุริยางค์ทหารบก ซึ่งเจ้าตัวเผยความรู้สึกว่า

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        เป็นความภูมิใจสูงสุดที่ได้ทำงานเพื่อชาติโดยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ (กรมดุริยางค์ทหารบก) 3 ปีแล้ว โดยหลังจากจบเอก voice คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานราชการด้วยการร้องเพลง มอบความสุขให้กับประชาชนและทหารอยู่บ้าง ซึ่งหลังจากนั้นที่กรมดุริยางค์มีตำแหน่งว่างและต้องการบุคลากรที่มีความสามารถด้านนี้ เลยได้โอกาสที่ดีในการเข้าไปทำงาน

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

       ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าคุณพ่อก็เป็นทหาร ท่านปลูกฝังให้รักชาติ ทำตัวให้เป็นประโยชน์ตั้งแต่เด็กๆ เราในฐานะเป็นลูกคนโต ได้ทำหน้าที่ทหารอย่างที่คุณพ่อท่านเคยทำมา ก็เป็นความภูมิใจที่สุด มองว่าอาชีพทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติและสร้างความภูมิใจให้กับตัวเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก ได้เสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม เรียนรู้ที่จะเป็นผู้ให้ด้วยหัวใจ

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ที่สำคัญงานที่ได้ทำ คือ การมอบความสุขผ่านเสียงเพลงให้ประชาชนและทหารได้ลงพื้นที่ในการช่วยเหลือประชน ได้ร้องเพลงเพื่อเป็นกำลังใจ ในภาระหน้าที่ของทหาร การฝึก การอยู่ในระเบียบ โดยไม่รู้สึกว่าหนักหนาหรือท้อแต่อย่างใด เพราะยึดพระบรมราโชวาทของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงตรัสว่าให้รู้จักหน้าที่ของตน รู้จักเสียสละ ทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น รู้จักให้อย่างไม่มีวันสิ้นสุด มาใช้เป็นหลักในการทำงานและการดำเนินชีวิต

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ส่วนในวันถวายพระเพลิงในหลวง รัชกาลที่ 9 ก็ไม่ได้เข้าร่วมขบวนเดินถวายพระเกียรติ แต่ตั้งใจจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีเพื่อน้อมถวายพระองค์ท่านตลอดไป

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        นอกจากงานในวงการบันเทิงแล้ว "หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ" ยังมีอีกหนึ่งบทบาทที่หลายคนรู้จักและคุ้นหน้าคุ้นตากันดี กับตำแหน่ง "พันตรีนายแพทย์สรวิชญ์ สุบุญ" แพทย์ประจำการอยู่ในกระทรวงกลาโหม ซึ่งล่าสุด "หมอก้อง" ก็ได้ออกมาทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างเต็มกำลัง ในวันซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ จนถูกยกให้เป็นแพทย์ทหารของพระราชา ซึ่ง หมอก้องออกมาเปิดเผยกับทาง "ดาราเดลี่" ว่า

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        คือผมทำงานในกระทรวงกลาโหมอยู่แล้วครับ เราก็ต้องจัดเวรไปอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติของเราที่ต้องทำอยู่แล้ว เพราะเป็นหนึ่งในหน้าที่เรา ก็ไปค่อนข้างบ่อยนะ เพราะแพทย์ที่กระทรวงกลาโหมจะต้องหมุนเวียนเวรกันไปทั้งเดือนเลย แล้ววันที่ผมลงรูปในไอจีตรงกับวันซ้อมริ้วขบวนพอดี วันนั้นก็จะเหนื่อยนิดหน่อย เพราะว่าเป็นวันที่คนเยอะ แดดร้อน อากาศร้อน คนก็มากันแต่เช้า บางทีอาหารอะไรก็อาจจะไม่ได้กิน น้ำอาจจะไม่พอ พอจบงานก็ร่วงกันเป็นแถบ เหมือนกันเราก็ต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะวันที่ 21 ที่เป็นวันซ้อมใหญ่ก็หนักเหมือนกัน

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        สิ่งที่หนักใจในฐานะเป็นแพทย์ มันก็เป็นเรื่องปกติครับ จริงๆ เราก็ซ้อมกันเยอะ ประชุมกันเยอะ ว่าสถานการณ์จะขนาดไหนแต่ เอาเข้าจริงๆ มันก็อาจจะเกินกว่าที่เราคิด คนมาเยอะแล้วคนไข้ก็เยอะ แต่พวกเราก็พยายามเตรียมพร้อมให้ดีที่สุด ถ้ามีคนไข้ก็ต้องส่งให้เร็วที่สุด หรือถ้าเกิดเคสที่ค่อนข้างหนักที่มากกว่าการเป็นลมก็ต้องรีบส่งต่อ มีการซักซ้อม หมอที่ไปอยู่ในบริเวณนั้นมีหลายหน่วยงาน เยอะมาก แทบจะทุกโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เลย

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        ขึ้นชื่อว่าแพทย์ทหารของพระราชา จริงๆ คำนี้เป็นคำที่คนอื่นพูดนะ ผมไม่เคยพูดเอง แต่จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นใครก็เป็นข้าราชการของพระราชาทั้งนั้น ถามว่าภูมิใจไหมกับสิ่งที่หลายคนยกให้เราเป็นแพทย์ทหารของพระราชา จริงๆ ในขณะที่คนยกย่องแต่ในขณะเดียวกันก็มีคนไม่ยกย่องเหมือนกัน ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลกนี้ วันนี้ชมวันต่อไปเขาอาจจะด่าเราก็ได้ เราไม่อยากยึดติดกับสิ่งที่คนยกย่อง

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        จุดเริ่มต้นที่เราได้เข้ามาทำงานตรงนี้ คือ สมัยก่อนผมอยู่ที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย แล้วก็ย้ายสังกัดมาที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม และด้วยความที่เราทำงานอยู่ตรงนั้นเราก็เลยต้องทำงานนี้ ซึ่งเหมือนเป็นหน้าที่ จะเรียกว่าโชคดีก็โชคดีนะ ถ้าเป็นคนอื่นที่อยากจะเป็นหมอมาทำงานช่วยในส่วนนี้จะต้องไปสมัคร ลงชื่อ หรืออะไรต่างๆ แต่ของเราเป็นอัตโนมัติที่ต้องทำเลย ก็สะดวกเราที่ได้ทำงานตรงนี้ ก็ดีใจนะที่ได้ทำตรงนี้ ถามว่าได้ใกล้ชิดกับพระองค์ขนาดไหน ก็ไม่ขนาดนั้น เราทำแค่กระทรวงกลาโหม จะดูแลในส่วนของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่อยู่ในริ้วพิธี และประชาชน ซึ่งแพทย์มีหลายเต็นท์ เขาก็จะแบ่งว่าใครอยู่ส่วนไหน

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        สิ่งที่ได้จากการทำหน้าที่ตรงนี้ คือ ทุกคนเขาตั้งใจมากันมาก เขามาต่อแถวกันตั้งแต่เช้า มาด้วยความรักจริงๆ เราก็รู้สึกดีใจ เหมือนคนที่มีใจเดียวกัน ได้มาแสดงออกเหมือนกัน และได้เห็นคนที่มาเพื่อพระองค์ท่านก็ดีใจ เป็นกำลังใจให้เราทำงาน เราเหนื่อยคนพวกนี้เขาอาจจะเหนื่อยกว่าเราก็ได้ ต้องมาทนแดด ร้อน แต่ทุกอย่างทำไปด้วยความรัก ความจงรักภักดี เราเห็นแล้วเราก็ทำงานไม่เหนื่อย ถ้าเหนื่อยก็พัก พอมีแรงก็กลับมาทำงานต่อได้

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        พระราชดำรัสและปรัชญาของในหลวงที่เรานำมาใช้ได้ในชีวิตจริงๆ ก็หลายอย่างนะ สำคัญทุกข้อเลยที่พระองค์ได้ให้ไว้ แต่ที่พยายามจะเตือนใจทำให้ได้มากๆ คือ ที่ท่านสอนว่าคนเราจะมีความสุขแต่เพียงผู้เดียวไม่ได้ เมื่อเรามีความสุขแล้วก็ต้องแบ่งปันความสุขนี้ไปสู่คนรอบข้าง ก็เลยพยายามที่จะคิดถึงผู้อื่นให้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เอาใกล้ๆ ตัวเลย คือการตรวจคนไข้ ถ้าเราใส่ใจลงไปมากขึ้นคนไข้ก็คงจะได้รับความรู้มากขึ้น ความเข้าใจมากขึ้น ในการที่จะดูแลตัวเอง

ความรู้สึกจากใจ 5 คนบันเทิงที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

        แล้วก็ดุให้น้อยลง (หัวเราะ) คือผมเป็นคนดุนะ แต่เดี๋ยวนี้ก็ดุน้อยลงแล้ว จะเป็นเฉพาะเวลาที่ตรวจคนไข้ครับ เวลาที่เขาไม่ได้กินยาตามสั่งก็จะดุ แต่ตอนนี้ก็เปลี่ยน เพราะดุไปก็เท่านั้น อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับคนไข้ไม่ดีไปด้วย ไม่อยากให้เขารู้สึกกับเราไม่ดี ก็พยายามเข้าใจเขาดีกว่า เพราะจะไปบังคับให้เขาทำตามเราอย่างเดียวก็ไม่ได้ ทุกอย่างมันเริ่มที่ตัวเรา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ปุ๋ย รุ่งทิวา” นักร้องลูกทุ่งและพิธีกรรายการชุมทางดาวทอง คว้าป.ตรีใบที่2 นิติศาสตร์บัณฑิต

“หมวดปุ๋ย” เชิญร่วมสนุกและทำบุญที่ บู๊ทกรมดุริยางค์ทหารบก งานวันกาชาด 100 ปี “รื่นรมย์สุขฤดี ณ ที่แห่งการให้”

“หมอก้อง” เปิดใจหลังถูกโยงเป็นคนที่ “อาร์ต พศุตม์” พูดถึง ลั่นก็แอบคิดว่าเป็นตัวเอง

“ปุ๋ย รุ่งทิวา” นักร้องและพิธีกรชุมทางดาวทองติดยศนายทหารชั้นสัญญาบัตร

“มัดหมี่” โพสต์หวานถึง “วิน” ขอบคุณจักรวาลและพลังงานดีๆ ที่ได้พบกัน

กำลังใจสีชมพู “วิน-ภวัต” แฟนหนุ่มเฝ้าไข้ “มัดหมี่-พิมดาว”

“หมอก้อง” ลุยละครเวที “อลหม่านหลังบ้านทรายทอง” กับบทที่ท้าทาย

Gallery ที่เกี่ยวข้อง

Comments