"อี๊ด วงฟลาย" ขอตั้งปณิธาน จะสานต่อสิ่งที่พ่อสอนสู่เด็กรุ่นหลัง

"อี๊ด วงฟลาย" ขอตั้งปณิธาน จะสานต่อสิ่งที่พ่อสอนสู่เด็กรุ่นหลัง

0

"อี๊ด วงฟลาย" ขอตั้งปณิธาน จะสานต่อสิ่งที่พ่อสอนสู่เด็กรุ่นหลัง

          "อี๊ด สำราญ ช่วยจำแนก" ตั้งปณิธานสานต่อคำสอนในหลวงรัชกาลที่ 9

          มาร่วมขับร้องประสานเสียงบทเพลง "อยู่อย่างพอเพียง" และ "คำพ่อสอน" สำหรับศิลปินระดับตำนาน "อี๊ด สำราญ" หรือ "อี๊ด วงฟลาย" ในงานนิทรรศการ "ความดี" ตามพระบรมราโชวาทของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งหนุ่ม "อี๊ด" ยังยึดหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า

อี๊ด สำราญ อี๊ด วงฟลาย

          ในวันนี้ได้มาร่วมร้องเพลงประสานเสียงเพื่อพ่อ วันนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่พวกเราทุกคนทำเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ซึ่งมีกิจกรรมเยอะแยะมากมาย และกิจกรรมนี้คงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผมได้มีส่วนร่วมในการร้องเพลง คือเพลง "คำพ่อสอน" เป็นเพลงที่เคยร้องเอาไว้ตอนที่พระองค์ท่านยังไม่ประชวร เราได้ทำเพลงนี้ขึ้นมาเป็นของมูลนิธิพระดาบส เพื่อให้แก่มูลนิธิ และในเนื้อเพลงบอกถึงสิ่งที่พระองค์ท่านทรงเหนื่อยยากเพื่อพวกเรา น้องๆ รุ่นหลังจะได้ฟังว่าพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงงานหนักขนาดไหน

อี๊ด สำราญ อี๊ด วงฟลาย

          อีกเพลงหนึ่ง "อยู่อย่างพอเพียง" เป็นเพลงที่ทำมาก่อนแล้วเหมือนกัน เป็นช่วงที่พระองค์ท่านพระราชทานในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้คนไทยได้เริ่มนำมาใช้ และเรียนรู้เกี่ยวกับปรัชญาที่พระองค์ท่านทรงพระราชทานไว้ และพวกเราก็ได้มีโอกาสทำเพลงนี้ออกมาเป็นบทเพลง เพราะคิดว่าสามารถอธิบายบางส่วนในเรื่องของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผ่านบทเพลง และเมื่อเราร้องเพลงได้มันก็จะสามารถจดจำได้ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง และช่องทางต่างๆ อีก ไม่ว่าจะบทความหรือในหนังสือต่างๆ ก็มีเยอะแยะเกี่ยวกับเรื่องของพระองค์ท่าน

อี๊ด สำราญ อี๊ด วงฟลาย

          ใกล้ถึงวันพระราชพิธีแล้ว ทุกครั้งที่ร้องเพลงพระองค์ท่านอยู่ข้างหน้าเราเสมอ เวลาเราร้องเพลงแต่ละคำออกไปพระองค์ท่านก็ทรงมองว่าเราทำอะไรกันอยู่ และเราจะมีส่วนช่วยเหลือประเทศชาติหรือการช่วยเหลือสังคมอีกต่อไปอย่างไรบ้าง ทุกครั้งที่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับพระองค์ท่านก็คิดว่าพระองค์ท่านทรงมองอยู่เสมอตลอดเวลา

อี๊ด สำราญ อี๊ด วงฟลาย

          ในการใช้ชีวิตทุกวันนี้ก็นำหลักคำสอนของพระองค์ท่านมาใช้ สิ่งที่พระองค์ท่านทรงสอนไว้เยอะมาก แต่ก็ครบถ้วนทั้งหมดทั้ง 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นช่วงแรก คือ การอยู่ดีกินดี พระองค์ท่านทรงให้เรามีปัจจัย 4 ก่อน และเราอย่าลืมว่าประเทศไทยเราเคยจนมาก่อน และเมื่อพระองค์เสด็จมาก็ได้ทรงแก้ไขปัญหาความยากจนก่อน และปัจจัย 4 ก่อน สังเกตได้ว่าพระองค์ไม่ได้เริ่มในสิ่งที่เป็นเรื่องของกิเลสก่อน และในเรื่องความเป็นจริงก่อน คือ อาหาร เครื่องนุ่งหุ่ม ยารักษาโรค และเมื่อมีปัจจัย 4 ความยากจนต่างๆ ก็จะค่อยๆ คลายลง นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่พระองค์ทรงเหนื่อยเพราะเรื่องนี้ และเราลองย้อนคิดดูว่าการทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เสร็จสมบูรณ์ได้นั้น 70 ปีคงไม่พอ แต่ที่เหลือเป็นหน้าที่ของพวกเราแล้วที่จะสานต่อเพื่อพ่อ ที่ท่านทรงได้ใช้พระวรกายอย่างหนัก และพระองค์ท่านต้องจากพวกเราไป แต่ว่าเมื่อพระองค์ท่านได้จากเราไปแล้ว พระองค์ท่านทรงทำเสร็จสมบูรณ์เสร็จสิ้น แต่ว่าถ้าสิ่งที่พระองค์ท่านทำไม่มีใครสานต่อในทุกๆ เรื่องที่พระองค์ทรงทำไว้ก็จะไม่มีประโยชน์เลย ซึ่งการน้อมนำมาใช้นั้นไม่ว่าจะผ่านบทเพลงหรือเรื่องราวอะไรต่างๆ ก็ตามในเรื่องของพระองค์ท่านทั้งหมด คนรุ่นนี้ต้องเป็นคนบอกคนรุ่นหลังให้สานต่อให้ได้ และถ้าสานต่อไม่ได้สิ่งนั้นก็จะขาดตอนทันที เราเลยคิดว่าเยาวชนคือคนที่จะสามารถดูแลประเทศต่อจากเราต่อไป เป็นแนวทางที่พระองค์ท่านได้วางไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว

อี๊ด สำราญ อี๊ด วงฟลาย

          การทำความดีเพื่อตอบแทนเป็นพระราชกุศลให้พระองค์ท่านนั้น สำหรับผมเป็นความตั้งใจตั้งแต่ต้น คือ การเป็นอาสาที่เรานั้นสามารถทำได้ในหน้าที่ของตัวเอง ที่ไปช่วยได้ไม่ว่าจะส่วนใดก็ตามที่เราได้ตั้งปณิธานไว้ก็จะทำตลอดไป ไม่ว่าจะผ่านบทเพลงหรือกิจกรรมต่างๆ ที่สามารถต่อยอดเกี่ยวกับสิ่งที่พระองค์ท่านทรงสอน ก็ตั้งใจว่าจะทำตลอดไป

          สุดท้ายก็ขอฝากกิจกรรมอันนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ชื่อว่า "9 เส้นทางจิตอาสาตามรอยพ่อ" สิ่งสำคัญที่สุดคือหัวใจที่เป็นจิตอาสา คือ ต้องเป็นผู้ให้ก่อน ดูได้จากพระองค์ท่านที่เป็นผู้ให้ที่เป็นต้นแบบของผู้ให้โดยแท้จริง ให้ทั้งหมดจนพระวรกายท่านนั้นอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะเสื่อมโทรมจากการให้มาตลอด พระองค์ท่านจึงเป็นต้นแบบที่แท้จริงและดีที่สุด ถ้าคุณให้อย่างแท้จริงคุณก็สามารถทำจิตอาสาได้อย่างมีความสุข

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Comments