“ริชชี่” เดินตามแนวปณิธาน ร.9 สานต่อไร่ชา หมู่บ้านชนเผ่าลาหู่
“ริชชี่ อรเณศ ดีคาบาเลส” เตรียมสานต่อไร่ชา หมู่บ้านชนเผ่าลาหู่ ตามแนวปณิธานของในหลวง รัชกาลที่ 9 เผยส่วนตัวน้อมนำพระอัจฉริยภาพด้านกีฬามาปรับใช้ เปรยตั้งใจทำหน้าที่เป็นลูกที่ดีตามที่พระองค์ท่านทรงสอนไว้
มุ่งมั่นสานต่อโครงการไร่ชา ในหมู่บ้านชนเผ่าลาหู่ จ.เชียงใหม่ ตามแนวปณิธานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งได้รับสั่งกับคุณตา “จะฟะ ไชยกอ” ไว้ สำหรับนักแสดงสาวตากลม “ริชชี่ อรเณศ” ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาเผยว่า
จริงๆ ตั้งแต่เล็กแล้วที่บ้านเรามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถตามรอยได้ ก็จะมีต้นชาต้นแรก และก็โครงการหลวง นอกจากนี้ยังมี Home Stay ที่สามารถเรียนรู้การใช้ชีวิตกับชาวลาหู่ได้ และก็ยังมีการไปดูเกษตรกรรมที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้ให้ด้วย
ส่วนเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชา ตอนนี้ก็เป็นรูปเป็นร่างมากกว่าแต่ก่อน พัฒนาเรื่อยๆ ตั้งแต่รุ่นคุณแม่ที่ท่านได้ทำมา เป็นรูปเป็นร่างดีขึ้น ตอนนี้ที่หมู่บ้านเราก็เป็นเหมือนชุมชนตัวอย่างด้วย ซึ่งส่วนตัวก็อยากพัฒนาเรื่องชาให้มีหลากหลายกว่านี้ เพราะตอนนี้มีแต่ที่เป็น Original อยู่ เราในฐานะเด็กรุ่นใหม่ก็อยากพัฒนาให้เป็นแบบที่คนรุ่นใหม่ชอบ มีหลายรสชาติ เพื่อที่จะได้ขายได้
กับเรื่องเที่ยวตามรอยพระองค์ท่าน จริงๆ ทุกที่ที่ไปก็เป็นสถานที่ที่ประทับใจที่สุด เพราะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ท่านได้สร้างให้พวกเรา มันงดงาม และทำให้พวกเราอยู่ดีมีความสุข แต่ที่ซาบซึ้งมากที่สุด คือ ที่บ้านตัวเอง เพราะรู้มาตั้งแต่เด็กแล้ว และทุกครั้งที่ได้กลับไปที่บ้านก็จะสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่มีต่อครอบครัวและชาวบ้านทั้งหมด
ด้านภาพในความทรงจำของพระองค์ท่านก็เป็นเรื่องกีฬา เพราะเราก็เล่นกีฬามาตั้งแต่เด็ก พระองค์ท่านเป็นเหมือนแบบอย่างในการที่จะฝึกซ้อม และเราก็จะมีรูปพระองค์ท่านที่ตั้งอยู่หลังคอร์ดแบดมินตันด้วย เวลามองภาพทำให้อดทน และขยันซ้อม จะทำให้สู้ทุกครั้งที่เหนื่อย บางทีโดนโค้ชดุ ตอนแรกคิดว่าจะท้อ พอเห็นพระองค์ท่านแล้วก็ทำให้เราฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง และมองว่าพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถทุกด้าน ไม่ใช่แค่กีฬาแบดมินตัน ท่านทรงพระปรีชาทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านดนตรีหรือด้านอื่นๆ อีกเยอะมาก
การเจริญรอยตามพระองค์ท่านก็น่าจะเป็นเรื่องการดูแลชาวบ้านที่เผ่าลาหู่ เพราะว่าพระองค์ท่านเคยตรัสไว้เกี่ยวกับให้เรารักโลก รักชาวเขา จึงคิดว่าเป็นสิ่งที่พระองค์ท่านมอบให้กับครอบครัวเรา เป็นสิ่งที่จะสืบสาน และเดินตามได้ง่ายที่สุดแล้ว ซึ่งครอบครัวเราก็ทำมาโดยตลอด
สำหรับความรู้สึกที่มีต่อพระองค์ท่าน ตลอดชีวิตที่ผ่านมา พระองค์ท่านก็ทรงเป็นแบบอย่าง และหลายคนก็ทำทุกวันเพื่อพระองค์ท่านอยู่แล้ว ถึงแม้ตอนนี้พระองค์ท่านจะไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังคงอยู่ในใจของพวกเรา อยากให้ได้รับรู้ถึงคุณงามความดีที่พระองค์ท่านทรงสร้างไว้ ไม่อยากให้มันสูญหายไป อยากให้รักษาไว้และสืบต่อ เหมือนที่พ่อได้สร้างอะไรดีๆ ไว้เยอะแล้ว เราก็ต้องเป็นลูกที่ดี มีหน้าที่ศึกษามันต่อไป และก็ทำให้ดีขึ้น จะได้นำไปบอกเล่าถึงรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปว่า ที่เรามีบ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข และอยู่ได้ทุกวันนี้ เพราะว่าใครเป็นคนสร้างให้เรามา