ใครเปรี้ยง? ใครแป้ก? ศึกละครส่งท้ายปี 2560
ไม่ว่าจะปีไหนๆการแข่งขันแย่งชิงเรตติ้งถือว่าดุเดือดเผ็ดมันกันตลอด โดยเฉพาะเรตติ้งละคร ที่กุมหัวใจคนดูไว้เป็นหลัก ในอดีตอาจจะมีแค่ค่ายยักษ์ใหญ่จากวิกพระราม 4 และวิกหมอชิต เพียงแค่สองค่ายที่ผลัดกันแย่งชิงการเป็นแชมป์เรตติ้งสูงสุด แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน โลกมีการพัฒนาขึ้น สิ่งใหม่ๆก็ต้องตามมาเป็นธรรมดา เมื่อหมดยุคทีวีระบบอนาล็อก เข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอลที่ทันสมัยมากขึ้น มีช่องทีวีเกิดใหม่อีกหลายช่อง การแข่งขันที่มีเพียงสองเราก็ไม่ใช่อีกต่อไป
ในปี 2560 จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า วงการละครไทยมีการแข่งขันที่สูงขึ้นมากๆ นอกจากมีการแข่งขันเรื่องเรตติ้งแล้ว ยังมีการแข่งขันแย่งชิงพื้นที่ในโลกโซเชี่ยลที่เรียกกันว่า "กระแส" ซึ่งละครเรื่องไหนกระแสดี นั่นหมายความว่าโดนใจคนดู ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แต่ละช่องต่างงัดละครเด็ดที่เป็นจุดแข็งของตัวเองออกมาสู้เพื่อช่วงชิงคนดู หวังยึดบัลลังก์แชมป์เรตติ้งให้อยู่ในกำมือ
มาดูกันที่วันจันทร์-อังคาร ช่อง 3 ส่งละครฟอร์มใหญ่ "บ่วงบรรจถรณ์" ลงจอหวังให้คู่พระนาง "มาริโอ้-ใหม่" ช่วยโกยเรตติ้ง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นดั่งหวัง เพราะเริ่มตอนแรกได้เรตติ้งได้แค่ 2.9 ในขณะที่ตอนที่สองลดลงเหลือแค่ 2.4
ด้านช่อง one ส่งละคร "เธอคือพรหมลิขิต" ที่นำแสดงโดย "บี้ สุกฤษฎิ์" และ "เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา" ออกมาเรียกเรตติ้งจากคนดูได้ไม่น้อย เพราะทำเรตติ้งได้สูงถึง 3.6
สำหรับช่อง GMM25 หลังจากส่งละครสุดแซ่บ "หลงไฟ" ออกมาสร้างกระแสอือฮาในโลกโซเชี่ยลจนคว้าหัวใจคนดูไปอย่างล้นหลาม ก็ถึงเวลาส่งไม้ต่อให้กับละคร "ความรักครั้งสุดท้าย" ซึ่งได้นางเอกมากฝีมือ "พลอย เฌอมาลย์" มาร่วมงานเป็นครั้งแรก ส่วนเรตติ้งและกระแสจะแรงแค่ไหนต้องรอติดตามชม
ในขณะที่ช่อง 7 ส่งละครกลิ่นอายอีสานแท้ "นายฮ้อยทมิฬ" เอาใจคอละครต่างจังหวัด ซึ่งเรื่องนี้ได้รับคำชมว่าเป็นการถ่ายทอดคุณค่าแห่งละครอีสานที่แท้จริง กวาดเรตติ้งไปอย่างสวยงาม โดยตอนล่าสุดอยู่ 8.5 ซึ่งเรื่องนี้ช่อง 7 ยังคาดหวังว่าจะเป็นละครเรื่องแรกของปี 2560 ที่สามารถทำเรตติ้งแตะเลข 2 หลัง แต่จะได้หรือไม่นั้นต้องติดตามกันต่อไป
มาดูกันที่คืนวันพุธ-พฤหัสฯ กันบ้าง ซึ่งช่อง 3 ส่งละครดราม่าสุดแซ่บ "สายธารหัวใจ" ลงจอออนแอร์ไปได้แค่สองตอน แต่กระแสในโลกโซเชี่ยลกลับดีเกินคาด แต่ในทางกลับกันเรตติ้งยังไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจสักเท่าไหร่ เพราะทำได้สูงสุดแค่ 3.0 แต่ด้วยความแซ่บของละครที่โดนใจคนดูเชื่อว่าหลังจากเรตติ้งน่าจะขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ละคร "ภารกิจลิขิตหัวใจ" ของช่อง one แม้ว่าดูเหมือนกระแสจะไม่ได้เปรี้ยงสักเท่าไหร่ แต่ก็ทำเรตติ้งจี้ขึ้นมาที่ 2.1
"Love Books Love Series The Seven Year Itch 7 ปี รักโดนใจ" ของช่อง GMM25 ดูเหมือนจะไม่โดนใจคนดูสักเท่าไหร่ เพราะกระแสเงียบกริบ แถมเรตติ้งทำได้แค่ 0.2
ด้านช่อง 7 ก็ดูเหมือนจะวิกฤต เพราะละคร "ละอองดาว" ออนแอร์มาได้ครึ่งทางแล้ว แต่เรตติ้งยังไม่แตะ 6 สักที แถมตอนล่าสุดเรตติ้งตกลงไปเหลือแค่ 4.9 ต้องรอดูว่าจบจากเรื่องนี้ช่อง 7 จะส่งไม้เด็ดอะไรมาแก้เกมเพื่อกู้หน้าเรียกเรตติ้งกลับคืนมา
ปิดท้ายกันที่คืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ กับละคร "รักกันพัลวัน" ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ของช่อง 3 ที่เรื่องนี้เปิดซิงพระเอกน้องใหม่ "นาย ณภัทร" ประกบคู่กับ "ไอซ์ ปรีชญา" แม้ว่าหลายคนจะกังวลเรื่องการแสดงของน้องนาย แต่ต้องบอกเลยว่าสำหรับละครเรื่องแรกถือว่าสอบผ่าน เพราะออนแอร์ไปไม่กี่ตอนก็ได้รับคำชมจากคนดูเป็นอย่างมาก โดยเรตติ้งเปิดตัวช่วงแรกอยู่ที่ 2.2 และช่วงที่สองจบที่ 2.9 แม้ว่าละครเรื่องจะไม่ได้ดูหวือหวา แซ่บมันส์อย่างละครเรื่องอื่นๆ แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่ออกแนวน่ารักใสๆ ดูแล้วสบายตาสบายใจ ทำให้เรตติ้งตอนที่สองขยับแตะเลข3 โดยได้ไป 3.2 และตอนที่3 ขยับขึ้นไปที่ 3.3
ด้าน "Club Friday The Series 9 รักครั้งหนึ่ง ที่ไม่ถึงตาย" ที่มาถึงตอน "รักมาก...มากรัก" ของช่อง GMM25 ซึ่งออนแอร์คืนวันเสาร์ ยังคงเสิร์ฟความแซ่บไม่มีหยุด โดนใจคอละครจนเกิดกระแสอือฮาในโลกโซเชี่ยล แต่เรตติ้งจะสูงหรือไม่ต้องรอลุ้นกัน
ส่วนช่อง 7 ก็ส่งละคร "ทิวลิปทอง" ละครบู๊แอคชั่น ที่การันตีความสนุกโดยผู้จัดมือทอง "ฉลอง ภักดีวิจิตร" ที่งานนี้ทุ่มทุนยกกองไปถ่ายไกลถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ ส่วนจะมีระเบิดภูเขาเผากระท่อมอีกหรือเปล่าก็ต้องรอชมกันเอง แต่ในแง่ของกระแสถือว่ามีทั้งคำติและคำชม บ้างก็ว่าละครสนุก มันสะใจ แต่บางกระแสก็บอกว่าน่าผิดหวังนิดหน่อย เพราะปกติละครของอาหลองต้องเปิดตัวได้มันกว่านี้ รวมถึงคิวบู๊หลายๆฉากที่ดูเหมือนจะผิดฟอร์มไปเยอะ แต่เรตติ้งเปิดตัวช่วงแรก 5.8 และช่วงสอง 5.3 ก็ถือว่าไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่ ตอนที่สองกระโดดขึ้นมาถึง 6.4 และตอนที่สาม 6.2 ส่วนหลังจากนี้เรตติ้งจะเพิ่มขึ้นหรือดิ่งลง ต้องให้คนดูเป็นคนตัดสินกันเอง
งานนี้ไม่รู้ว่าจะออกมาสมกับการทุ่มทุนสร้างหรือเปล่า
แม้ว่าปัจจุบันบางช่องอาจจะบอกว่าเรตติ้งไม่สำคัญเท่ากับละครโดนใจคนดู แต่เชื่อเถอะว่าลึกๆแล้วทุกช่องก็หวังให้ละครตัวเองมีเรตติ้งสูงๆ อย่างน้อยๆก็เป็นการการันตีว่าละครเรื่องนั้นมีคนดูมากเป็นอันดับหนึ่ง เพื่อเป็นการเชิดหน้าชูตาให้กับช่องของตัวเอง
เอาเป็นว่ารอลุ้นกันดีกว่าว่าละครเรื่องไหนจะครองใจผู้ชม จนสามารถคว้าแชมป์เรตติ้งสูงสุดของละครไตรมาสสุดท้ายไปครองได้สำเร็จ สิ้นปีนี้ได้รู้กันแน่ว่าใครจะเปรี้ยงหรือใครจะแป้ก