ฟังจากปาก! “มิ้นต์” เล่านาทีตกม้า เชื่อฟาดเคราะห์เตรียมเข้าวัยเบญจเพส
“มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง” เล่าเหตุการณ์สุดระทึกตกม้าที่เขาใหญ่ ใบหน้าเป็นรอยแผลถลอก
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสาวที่ถือว่าฟาดเคราะห์เพราะอายุเตรียมเข้าสู่ช่วงเบญจเพสสำหรับสาว “มิ้นต์ ชาลิดา” ที่ล่าสุดเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเธอเองเพิ่งไปเที่ยวเขาใหญ่พร้อมครอบครัว ซึ่งงานนี้สาว “มิ้นต์” เองไม่พลาดใช้โอกาสนี้ขี่ม้าที่ฟาร์ม ซึ่งเกิดเรื่องสุดระทึกขึ้นหลังจากเธอเองได้ตกม้า ทำให้ใบหน้ามีรอยแผลถลอก เมื่อได้มีโอกาสพูดคุยกับสาว “มิ้นต์” เธอได้เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า
สำหรับเรื่องตกม้านั้น คือตนเองคิดว่าปีนี้เข้าเบญจเพสแล้ว ก็ทำให้มีหลายๆ อุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไป เพราะก็มีเลือดออกที่หน้า ขาก็แพลงเส้นเอ็นพลิก หน้ายังเป็นแผลเป็นอยู่ ก็คิดในทางที่ดีว่าฟาดเคราะห์ไปแล้ว ส่วนแผลที่เกิดขึ้นบนใบหน้าก็ทายารักษาแผลเป็นไปก่อน ตนเองยังไม่ได้ไปพบหมอเพื่อทำเลเซอร์
ส่วนจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ในวันนั้นคือตนเองไปขี่ม้าที่เขาใหญ่เป็นเรื่องปกติ คือเวลาไปได้ขี่ตนเองก็จะไปขี่ข้างนอก แต่ด้วยความที่อาทิตย์นั้น น้องชายก็ไม่ได้เอากางเกงไปเพราะช่วงนั้นฝนตก ซึ่งพี่ “แพง” ที่เป็นเพื่อนสนิทตนอยากขี่ม้า และเขาเองก็ขี่ไม่เก่ง เขาก็ขอให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย ตนเองก็โอเคไปขี่ ซึ่งตนเองก็ไม่เคยได้ขี่ในคอก ไม่ได้ขี่แบบในคอกมานานแล้ว ก็เคยชินกับฟาร์มนี้ก็คิดว่าจะเป็นม้าที่เคยขี่ประจำ แต่วันนั้นตัวที่เขาเอามาให้กลับเป็นตัวที่ไม่ค่อยได้ออกขี่นานมาก เขาก็พยศอยู่แล้วตั้งแต่อยู่ในกรง ตนเองก็ไม่ได้สังเกตมันก็เป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้เช็กก่อนขี่ พอขึ้นไปขี่เขาก็สบัดๆ ตนเองก็จับไว้ให้ม้ารู้ว่าก็สู้นะ แต่พอรอบที่สองก็มีเปลี่ยนด้านเดิน เขาก็วิ่งสบัดๆ และด้วยแรงเหวี่ยงก็ทำให้หน้าไปกระแทกกับไม้ข้างๆ กรงทำให้หน้าถลอกและขาพลิก
ด้านพี่ “ภูผา” ตนเองก็พิมไปในไลน์ว่าตกม้า เขายังนั่งเล่นเกมกับน้องชายอยู่ที่โรงแรม ทุกคนก็รีบเฟซไทม์มาให้เห็นหน้า ตอนแรกเลือดมันแค่ซิบๆ ก็มีถามทุกคนว่ายังไงดี จะขึ่ต่อดีไหม เพราะก็ยังไม่ได้ขี่เลย ทุกคนก็ยุบอกให้ขี่ต่อไปเลย แค่นี้เอง ต้องสู้ ด้วยความที่แรงชงเยอะก็ขึ้นไปขี่อีก แต่เป็นตัวอื่น ด้วยความที่หน้ามันชาไปหมดก็ไม่รู้สึกเจ็บอะไร ลงมาเอาแผลไปล้างน้ำเกลือและขึ้นขี่ต่อ พอครบชั่วโมงหน้าก็เริ่มเขียว แผลเริ่มแดงเป็นรอยทุกคนก็ตกใจ เพราะตอนแรกในรูปมันนิดเดียว ตามขากับแขนก็รอยถลอกเยอะ แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ถือว่าฟาดเคราะห์ไป ในตอนนั้นจะมีพี่ “แพง” ที่ดูแลล้างแผลให้ “พี่ภูผา” ก็มีเอายาแก้อักเสบมาให้ไม่ได้มีดูแลอะไรเป็นพิเศษ