“นาย” เปิดใจเรียนจบ! วางแผนอนาคตอยากมีธุรกิจ
อีกหนึ่งนักแสดงหนุ่มสุดฮอต “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ที่ตอนนี้เขาเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเมื่อทาง “ดาราเดลี่” มีโอกาสคุยกับหนุ่ม “นาย” เขาก็เผยถึงแผนในอนาคต พร้อมอัพเดทเรื่องงานให้ฟังอีกด้วย ว่า
สำหรับเรื่องเรียนตอนนี้เราเองเรียนจบจากมหาวิทลัยมหิดล อินเตอร์ สาขาออกแบบนิเทศศิลป์ Communication Design Program แล้วที่ผ่านมาเราเล่นละคร อยู่ในช่วงทำธีสิส ตลอดเวลา 1 ปี ในเวลา 7 วัน เราเองไม่ได้หยุดพัก เพราะตั้งใจทำให้จุดประสงค์นั้นสำเร็จ เวลาไปกองละครก็นำงานไปนั่งทำ ตอนกลางคืนก็นั่งทำสลับกันไป เป็นช่วงที่ต้องอดทนมาก
ในส่วนของธีสิสทำเกี่ยวกับเรื่องกับบทไตรรัตน์ ซึ่งทำเป็นแคมเปญ แต่ไม่ได้นำเสนอว่าเป็นพระพุทธศาสนา สามารถหาดูได้ใน YouTube เพราะทำเป็นวิดีโอเกี่ยวกับงาน แคมเปญงานดีไซน์ ชื่อว่า "แกว่ง แกร่ง อยู่ที่จะเลือกมอง" แรงบันดาลใจในการทำเรื่องนี้เพราะคุณแม่สอนเกี่ยวกับไตรรัตน์มาตั้งแต่เด็ก เป็นกฎธรรมชาติของชีวิตเราที่มนุษย์ทุกคนต้องเจอ พอยอมรับและเข้าใจกฎนี้ได้ทำชีวิตเรากลายคนเป็นโพสิทีฟขึ้น ทุกคนต้องมีการเติบโต เจอปัญหาอะไรต่างๆ แต่ถ้าเรายอมรับว่ามันเป็นสิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นก็จะทำให้ชีวิตทุกคนเวลามีปัญหาจะไม่จมปลักอยู่ในปัญหานั้นนาน ก็เลยอยากจะเอาข้อนี้ที่เรารู้สึกว่ามันเป็นผลดีกับเรามาแชร์ให้คนอื่นได้ดูผ่านสิ่งที่ตนเองใช้เวลาทำศึกษาจากมหาวิทยาลัย มาสร้างให้เป็นประโยชน์กับทุกส่วนแทน และตอนนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว เหลืออีก 3 อาทิตย์
พองานสำเร็จเราเองรู้สึกภูมิใจมาก ตอนนี้เริ่มดูแลตนเองได้ จากที่ต้องคอยประคองไว้ การศึกษาต่อโทตอนนี้กำลังศึกษาอยู่เหมือนกัน อยากทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ได้ดูที่จุฬาฯ ไว้ ยังไม่แน่ใจสักเท่าไร แต่ลองดูที่นี่ไว้
ด้านการวางแผนอนาคตไว้ว่าจะทำสิ่งที่ตนเองชอบ รัก และเต็มที่ที่จะทำ ซึ่งตนเองโชคดีมีหลายสิ่งที่ชอบ อย่างเรื่องการแสดงมีคนคอยสนับสนุน คอยติดตามผลงาน ไม่อยากทำให้ผิดหวัง เราเองรู้สึกสนุกกับการทำงาน ทุกเช้าอยากตื่นไปกองถ่าย
ในเรื่องของผลงานงานเพลงเราก็อยากทำด้วย ชอบเล่นกีตาร์ ร้องเพลง มีเรื่องเกี่ยวกับการเรียนกราฟิกดีไซน์ ซึ่งเราจะไม่ทิ้งแน่นอน มีแพลนว่าจะทำธุรกิจเหมือนกัน แต่ยังไม่ขออธิบาย เพราะไม่อยากทิ้งสิ่งที่ตนเองเรียนมา ผลงานตอนนี้นอกจากละครเรื่อง “รักกันพัลวัน” แต่มีผลงานอีกเรื่องยังสรุปไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร คาดว่าจะเปิดกล้องปีหน้า
ภาพยนตร์ก็จะมีให้ชมกันอีก ก็แล้วแต่ความเหมาะสมว่าผู้ใหญ่จะเห็น งานละครกับภาพยนตร์เราชอบทั้งสองอย่าง รู้สึกสนุก ถ้ามีโอกาสที่เหมาะสมเราเองอยากทำทั้งหมด
ด้านผลงานเรื่องแรก “รักพัลวัน” เป็นละครที่ดูแล้วสบาย ผ่อนคลาย ดูได้ทุกเพศทุกวัย เป็นอะไรที่น่าติดตามมาก ทุกคนตั้งใจถ่ายทำเรื่องนี้กันมาก ใช้เวลา 1 ปีเต็มๆ ฝากติดตามด้วย